เด็ก ๆ อาจไม่รู้ว่า นิทานธรรมะก็สนุกได้ และไม่จำเป็นต้องสอนแต่เรื่องความดีความชั่ว ซึ่งนิทานเรื่องนี้เป็นนิทานธรรมะ ที่พี่นำบุญแต่งและใช้เล่า เวลาไปช่วยพระอาจารย์นำเด็ก ๆ เจริญสติ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ลองอ่านกันดูนะครับ
นิทานธรรมะ : เจ้าหญิงนักเลี้ยงแมว
กาลครั้งหนึ่ง มีพระราชาองค์หนึ่ง ทรงมีโอรสและธิดารวม 4 พระองค์ เจ้าชายองค์โตทรงถนัดเรื่องการต่อสู้ เจ้าชายองค์รองทรงเชี่ยวชาญ การออกแบบเครื่องยนต์กลไก การทำกับดัก และอาวุธทุ่นแรง เจ้าชายองค์ที่สามเก่งเรื่องเล่นแร่แปรธาตุ และการผสมยานานาชนิด ส่วนเจ้าหญิงองค์สุดท้อง
ทรงไม่เก่งในเรื่องใด ๆ เลย…นอกจากการเลี้ยงดูแมวตัวน้อย ด้วยความรักความเอาใจใส่
วันหนึ่ง พระราชาทราบข่าวว่า มีกองทัพหนูนับพันตัว บุกเข้าไปยังเมืองต่าง ๆ แล้วกัดกินพืชพันธุ์ธัญญาหาร รวมทั้งทำร้ายผู้คน ที่แย่ไปกว่านั้นคือ กองทัพหนูตั้งท่าจะเคลื่อนพล มายังเมืองของพระราชา ด้วยเหตุนี้ พระราชาจึงให้ลูก ๆ ช่วยกันคิดวิธีปกป้องบ้านเมือง จากการกองทัพหนู
เมื่อได้รับมอบหมาย เจ้าชายองค์โตจึงคิด…คิด…แล้วก็คิด เจ้าชายคิดจัดการกับกองทัพหนู ด้วยกำลังและอาวุธได้เป็นร้อยเป็นพันวิธี
ยิ่งคิดก็ยิ่งมัน ยิ่งมันก็ยิ่งคิด เจ้าชายองค์โตคิดจนนอนไม่หลับ ทำให้ปวดหัวตุบ ๆ ถึงขั้นหายใจติดขัด จนล้มป่วยลงโดยไม่มีใครคาดคิด!
ฝ่ายเจ้าชายองค์รอง พระองค์ก็ทรงคิด…คิด…แล้วก็คิด เจ้าชายคิดกลไกในการสร้างกับดักหนู
ได้เป็นร้อยเป็นพันแบบ
ยิ่งคิดก็ยิ่งมัน ยิ่งมันก็ยิ่งคิด เจ้าชายองค์รองคิดจนหัวหมุนไปหมด จนท้ายที่สุด พระองค์ก็หัวหมุนจนสลบ และต้องพักรักษาตัวในทันที
ส่วนเจ้าชายองค์ที่สามนั้น พระองค์ทรงคิดยาเบื่อและยาพิษ เอาไว้กำจัดหนูได้เป็นร้อยเป็นพันสูตร
ยิ่งคิดก็ยิ่งมัน ยิ่งมันก็ยิ่งคิด เจ้าชายองค์ที่สามคิดสูตรยาพิษที่ร้ายกาจมากขึ้น ๆ แต่การคิดเรื่องร้าย ๆ ทำให้เจ้าชายนึกกลัวยาพิษของตัวเอง จนความกลัวทำให้พระองค์ล้มป่วย
เมื่อเจ้าชายทั้งสามป่วยกันหมด เจ้าหญิงจึงเป็นความหวังเดียว ที่จะช่วยปกป้องเมืองได้ ในคืนหลังจากได้รับมอบหมายภารกิจ เจ้าหญิงกลับมาที่ห้อง แล้วคิดไตร่ตรองอยู่สักพัก จากนั้น พระองค์ก็ตัดสินใจทำสิ่งเดียวที่พระองค์ทำได้… นั่นคือการเลี้ยงแมว!
