นิทานก่อนนอนเรื่อง “เจ้าชายคำเดียว” เป็นนิทานแนวผจญภัย ที่มีปริศนาท้าทายความคิดของเด็ก ๆ รวมทั้งยังมีข้อคิดสอนใจ ที่น่าจะช่วยคุณพ่อคุณแม่ในการปลูกฝังให้ลูกรู้จักคำพูดที่สำคัญมากคำหนึ่ง ซึ่งเด็ก ๆ ควรรู้ และพูดให้ติดปาก นิทานเรื่อง “เจ้าชายคำเดียว” เคยพิมพ์ลงในนิตยสารขวัญเรือนและเคยรวมเล่มอยู่ในหนังสือรวมนิทานชุด “นิทานจากดินแดนนิทาน” นิทานเรื่องนี้นับว่าเป็นนิทานที่มีคนชื่นชอบมากเป็นพิเศษ
นิทานเรื่อง เจ้าชายคำเดียว
เจ้าชายนูโนเป็นเจ้าชายองค์น้อยที่อ่อนน้อมที่สุดในบรรดาเจ้าชายองค์น้อยทั้งหลายในโลกใบนี้ พระองค์มักจะเดินค้อมตัวทุกครั้งที่ต้องเดินผ่านผู้ใหญ่ พระองค์มักจะใช้ถ้อยคำที่แสนสุภาพเวลาที่ต้องสนทนากับผู้ที่มีอาวุโสสูงกว่า และพระองค์ไม่เคยที่จะลืมพูดคำลงท้ายว่า “ครับ” ไม่เว้นแม้กระทั่งการพูดคุยกับเด็ก ๆ ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และสิ่งเหล่านี้เองที่เป็นคุณสมบัติแสนวิเศษที่ทำให้ใครต่อใครพากันหลงรักเจ้าชายอย่างทุ่มเทชีวิตจิตใจให้
ครั้นเมื่อเจ้าชายมีอายุได้ 12 พรรษา ข้าราชการ ทหารและประชาชนต่างก็พร้อมใจกันจัดงานเฉลิมฉลอง ครั้งยิ่งใหญ่ให้แก่เจ้าชายที่พวกเขารัก กองดุริยางค์ช่วยกันประโคมบรรเลงเพลงเฉลิมฉลอง ประชาชนพากันโห่ร้องและจุดดอกไม้ไฟกันตลอดทั้งคืน แสงและเสียงจึงเจิดจรัสและดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทุกสารทิศ
พ่อมดที่เพิ่งสูญเสียภรรยาผู้เป็นที่รักไปรู้สึกไม่พอใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอันมาก ในขณะที่เขากำลังเศร้าโศก พวกชาวเมืองกลับจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างอึกทึกครึกโครม พ่อมดอยากแก้แค้นชาวเมือง
ดังนั้น พ่อมดจึงร่ายคาถาสาปให้บุคคลที่ชาวเมืองรักมากที่สุดกลายเป็นคนที่พูดไม่ได้และไม่สามารถถ่ายทอดความคิดใด ๆ ผ่านการเขียนหนังสือ ด้วยเหตุนี้ เจ้าชายนูโนจึงกลายเป็นคนรับเคราะห์โดยที่ตัวเองไม่รู้ อีโหน่อีเหน่เลยแม้แต่นิดเดียว
นางฟ้าประจำตัวของเจ้าชายนูโนเป็นนางฟ้าองค์น้อยที่รักเจ้าชายยิ่งชีวิต ทันทีที่นางฟ้ารู้ว่าเจ้าชายถูกพ่อมดสาป นางฟ้าองค์น้อยก็เที่ยวบินไปขอความช่วยเหลือจากนางฟ้าองค์อื่น ๆ จนทั่วไปหมด นางฟ้าองค์น้อยอยากให้เจ้าชายกลับมาพูดได้อีกครั้ง แต่อิทธิฤทธิ์ของนางฟ้าทุก ๆ พระองค์เมื่อนำมารวมกันแล้ว ก็ยังไม่สามารถแก้คำสาปของพ่อมดได้ ดังนั้น พรเพียงประการเดียวที่นางฟ้าพอจะมอบให้แก่เจ้าชายได้ก็คือการทำให้เจ้าชาย แต่เจ้าชายจะพูดได้เพียงแค่คำคำเดียวเท่านั้น ซึ่งเจ้าชายจะต้องคิดและตัดสินใจด้วยตนเอง
