Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

นิทานจีนก่อนนอน : วัวสาวเจ้าเสน่ห์

นิทานจีนก่อนนอนเรื่องวัวสาวเจ้าเสน่ห์ เป็นนิทานแนวจีนเรื่องแรกที่พี่นำบุญหัดแต่ง ในช่วงที่แต่งนิทานลงนิตยสารขวัญเรือน  นิทานเรื่องนี้มีเรื่องราวน่ารัก เรียบง่าย  พี่นำบุญเชื่อว่าเด็ก ๆ จะชอบครับ

นิทานจีนก่อนนอน : วัวสาวเจ้าเสน่ห์

          กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  ยังมีหนูน้อยแก้มแดงคนหนึ่งชื่อว่า “หนูเหมา”  ครอบครัวของหนูเหมาเป็นครอบครัวชาวไร่ที่มีฐานะไม่สู้ดีนัก  ด้วยเหตุนี้  หนูเหมาจึงต้องช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของท่านทั้งสอง

          หน้าที่หลักของหนูเหมาคือการดูแลวัวสาวที่มีชื่อว่า “เหม่ยชิง”  ในสมัยนั้น ผู้คนจะวัดฐานะของแต่ละครอบครัวด้วยจำนวนวัวที่พวกเขามีอยู่  แม้ครอบครัวของหนูเหมาจะมีเหม่ยชิงเป็นวัวเพียงตัวเดียวของบ้าน  แต่ด้วยความรักและการดูแลเอาใจใส่ของหนูเหมา  เหม่ยชิงจึงโตขึ้นและกลายเป็นวัวสาวที่มีลักษณะดีที่สุดในละแวกนั้น

          ผู้ใหญ่เฉินเป็นผู้ใหญ่บ้านที่มีจิตใจละโมบและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม  วันหนึ่ง ผู้ใหญ่เฉินบังเอิญผ่านมาเห็นเจ้าเหม่ยชิงซึ่งเป็นวัวที่มีลักษณะดีเด่นเข้า  ผู้ใหญ่เฉินจึงเริ่มคิดแผนการร้าย  โดยเขาตั้งใจที่จะพรากเหม่ยชิงไปจากครอบครัวของหนูเหมา แล้วนำเจ้าวัวสาวไปมอบให้แก่ท่านเจ้าเมืองเพื่อเอาหน้า

          ดึกสงัดของคืนหนึ่ง  ผู้ใหญ่เฉินสั่งให้พวกลูกน้องลอบเข้าไปจุดกำยานรอบ ๆ บริเวณบ้านของหนูเหมา  และเมื่อกลิ่นกำยานซึ่งเจือด้วยยานอนหลับฟุ้งกระจายเข้าไปในบ้าน  ทั้งหนูเหมาและคุณพ่อคุณแม่จึงเผลอตัวหลับไหลไม่ได้สติ 

          ค่ำคืนนั้น  พวกลูกน้องของผู้ใหญ่เฉินทำการลักพาตัวเหม่ยชิงออกจากบ้านของหนูเหมาได้อย่างไม่มีปัญหา  เจ้าเหม่ยชิงเองก็ไม่ได้ขัดขืนการลักพาตัวของพวกคนร้ายเลยแม้แต่น้อย  มันแสร้งทำเป็นเดินคอตกตามลูกน้องของผู้ใหญ่เฉินไปโดยในใจของมันพยายามจดจำเส้นทางทั้งหมดเอาไว้ และตั้งใจที่จะหนีกลับมาบ้านให้ได้เมื่อสบโอกาส

