อาชีพนักเขียนนิทานของผม คล้ายกับอาชีพคนปลูกดอกไม้ คือปลูกดอกไม้เพื่อให้ความสุขแก่คนที่ได้พบเห็น เมื่อผมคิดได้แบบนี้ ผมจึงแต่งนิทานเรื่อง “ชายผู้ปลูกดอกไม้สีจาง” ซึ่งในแง่หนึ่งอาจดูเหมือนเป็นนิทานหรือเรื่องสั้นเกี่ยวกับดอกไม้ แต่ลึก ๆ แล้ว เป็นนิทานเกี่ยวกับความอดทน ความเพียรพยายาม หรือความมุ่งมั่น ตามแนวคิดที่ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น ดังนั้น หากใครมีความฝัน ก็ขอเป็นกำลังใจให้มุ่งมั่นทำความฝันต่อไป เพราะเมื่อถึงวันหนึ่ง ความเพียรพยายามในสิ่งที่ทำอยู่ก็น่าจะบรรลุผลสำเร็จ ท้ายสุด ผมหวังว่าคุณผู้อ่านจะชอบดอกไม้ในสวนของผม ดอกไม้ที่ไม่ค่อยหอม ไม่ค่อยฉูดฉาด แต่เป็นดอกไม้สีจาง ๆ ที่ปลูกด้วยหัวใจ….ดวงจริง
นิทานเรื่อง ชายผู้ปลูกดอกไม้สีจาง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองของนักปลูกดอกไม้ ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนที่ชอบดอกไม้สีจางเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเลือกปลูกดอกไม้สีจางในแปลงดอกไม้ของเขา แทนที่จะปลูกดอกไม้สีฉูดฉาดหรือดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมฟุ้งเช่นเดียวกับชาวเมืองคนอื่น ๆ
อยู่มาวันหนึ่ง มีพ่อค้าผู้ร่ำรวยเดินทางเข้ามาในเมืองเพื่อเลือกดอกไม้นำไปขายต่อ ชาวเมืองต่างหวังว่าพ่อค้าจะสนใจซื้อดอกไม้ที่ตนปลูก พ่อค้าเดินดูดอกไม้ในแปลงต่าง ๆ อยู่นานจนมาหยุดที่แปลงดอกไม้สีจาง จากนั้น พ่อค้าก็ตัดสินใจสั่งซื้อดอกไม้ โดยเลือกดอกไม้สีฉูดฉาดจากแปลงดอกไม้แปลงหนึ่ง ซึ่งน่าจะขายต่อและทำกำไรได้ง่ายที่สุด
ชายหนุ่มผู้ปลูกดอกไม้สีจางผิดหวัง แต่เขาก็ยังชอบดอกไม้สีจางอยู่ดี ชายหนุ่มจึงให้กำลังใจตนเองว่า การที่พ่อค้าไม่ซื้อดอกไม้ของเขาในวันนี้ อาจเป็นเพราะมีสิ่งที่ดีกว่ารอเขาอยู่ในอนาคต
ในเวลาต่อมา มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งเดินทางเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อหาดอกไม้ที่คู่ควรกับพระองค์ เจ้าหญิงทรงเดินดูดอกไม้ในแปลงต่าง ๆ อยู่นาน จนมาหยุดที่แปลงดอกไม้สีจาง จากนั้น เจ้าหญิงก็ตัดสินใจเลือกดอกไม้ โดยเลือกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมฟุ้งจากแปลงดอกไม้แปลงหนึ่ง ซึ่งน่าจะนำไปสกัดเป็นน้ำหอมที่เหมาะกับพระองค์ได้มากที่สุด
ชายหนุ่มผู้ปลูกดอกไม้สีจางผิดหวัง แต่เขาก็ยังชอบดอกไม้สีจางอยู่ดี ชายหนุ่มจึงให้กำลังใจตนเองอีกครั้งว่า การที่เจ้าหญิงไม่ซื้อดอกไม้ของเขาในวันนี้ อาจเป็นเพราะมีสิ่งที่ดีกว่ารอเขาอยู่ในอนาคต
หลายปีผ่านไป มีคนเข้ามาเลือกหาดอกไม้หลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีใครเลือกดอกไม้สีจางที่ชายหนุ่มปลูกเลย ชายหนุ่มท้อ แต่เขาก็ยังชอบดอกไม้สีจางอยู่ดี ชายหนุ่มรักความงามอันอ่อนโยนของดอกไม้สีจางที่หลายคนอาจมองไม่เห็น เขาเชื่อมั่นในสิ่งที่เขารัก เขาจึงตั้งใจปลูกดอกไม้สีจางต่อไป โดยพยายามปลอบใจตนเองว่า การที่ไม่มีใครซื้อดอกไม้ของเขาในวันนี้ อาจเป็นเพราะมีสิ่งที่ดีกว่ารอเขาอยู่ในอนาคต
และแล้ววันหนึ่ง มีชายชราผู้หนึ่งเดินทางเข้ามาในหมู่บ้านเพื่อหาดอกไม้เป็นของขวัญให้ภรรยาในวันครบรอบการแต่งงานปีที่ 30
ชายชราเดินดูดอกไม้ในแปลงต่าง ๆ อยู่นาน จนมาหยุดที่แปลงดอกไม้สีจาง เขามองดอกไม้สีจางด้วยดวงตา และรับรู้ถึงความอ่อนโยนของมันได้ด้วยดวงใจ ชายชราคิดว่า แม้ดอกไม้สีจางจะไม่ฉูดฉาดสะดุดตาหรือมีกลิ่นหอมฟุ้งแบบดอกไม้อื่น ๆ แต่มันเป็นดอกไม้ที่แสนอ่อนโยนและน่าจะช่วยทำให้หัวใจเบิกบานทุกครั้งที่ได้เห็น ชายชราจึงตัดสินใจเลือกดอกไม้สีจางเป็นของขวัญให้ภรรยาที่เขารัก
ชายหนุ่มดีใจมากที่มีคนเห็นความงามของดอกไม้สีจางที่เขาปลูก แต่เขาก็ต้องแปลกใจ เมื่อชายชราเอ่ยปากขอให้ชายหนุ่มตามไปปลูกและดูแลดอกไม้สีจางที่แปลงดอกไม้ในวังหลวง!
ใช่แล้ว…ชายชราก็คือพระราชาผู้แสนดีที่แอบมาหาของขวัญวันพิเศษสำหรับพระราชินีสุดที่รัก
เมื่อพระราชาตัดสินใจเลือกดอกไม้สีจางเป็นของขวัญครบรอบวันแต่งงาน พระราชาจึงชวนชายหนุ่มให้ไปทำงานเป็นอัศวินผู้มีหน้าที่ดูแลแปลงดอกไม้สีจางที่พระองค์ตั้งใจมอบให้พระราชินีเป็นของขวัญ
ชายหนุ่มเพิ่งเข้าใจว่า การที่โชคชะตาดลบันดาลไม่ให้ใคร ๆ มาสนใจดอกไม้สีจางของเขาก็เพื่อรอให้ถึงวันนี้…วันที่พระราชาจะมาพบดอกไม้สีจางที่เขารักและชวนเขาเข้าไปทำงานในวัง ชายหนุ่มดีใจที่ตนเองเชื่อมั่นในสิ่งที่รักและมุมานะทำสิ่งที่ฝันโดยไม่ยอมย่อท้อ
ในที่สุด ชายหนุ่มก็ได้เป็นอัศวินดอกไม้สีจางและได้ปลูกดอกไม้ที่เขารักในวังหลวงอย่างมีความสุขตลอดชั่วชีวิต
“นิทานนำบุญ”