และก่อนที่เจ้าชายจะเลือกพูดคำใดคำหนึ่งออกมา เหตุการณ์คับขันก็เกิดขึ้น ประเทศเพื่อนบ้านซึ่งต้องทนหนวกหูกับงานเฉลิมฉลองของเจ้าชายนูโน ต่างพร้อมใจกันยกกองทัพมาปิดล้อมเมืองของเจ้าชายนูโนเอาไว้ พระราชาและเจ้าชายจากเมืองต่าง ๆ ประกาศขอให้เจ้าชายนูโนออกมาเป็นผู้เจรจาและชี้แจงเหตุการณ์ทั้งหมดให้ทุก ๆ คนได้ฟัง ซึ่งหากเจ้าชายนูโนบ่ายเบี่ยง กองทัพที่ปิดล้อมอยู่ทั้งหมดก็จะบุกเข้าสู่เมืองของเจ้าชายนูโนทันที
เจ้าชายนูโนจำเป็นต้องไปเผชิญหน้ากับกองทัพของประเทศเพื่อนบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องที่น่าหนักใจที่สุด ที่เจ้าชายซึ่งพูดได้เพียงคำเดียวจำเป็นต้องออกไปอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ให้ทุก ๆ คนเข้าใจ เจ้าชายนูโนพยายามใช้ความคิดที่จะหาคำพูดที่ดีที่สุด ที่สามารถคลี่คลายเรื่องราวทั้งหมดได้ด้วยคำเพียงคำเดียว และหลังจากที่เจ้าชายครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุด เจ้าชายก็ได้คำพูดที่เหมาะสม
เจ้าชายนูโนยืนรับฟังคำติเตียนของพระราชาและเจ้าชายจากเมืองต่าง ๆ อย่างสงบโดยไม่ได้ปริปากแม้แต่นิดเดียว และเมื่อทุก ๆ คนพูดจบ เจ้าชายนูโนก็ค่อย ๆ คำนับเหล่าบรรดาพระราชาและเจ้าชายจากเมืองต่าง ๆ อย่างนอบน้อม จากนั้น พระองค์จึงค่อย ๆ เอ่ยคำพูดเพียงคำเดียวที่พระองค์ทรงพูดได้ให้ทุก ๆ คนได้ฟัง
คำพูดคำเดียวที่เจ้าชายทรงเลือกที่จะพูดนั้นเป็นคำพูดสั้น ๆ ที่ทำให้ความขุ่นเคืองใจหายไปเป็นปลิดทิ้ง และแล้ว เมื่อพระราชาและเจ้าชายจากเมืองต่าง ๆ ได้ฟังคำพูดคำนั้น ทุก ๆ คนต่างก็พากันยกทัพกลับไป โดยไม่มีความขุ่นข้องหมองใจหลงเหลืออยู่เลย
เมื่อเจ้าชายนูโนค้นพบว่า คำพูดที่แสนมหัศจรรย์ซึ่งพระองค์ทรงพูดได้เพียงคำเดียวนั้น เป็นคำพูดที่สามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้ พระองค์จึงตัดสินใจที่จะเดินทางไปหาพ่อมดเพื่อขอร้องให้พ่อมดถอนคำสาปให้แก่พระองค์
เจ้าชายนูโนออกเดินทางตามลำพังเข้าในป่าอย่างกล้าหาญ ท่ามกลางความมืดในป่าทึบ เจ้าชายค่อย ๆ ก้าวอย่างช้า ๆ เพื่อมุ่งหน้าไปยังปราสาทของพ่อมด และก่อนที่เจ้าชายจะทันรู้ตัว เจ้าชายก็เดินพลาดไปเหยียบเข้ากับหางของราชสีห์ เจ้าป่าที่กำลังนอนหลับอยู่
