นิทานก่อนนอนที่มุ่งชี้ให้ผู้คนเห็นคุณค่าของผู้สูงอายุเรื่องนี้ เป็นนิทานพี่นำบุญตั้งใจแต่งเพื่อให้เด็ก ๆ หันมามองคุณค่าของผู้สูงวัย ซึ่งเป็นวัยที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง แต่สังคมปัจจุบันมักมองข้ามผู้สูงอายุ ทั้ง ๆ ที่การสั่งสมความรู้และประสบการณ์ผ่านกาลเวลาเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้ หวังว่านิทานเรื่องนี้จะกระตุ้นเตือนบางสิ่งบางอย่างในใจของพวกเราและทำให้เกิดสิ่งดีงามขึ้นในสังคมนะครับ มาลองอ่านนิทานเรื่องนี้กันดูครับ
นิทานเรื่อง หญิงชราลึกลับกับชาวเมืองฮัดเช่ย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหญิงชราผู้หนึ่งเดินทางเข้ามาในเมืองฮัดเช่ย ซึ่งเป็นเมืองที่ฝนตกบ่อยจนผู้คนเป็นหวัดกันเกือบตลอดทั้งปี ไม่มีใครรู้เลยว่าหญิงชราผู้นี้เป็นใครมาจากไหน แต่สิ่งเดียวที่พวกเขาพอจะทราบก็คือ เธอเป็นหญิงชราแปลกหน้าที่เดินทางมาจากป่าลึกลับ
หลังจากหญิงชราเข้ามาในเมืองฮัดเช่ยได้ไม่นาน เธอก็ตรงไปยังบ้านหลังใหญ่ของเศรษฐีเพื่อขออาศัยโดยอาสาจะช่วยทำงานให้เป็นการแลกเปลี่ยน แต่เศรษฐีคิดว่าหญิงชราคงเป็นภาระมากกว่าจะเป็นประโยชน์ ดังนั้น เศรษฐีผู้เป็นหวัดเรื้อรังมาหลายเดือนจึงปฏิเสธพร้อมกับไล่หญิงชราไปเสียให้พ้น ๆ
หญิงชราเดินทางต่อจนเจอร้านขายของจึงตรงเข้าไปเจรจาเพื่อขออาศัยด้วย แม้หญิงชราจะเสนอตัวช่วยทำงานให้ แต่พ่อค้าเห็นว่าหญิงชราอายุมากแล้ว คงไม่มีความสามารถพอจะทำงานอะไรได้ พ่อค้าผู้เป็นหวัดฟุดฟิดจึงปฏิเสธแล้วบอกหญิงชราให้ไปหาที่พักที่อื่น
หญิงชรายังคงไม่ละความพยายาม เธอเดินต่อไปจนพบบ้านของชาวไร่ชาวนาที่มีฐานะไม่สู้ดีนัก เมื่อหญิงชราตรงเข้าไปขอพักอาศัย พวกชาวไร่ชาวนาซึ่งกลัวว่าหญิงชราจะมาเป็นภาระจึงรีบบอกปัดพร้อม ๆ กับจามฮัดเช่ย ๆ เหมือนเป็นการไล่ส่ง
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งค่อนวัน หญิงชราเที่ยวเดินขออาศัยตามบ้านต่าง ๆ หลังแล้วหลังเล่า แต่ก็ไม่มีใครยินดีต้อนรับหญิงสูงอายุอย่างเธอเลยแม้แต่คนเดียว หญิงชราเริ่มปวดหัวเหมือนจะติดไข้หวัด เธอจึงเข้าไปนั่งพักในเพิงเล็ก ๆ ตรงชายป่าแล้วเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
หญิงชราตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะมีเด็กน้อยสองพี่น้องเข้ามาทักและเชิญให้เธอไปพักยังบ้านของพวกเขา เมื่อหญิงชราตามไปจนถึงบ้านของเด็ก ๆ เธอจึงได้รู้ว่าเด็กทั้งสองเป็นเด็กกำพร้าที่เพิ่งสูญเสียพ่อกับแม่ไปได้ไม่นานนัก เมื่อไม่มีพ่อกับแม่ สองพี่น้องผู้ยากไร้จึงจำต้องเลิกเรียนหนังสือและต้องเก็บผักเก็บหญ้าหาเลี้ยงตัวเองเท่าที่พอจะทำได้
อย่างไรก็ตาม แม้เด็กน้อยทั้งสองจะยากจน แต่พวกเขากลับรวยน้ำใจ เมื่อหญิงชรามาถึงบ้าน เด็กชายผู้พี่ก็จัดการต้มน้ำแกงร้อน ๆ ให้แขกสูงวัย ส่วนน้องสาวก็พาหญิงชราไปอาบน้ำอุ่นแล้วนำเสื้อผ้าของแม่มาให้หญิงชราเปลี่ยนพร้อมกับช่วยบีบนวดเพื่อคลายความปวดเมื่อย