          ลูกน้องของผู้ใหญ่เฉินพาเหม่ยชิงไปมอบให้แก่ผู้ใหญ่เฉินซึ่งรออยู่ที่หน้าจวนของท่านเจ้าเมืองในตอนเช้าตรู่  เมื่อเจ้าเมืองเห็นวัวสาวที่มีลักษณะดีเด่น  เจ้าเมืองจึงออกปากชมเชยและตบรางวัลให้แก่ผู้ใหญ่เฉินเป็นเงินถึง 100 ชั่ง  ผู้ใหญ่เฉินดีใจที่ได้ทั้งเงิน..ได้ทั้งหน้า  หลังจากนั้น  ผู้ใหญ่เฉินจึงอำลาท่านเจ้าเมือง แล้วนำเงินที่ได้รับไปซื้อวัวพันธุ์ดีได้ถึง 20 ตัวเลยทีเดียว

          ในคืนวันนั้น  เมื่อผู้คนในจวนของท่านเจ้าเมืองพากันเข้านอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เหม่ยชิงวัวสาวจึงค่อย ๆ เยื้องกรายออกจากคอกที่ท่านเจ้าเมืองสร้างไว้ให้อย่างเงียบกริบ   จริง ๆ แล้วตลอดวันที่ผ่านมาเหม่ยชิงได้รับการดูแลเอาใจใส่จากท่านเจ้าเมืองอย่างดีเยี่ยม   แม้เหม่ยชิงจะสัมผัสได้ถึงความเมตตาของท่านเจ้าเมืองที่มีไม่น้อยไปกว่าความรักที่หนูเหมามีต่อตน  แต่ด้วยความเป็นห่วงหนูเหมาผู้เป็นเจ้านาย  เหม่ยชิงจึงตัดสินใจแอบหนีออกจากจวนของท่านเจ้าเมืองไปอย่างเงียบเชียบ

          แม้คืนวันนั้นจะเป็นคืนเดือนมืด  แต่เหม่ยชิงกลับจดจำเส้นทางกลับบ้านได้อย่างยอดเยี่ยม  เหม่ยชิงเดินไปเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงเวลารุ่งสาง  เบื้องหน้าของเหม่ยชิงคือบ้านของหนูเหมาซึ่งมีการจุดเทียนเอาไว้ราวกับจะใช้เป็นเครื่องหมายให้เหม่ยชิงรู้ว่าบ้านของมันอยู่ที่นี่ 

          ในขณะที่เหม่ยชิงกำลังจะก้าวย่างตรงไปยังบ้านที่มันรักแสนรัก  ทันใดนั้น  เหม่ยชิงก็ได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นจากทางด้านหลังของมัน

          เสียงที่เหม่ยชิงได้ยินก็คือเสียงของวัวหนุ่ม 99 ตัวที่เดินตามมันมาราวกับต้องมนต์สะกด  ด้วยเหตุที่เหม่ยชิงมัวแต่คิดถึงหนูเหมามาตลอดทาง  เหม่ยชิงจึงไม่ได้สังเกตเลยว่า  ตลอดระยะ ทางที่มันเดินผ่านมา  เสน่ห์ความงามของมันได้ดึงดูดให้วัวหนุ่ม ๆ เกิดอาการควบคุมตัวเองไม่อยู่  เหม่ยชิงพยายามบอกให้พวกวัวหนุ่ม ๆ รีบกลับบ้านไปก่อนที่เจ้านายของพวกมันจะรู้  แต่ไม่ว่าเหม่ยชิงจะอ้อนวอนอย่างไร  พวกวัวหนุ่มเหล่านั้นก็ไม่ยอมขยับหนีไปไหนเลยแม้แต่ตัว เดียว

          แม้หนูเหมาจะดีใจที่เหม่ยชิงกลับมาบ้านได้  แต่การกลับมาพร้อมกับวัวแปลกหน้าอีก 99 ตัวทำให้หนูเหมาคิดว่าเขาควรจะรีบทำอะไรสักอย่าง   หนูเหมาเดินเข้าไปลูบหลังลูบไหล่ของเหม่ยชิงเพื่อเป็นการรับขวัญ  จากนั้น หนูเหมาก็กระซิบที่ข้างหูของเหม่ยชิงว่า  เรามาพาพวกวัวเหล่านี้กลับไปคืนเจ้าของกันเถอะ