ราชสีห์ส่งเสียงคำรามลั่นด้วยความโกรธ มันกระโจนขึ้นคร่อมตัวของเจ้าชายองค์น้อยและพร้อมที่จะขย้ำเจ้าชายด้วยสัญชาตญาณของสัตว์ป่า แต่อนที่ราชสีห์จะตะปบกรงเล็บเข้าที่ตัวของเจ้าชายนูโนเพียงชั่วเสี้ยววินาทีเดียว เจ้าชายนูโนก็เอ่ยคำคำเดียวที่พระองค์ทรงพูดได้ให้ราชสีห์ฟัง น้ำเสียงที่น่าสงสารประกอบกับถ้อยคำที่แสนมหัศจรรย์ทำให้ความขุ่นเคืองของราชสีห์มลายหายไปจนสิ้น และแล้ว ราชสีห์จึงปล่อยให้เจ้าชายเดินทางต่อไปโดยไม่ได้แตะต้องเจ้าชายแม้แต่ปลายเล็บ
เมื่อเจ้าชายนูโนเดินทางมาถึงปราสาทของพ่อมด พ่อมดได้อกมายืนรอเจ้าชายพร้อมกับเตรียมคาถาบทใหม่เอาไว้ต้อนรับผู้บุกรุก พ่อมดไม่รู้เลยว่า เด็กน้อยผู้น่าสงสารซึ่งเดินทางมายังปราสาทของเขาคือเจ้าชายนูโนผู้โชคร้ายที่ต้องรับคำสาปของพ่อมดไปทั้ง ๆ ที่ตัวของเขาเองนั้นไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยแม้แต่น้อย
ทันทีที่เจ้าชายนูโนเห็นพ่อมด สิ่งแรกที่เจ้าชายทำก็คือการโค้งคำนับคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความนอบน้อม พ่อมดรู้สึกแปลกใจต่อการกระทำของเจ้าชายเป็นอย่างยิ่ง และเขาก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อเขาได้ยินเจ้าชายเอ่ยถ้อยคำที่แสนมหัศจรรย์ออกมา
นางฟ้าปรากฏตัวขึ้นแล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พ่อมดฟัง พ่อมดรู้สึกผิดมากที่คำสาปของเขาทำให้เจ้าชายที่แสนน่ารักต้องรับเคราะห์ไปโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ พ่อมดรีบถอนคำสาปให้แก่เจ้าชายทันที จากนั้น พ่อมดก็จัดงานเลี้ยงเพื่อปลอบขวัญให้แก่เจ้าชายองค์น้อย
ในเวลาต่อมา เมื่อเจ้าชายองค์น้อยเดินทางกลับมาถึงเมืองของเขาโดยสวัสดิภาพ ผู้คนทั้งหลายต่างก็พากันซักถามเจ้าชายว่า คำพูดมหัศจรรย์ที่ช่วยให้เจ้าชายคลี่คลายปัญหาต่าง ๆ ได้นั้นคือคำว่าอะไร
เจ้าชายนูโนได้แต่ยิ้มอย่างถ่อมตัวก่อนที่จะตอบให้ทุก ๆ คนได้รับความกระจ่างว่า คำพูดคำเดียวที่พระองค์ทรงพูดกับทุก ๆ คนนั้นเป็นคำพูดสั้น ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถพูดได้เหมือน ๆ กัน และคำพูดมหัศจรรย์ที่ช่วยให้ความขุ่นข้องหมองใจหายไปเป็นปลิดทิ้งก็คือคำว่า “ขอโทษครับ” ที่เจ้าชายพูดจนติดปาก และช่วยให้เหตุการณ์ทั้งหมด…จบลงได้ด้วยดี
#นิทานนำบุญ
………………

รักเลยค่ะ อ่านให้ลูกฟัง ลูกชอบมากค่ะ
ร่วมกาแฟคุณแล้วนะคะ ขอบคุณค่ะ ที่สร้างสิ่งดีๆให้เราได้มีอ่านกัน
LikeLike
ขอบพระคุณมาก ๆ นะครับ
LikeLike
ขอบคุณค่ะที่สร้างเรื่องดีๆเหล่านี้มาให้อ่าน คนคุยชอบมากอ่านให้ฟังทุกคืน
LikeLike
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ
LikeLike