หญิงชราปลื้มใจมากที่ได้รับน้ำใจจากเด็กทั้งสอง เธอเชื่อว่าพ่อแม่ของเด็กน้อยต้องอบรมลูกมาเป็นอย่างดีแน่ ๆ หญิงชรารู้สึกอบอุ่นใจ เธอจึงเอ่ยปากขออาศัยและจะทำงานให้เป็นการแลกเปลี่ยน เด็กทั้งสองไม่ต้องการให้หญิงชราเหนื่อย แต่ก็ยินดีให้หญิงชราพักอยู่ด้วยอย่างไม่มีเงื่อนไข ในที่สุด หญิงชราก็ได้ที่พำนักดังที่เธอตั้งใจเอาไว้
เช้าวันรุ่งขึ้น สองพี่น้องตื่นขึ้นมาแต่เช้า แต่ก็ยังสายกว่าหญิงชราที่ลุกจากเตียงมาทำอะไรบางอย่างอยู่ในครัว! เมื่อเด็กทั้งสองเดินเข้าไปดู พวกเขาก็เห็นหญิงชรากำลังต้มสมุนไพรสารพัดชนิดที่เธอนำติดตัวมาจากป่าลึกลับ ซึ่งกลิ่นของสมุนไพรในหม้อต้มทำให้เด็กทั้งสองรู้สึกโล่งจมูกและเหมือนอาการหวัดที่เป็นอยู่ได้หายไปจนหมดสิ้น
ทันทีที่หญิงชราเห็นเด็กน้อย เธอก็ยิ้มแล้วเฉลยให้เด็ก ๆ ฟังว่า จริง ๆ แล้วเธอเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญในการใช้สมุนไพร ซึ่งความรู้ที่เธอได้รับนั้นเป็นความรู้ที่สืบทอดกันมาจากปู่ของปู่ของปู่จนมาถึงรุ่นพ่อและตัวเธอในที่สุด
หญิงชราเล่าต่อไปว่า แรกทีเดียว…เธอมุ่งหน้ามายังเมืองฮัดเช่ยเพราะทราบข่าวเรื่องคนเป็นหวัด แต่สิ่งที่เธอได้พบกลับทำให้เธอแปลกใจมากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะนอกจากผู้คนจะเป็นโรคหวัดแล้ว พวกเขายังเป็นโรครังเกียจคนแก่อีกด้วย!
อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังดีใจที่ได้พบเด็กน้อยถึงสองคนซึ่งไม่รังเกียจคนแก่ ดังนั้น แทนที่เธอจะไปทำงานให้เศรษฐี, พ่อค้า, ชาวไร่ชาวนาหรือชาวเมืองคนอื่น ๆ เธอคิดว่าคงดีกว่าแน่ ถ้าเธอได้นำความรู้มาปรุงยาแก้หวัดขาย แล้วนำเงินส่งเสียให้เด็กดีทั้งสองได้เรียนหนังสือและมีความสุขเหมือนสมัยที่พ่อกับแม่ของเด็ก ๆ ยังมีชีวิตอยู่
สองพี่น้องรู้สึกซาบซึ้งในความเมตตาที่หญิงชรามีให้ แต่เด็ก ๆ ก็ไม่อยากให้หญิงชราต้องเหนื่อยจนเกินไป พวกเขาจึงอาสาช่วยหญิงชราเก็บสมุนไพรในวันหยุดและช่วยทำงานบ้านต่าง ๆ เท่าที่หญิงชราจะอนุญาต
หญิงชรามีความสุขมากที่จู่ ๆ เธอก็เหมือนกับได้หลานที่แสนน่ารักมาถึงสองคน เธอตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะดูแลเด็กน้อยทั้งสองให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานยาสมุนไพรของหญิงชราก็แพร่หลายขายดีจนหญิงชรากับเด็กน้อยสองพี่น้องกลายเป็นอภิมหาเศรษฐีและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา
ชาวเมืองทั้งหลายที่เคยรังเกียจหญิงชราต่างก็ได้รับบทเรียนครั้งสำคัญว่า ผู้สูงอายุมีความสามารถซ่อนอยู่มากกว่าที่พวกเขาคาดคิดหลายร้อยหลายพันเท่า นับจากนั้นเป็นต้นมา นอกจากชาวเมืองฮัดเช่ยจะมีสุขภาพที่ดีขึ้นแล้ว พวกเขาก็ไม่เคยมองข้ามคุณค่าและความ สำคัญของผู้สูงอายุอีกเลย
#นิทานนำบุญ
………………………………….