          เหม่ยชิงพาหนูเหมาเดินย้อนกลับไปยังจวนของเจ้าเมืองตามเส้นทางเก่า  เมื่อขบวนวัวผ่านไปที่บ้านของวัวตัวไหน  วัวตัวนั้นก็จะได้ยินเสียงเจ้านายของมันร้องเรียกด้วยความคิดถึง   วัวแต่ละตัวต่างก็รักเจ้านายของมันด้วยกันทั้งนั้น  ดังนั้น  เมื่อเหม่ยชิงพาหนูเหมามาถึงจวนของท่านเจ้าเมือง  วัวหนุ่มทั้งหมดจากเดิม 99 ตัว จึงเหลือตกค้างอยู่เพียง 20 ตัวเท่านั้น 

          ในขณะที่หนูเหมากำลังคืนวัวที่เหลือให้แก่เจ้าของอยู่  จู่ ๆ ท่านเจ้าเมืองก็เดินออกมาส่งผู้ใหญ่เฉิน พร้อมกับปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดถึงเรื่องการหายตัวไปของเหม่ยชิงและวัวหนุ่มอีก 20 ตัว   หนูเหมาได้ยินเรื่องทั้งหมดโดยที่พวกผู้ใหญ่ไม่ทันสังเกตเห็นเขา  แทนที่หนูเหมาจะหนีไปเพราะกลัวถูกเข้าใจผิด  หนูเหมากลับแสดงตัวและพยายามชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพื่อขอความยุติธรรม

          ผู้ใหญ่เฉินซึ่งกลัวความผิดในข้อหาลักทรัพย์ของชาวเมืองอย่างหนูเหมา พยายามทุกวิถีทางที่จะใส่ร้ายเด็กน้อย เพื่อให้ท่านเจ้าเมืองลงโทษเด็กน้อยก่อนที่ความจริงต่าง ๆ จะปรากฏ  แต่หนูเหมาโชคดีมาก เพราะแทนที่เจ้าเมืองจะฟังคำว่าร้ายของผู้ใหญ่เฉิน  เจ้าเมืองกลับสั่งให้ผู้ใหญ่เฉินหยุดพูด แล้วบอกกับทุก ๆ คนว่า “เราจะให้วัวเป็นผู้ชี้ตัวเจ้าของของมันเอง!”

          โอกาสรอดของผู้ใหญ่เฉินดับวูบลงทันทีเมื่อเหม่ยชิงเดินตรงเข้าไปหาหนูเหมา 

          ท่านเจ้าเมืองตัดสินลงโทษผู้ใหญ่บ้านผู้ฉ้อฉลด้วยการปลดผู้ใหญ่เฉินออกจากตำแหน่ง  แล้วส่งผู้ใหญ่เฉินให้ไปสำนึกผิดในตะราง  ส่วนหนูเหมาผู้กล้าหาญนั้น  ท่านเจ้าเมืองได้กล่าวคำชมเชย โดยยินดีคืนเหม่ยชิงให้ พร้อมกับมอบวัวหนุ่มทั้ง 20 ตัวให้หนูเหมานำกลับไปเป็นสมบัติของครอบครัว

          หนูเหมาซาบซึ้งในความกรุณาของเจ้าเมืองผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความยุติธรรม  ซึ่งหลัง จากนั้นราว 2 ปี  หนูเหมาก็กลับมาหาท่านเจ้าเมืองอีกครั้ง พร้อมกับนำลูกชายและลูกสาวของเหม่ยชิงมามอบให้แก่ท่านเจ้าเมืองเพื่อเป็นการขอบคุณ

          และแล้ว…นิทานเรื่องนี้ก็จบลงอย่างมีความสุข

#นิทานนำบุญ

………………………………….

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.