ครั้นเมื่อคิดเสร็จ เจ้าหญิงก็มุ่งมั่นเลี้ยงแมว…เลี้ยงแมว…แล้วก็เลี้ยงแมว เมื่อเจ้าหญิงไม่เข้าไปพัวพันกับความคิด แต่มีสติอยู่กับหน้าที่ที่ตัดสินใจทำ จิตใจของเจ้าหญิงจึงสงบสุขเป็นปกติ ส่วนร่างกายก็ยังคงแข็งแรงไม่ล้มป่วยเหมือนพี่ ๆ ที่เอาแต่คิด คิด แล้วก็คิดแบบไม่รู้จบ
ครั้นเมื่อเวลาผ่านไป ทหารยามแจ้งให้พระราชาทราบว่า กองทัพหนูกำลังมุ่งหน้าตรงมายังเมือง ช่วงเวลานั้น เจ้าชายทั้งสามยังคงป่วยอยู่ พระราชาจึงกลัดกลุ้ม เพราะไม่รู้ว่าจะปกป้องเมืองเอาไว้ได้อย่างไร เมื่อเจ้าหญิงเห็นพระราชาทรงทุกข์ใจ เจ้าหญิงองค์น้อยจึงปลอบพระราชา พร้อมกับบอกพระบิดาว่า “เรื่องจัดการหนู ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแมวเถอะเพคะ”
คืนวันนั้น กองทัพหนูบุกเข้ามาในเมือง แต่ทันทีที่พวกหนูเข้ามา พวกมันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอันตราย พวกหนูรู้ดีว่านั่นคือกลิ่นของแมว แต่กลิ่นของแมวตัวนี้ต่างออกไป เพราะมันช่างสงบและเยือกเย็น จนชวนให้ขนลุกชัน ชนิดที่ทำให้พวกหนูก้าวขาแทบไม่ออก
“กลิ่นแบบนี้ต้องเป็นกลิ่นของแมวที่ร้ายกาจมากแน่ ๆ” พวกหนูตัวเมียคิด
“เจ้าแมวคงยิ้มหวาน เพราะจะได้กินพวกเราจนพุงกางแน่ ๆ” พวกหนูตัวผู้คิด
“ถ้าต้องเผชิญหน้ากับแมวตัวนี้ พวกเราคงไม่มีโอกาสรอดออกมาแน่ ๆ” หัวหน้าหนูคิด
พวกหนูคิด..คิด…แล้วก็คิด พวกมันคิดกันไปต่าง ๆ นานา ท้ายที่สุด พวกหนูจึงพากันวิ่งออกจากเมืองอย่างอลหม่าน ซึ่งหลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครได้ยินข่าว เรื่องการรวมตัวของกองทัพหนูอีกเลย
ในที่สุด เจ้าหญิงที่ไม่เก่งในเรื่องใด ๆ ก็จัดการพวกหนูได้สำเร็จ พระราชาและเจ้าชายทั้งสาม
ต่างชื่นชมเจ้าหญิงด้วยความจริงใจ และแล้ว…เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงอย่างมีความสุข
หมายเหตุ : การเลี้ยงแมว ก็เปรียบเสมือนการเจริญสตินั่นเอง เมื่อเราเจริญสติไปเรื่อย ๆ สติก็จะเข้มแข็งและมีพลังมากขึ้นได้ในที่สุด
#นิทานนำบุญ
หมายเหตุถึงผู้อ่าน :
หลังจากที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ทดลองทำเว็บไซต์มาเป็นเวลา 3 ปี โดยผมเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเช่า Host และการซื้อ Package ของเว็บไซต์ด้วยตัวเอง ราวปีละ 3000-4000 บาท สิ่งที่ผมเริ่มกังวลคือ หากวันใดวันหนึ่ง….ผมไม่อยู่แล้ว เว็บไซต์นี้และนิทานทั้งหมดก็อาจหายไปด้วย ดังนั้น ผมจึงอยากขออนุญาตนำแนวคิดเรื่องการ “เลี้ยงกาแฟ” ให้แก่ผู้สร้างสรรค์ผลงานมาใช้ กล่าวคือ ถ้าคุณผู้อ่านเห็นว่าเว็บไซต์นิทานนำบุญมีประโยชน์ และไม่ลำบากที่จะสนับสนุนการจัดทำเว็บไซต์นี้ให้อยู่ไปยาว ๆ คุณผู้อ่านสามารถโอนเงินมาเลี้ยงกาแฟผมประมาณ “ปีละ 1 บาท” หรือตามที่เห็นสมควร เพื่อให้เว็บไซต์นิทานนำบุญ สามารถยืนหยัดสร้างความสุขให้เด็ก ๆ จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่งได้แบบยั่งยืนครับ (แต่ถ้าไม่สะดวกเลี้ยงกาแฟผมก็ไม่ว่ากันนะครับ แค่แวะเข้ามา ผมก็ดีใจมาก ๆ แล้ว)
ด้วยเหตุนี้ ผมจึงขอแจ้งรายละเอียดบัญชีธนาคารไว้ดังนี้ : บัญชีธนาคารกรุงศรี สาขาสำโรง ชื่อบัญชี นายนำบุญ นามเป็นบุญ บัญชีเลขที่ 063-1-87969-1
