นิทานเรื่องนี้ เป็นนิทานสอนใจที่น่าจะเหมาะกับเด็กที่ซุกซน ชอบฝืนกฏหรือคำเตือนต่าง ๆ ที่ผู้ใหญ่บอกไว้ คุณครูอาจใช้นิทานเรื่องนี้เป็นนิทานนักเรียนหรือนิทานเพื่อให้เด็กบันทึกการอ่านก็ได้นะครับ เพราะนิทานอ่านง่าย มีข้อคิดสอนใจที่ชัดเจน หวังว่านิทานเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์กับทุก ๆ คนนะครับ
นิทานเรื่อง กุ๋มก๋อมกับกล่องแสนกล
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพี่น้องคู่หนึ่งชื่อว่ากุ๋มกับก๋อม กุ๋มเป็นพี่ชายของก๋อม ส่วนก๋อมเป็นน้องสาวของ กุ๋ม ทั้งกุ๋มและก๋อมเป็นเด็กจอมซน วันทั้งวัน ทั้งคู่ไม่ทำอะไร ยกเว้นแต่จะหาเรื่องเล่นซุกซนจนทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องปวดหัว
คุณพ่อกับคุณแม่ของกุ๋มกับก๋อมมีงานมาก คุณพ่อเป็นนักมายากลฝีมือเยี่ยม ส่วนคุณแม่เป็นผู้ช่วยคนเก่งของคุณพ่อ เวลาที่ท่านทั้งสองไม่อยู่บ้าน กุ๋มกับก๋อมมักเที่ยวเล่นรื้อค้นข้าวของต่าง ๆ ในบ้านจนกระจุยกระจายไปหมด กุ๋มกับก๋อมชอบเข้าไปในห้องเก็บของของคุณพ่อคุณแม่มากที่สุด อุปกรณ์แสดงกลชิ้นไหนที่คุณพ่อคุณแม่เคยห้ามไว้ไม่ให้ยุ่ง พวกเขาก็จะยุ่งอย่างไม่สนใจคำเตือนของคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อคุณแม่ไม่อยากให้ลูก ๆ ติดนิสัยชอบรื้อค้นของของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้น ท่านจึงคิดหาวิธีดัดนิสัยของสองพี่น้องจอมซน
วันหนึ่ง คุณพ่อกับคุณแม่ช่วยกันยกกล่องสี่เหลี่ยมรูปลูกเต๋าเข้าไปวางไว้ในห้องเก็บของกล่องของคุณพ่อคุณแม่เป็นกล่องสีดำที่มีลวดลายสีเงินเป็นรูปดวงดาวต่าง ๆ ชวนให้รู้สึกพิศวง กุ๋มกับก๋อมมองกล่องปริศนาที่คุณพ่อคุณแม่ยกผ่านหน้าไปตาไม่กระพริบ ทั้งคู่สงสัยว่ามีอะไรอยู่ในกล่องใบนั้นกันแน่ และยิ่งเมื่อคุณแม่บอกกับพวกเขาว่า “ห้ามยุ่งกับกล่องใบนี้เด็ดขาด!” กุ๋มกับก๋อมจึงเกิดอาการอยากรื้อของในกล่องออกมาดูมากเป็นพิเศษ และเมื่อคุณพ่อคุณแม่ออกไปทำงาน ปฏิบัติการของสองจอมซนก็เริ่มต้นขึ้นทันที
กุ๋มกับก๋อมพากันย่องเข้าไปในห้องเก็บของของคุณพ่อด้วยหัวใจที่เต้นระทึก คุณพ่อวางกล่องปริศนาเอาไว้บนโต๊ะตัวสูง กุ๋มกับก๋อมอยากดูของในกล่องปริศนามาก แต่พวกเขาตัวเล็กเกินไปจึงชะโงกดูของในกล่องไม่ถึง สองพี่น้องปรึกษากันครู่หนึ่ง จากนั้นพวกเขาก็เอากรรไกรมาตัดโบว์ที่ผูกกล่องของขวัญ แล้วขยับตัวเข้าชิดกับโต๊ะ จากนั้น ก็ยืนเขย่งให้ตัวสูงขึ้นอีกนิด เพื่อที่จะสามารถล้วงไปหยิบของในกล่องออกมาดูได้
ก๋อมเอื้อมมือล้วงลงไปในกล่องเป็นคนแรก เด็กน้อยอธิษฐานออกมาเบา ๆ ว่า “ขอให้เป็นของน่ารัก ๆ เถอะนะ” และเมื่อก๋อมชักมือของออกมาจากกล่องปริศนา สิ่งที่เธอหยิบออกมาได้ก็คือ เจ้าแมวน้อยขนปุยที่น่ารักเสียจนเด็กน้อยจอมซนอมยิ้มแก้มตุ่ย
เมื่อกุ๋มเห็นน้องสาวหยิบแมวน้อยออกมาจากกล่อง เขาก็เปรยขึ้นมาว่า “ถ้ามีสัตว์เลี้ยงสำหรับเด็กผู้ชายบ้างก็คงจะดีนะ” พูดเสร็จ…กุ๋มก็เอามือล้วงเข้าไปในกล่องบ้าง และเมื่อกุ๋มชักมือของออกมาจากกล่อง สิ่งที่กุ๋มเห็นก็คือเจ้าหมา ที่ทำให้เด็กน้อยตาโตด้วยความตื่นเต้น
ทันทีที่ก๋อมเห็นพี่ชายหยิบหมาออกมา เธอก็รำพึงขึ้นมาบ้างว่า “ถ้ามีของเล่นที่ตัวใหญ่กว่าหมาก็คงจะดีนะ” ว่าแล้ว…ก๋อมก็ล้วงลงไปหยิบของในกล่องออกมาอีก ซึ่งคราวนี้ สิ่งที่เธอหยิบได้ก็คือ ตุ๊กตาช้างตัวใหญ่ ซึ่งใหญ่กว่าตัวก๋อมถึงสองเท่าเลยทีเดียว
เมื่อกุ๋มเห็นตุ๊กตาช้างขนาดใหญ่โตมโหฬารที่น้องสาวหยิบออกมา เขาก็นึกฉุนที่พี่ชายอย่างเขาหยิบของที่มีขนาดใหญ่สู้ไม่ได้ ดังนั้น กุ๋มจึงล้วงมือลงไปในกล่อง พร้อม ๆ กับโพล่งออกมาว่า “มันน่าจะมีอะไรที่ใหญ่กว่านี้นะ” และทันใดนั้นเอง กุ๋มก็รู้สึกว่าเขาสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ
สิ่งที่กุ๋มสัมผัสโดนก็คืออสุรกายตัวเขียวอื๋อที่มีผิวหนังตะปุ๋มตะป่ำดูน่าขยะแขยง เมื่อเจ้าอสุรกายโผล่หน้าออกมาจากกล่อง เด็ก ๆ จอมซนก็พากันอ้าปากค้างด้วยความตกใจ อสุรกายมองเด็ก ๆ ทีละคน จากนั้น มันก็ยื่นมือไปจับตัวของกุ๋มเอาไว้ ก๋อมส่งเสียงร้องกรี้ดเมื่อเห็นเจ้าอสุรกายทำท่าว่าจะอุ้มกุ๋มลงไปในกล่อง! ส่วนกุ๋มที่ยังตกใจไม่หาย เขาทำอะไรไม่ถูก ได้ยืนตัวแข็งทื่อ ในขณะที่ก๋อมวิ่งตรงเข้าไปกอดเอวของพี่ชาย แล้วกระชากตัวพี่ชายให้พ้นจากเงื้อมมือของเจ้าอสุรกายอย่างสุดแรงเกิด
เด็กน้อยทั้งสองกลิ้งหลุน ๆ หลุดออกมาเงื้อมมือของเจ้าอสุรกายตัวเขียว และเมื่อกุ๋มกับก๋อมตั้งหลักได้ พวกเขาก็รีบเผ่นออกจากห้องเก็บของของคุณพ่อทันที
เมื่อเด็ก ๆ จอมซนวิ่งออกไปจากห้องแล้ว คุณแม่ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะก็ค่อย ๆ คลานออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้เจ้าอสุรกายจำแลง ซึ่งจริง ๆ ก็คือคุณพ่อยอดนักมายากลนั่นเอง
กุ๋มกับก๋อมคงไม่รู้หรอกว่า หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่แกล้งออกไปทำงาน ท่านทั้งสองได้ย้อนกลับมาทางประตูหลังบ้าน แล้วแอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ใต้โต๊ะที่เจาะเป็นช่องต่อกับกล่องปริศนา เพื่อแสดงมายากลชุดพิเศษสำหรับดัดนิสัยลูก ๆ ที่ซุกซนจนเกินขนาด
และหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา กุ๋มกับก๋อมก็ไม่กล้าแตะต้องของของคนอื่นอีกเลย…ตลอดชั่วชีวิต
#นิทานนำบุญ
…………………….

2 thoughts on “กุ๋มก๋อมกับกล่องแสนกล”