Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

นิทานก่อนนอน : วีรบุรุษหยุดยักษ์

การกลั่นแกล้งหรือการบูลลี่ (ฺBully) เป็นสิ่งที่พบเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโรงเรียนและในชีวิตของเด็ก  คนที่ถูกกลั่นแกล้งมักถูกมองว่าเป็นผู้ที่อ่อนแอ  แต่ในความเป็นจริง คนที่รวมกลุ่มกลั่นแกล้งผู้อื่นอาจเป็นคนที่อ่อนแอและน่าสงสารมากกว่า  นิทานก่อนนอนเรื่อง วีรบุรุษหยุดยักษ์ เป็นนิทานที่ผมแต่งไว้ราว 20 ปีแล้ว  เนื้อเรื่องอาจดูแปลกๆ  อยู่สักหน่อย คือเอาเรื่องศิลปะและปฏิกริยาแปลก ๆ ของยักษ์มาใช้ในเรื่อง แต่ถ้ามองลึก ๆ จะเห็นแง่มุมหลายอย่างที่ผมแอบซ่อนไว้ในนิทานเรื่องนี้  หวังว่านิทานเรื่องนี้จะเปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่ได้พูดคุยและแนะนำลูกเกี่ยวกับเรื่องความกล้าหาญและข้อเสียของการรังแกผู้อื่นนะครับ

นิทานเรื่อง วีรบุรุษหยุดยักษ์

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว  มีเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งชื่อว่า “นโม”  นโมเป็นคนไม่สู้คน  ดังนั้น เด็กคนอื่น ๆ จึงมักรุมแกล้งเขาอยู่เสมอ

คนที่ไม่รู้จักนโมจริง ๆ อาจจะคิดว่านโมเป็นคนขี้ขลาด   แต่จริง ๆ แล้ว นโมไม่ใช่คนขี้ขลาด  เขาเพียงแค่ไม่อยากจะมีเรื่องกับใคร ๆ เท่านั้น  การมีเรื่องหรือการตอบโต้กันด้วยการใช้ความรุนแรง ไม่ใช่วิธีที่ นโมคิดว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้  ด้วยเหตุนี้  ไม่ว่าใครจะรุมแกล้งหรือว่านโมอย่างไร  นโมก็ได้แต่นิ่งเสียและไม่เคยคิดที่จะโต้ตอบหรือแก้ต่างให้ตัวเองเลยแม้สักครั้ง

  นโมมักจะหลบไปนั่งวาดภาพอยู่คนเดียว เพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นที่ขวางหูขวางตาของเด็กคนอื่น ๆ  จริง ๆ แล้ว  นโมไม่ใช่คนที่วาดภาพเก่งอะไรนัก  ภาพที่เขาวาดก็มักจะดูไม่ค่อยเหมือนต้นแบสักเท่าไหร่  แต่ใคร  ๆต่างก็อยากให้นโมวาดภาพให้  เพราะเมื่อนโมวาดภาพของใคร  ภาพของคนนั้นก็มักจะออกมาดูดีกว่าตัวจริงอยู่เสมอ

เวลานโมตั้งท่าจะวาดภาพของผีเสื้อ  ผีเสื้อที่บินอยู่ก็จะรีบบินลงมาเกาะกิ่งไม้และพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด เพื่อให้นโมวาดภาพได้ง่าย ๆ เพื่อให้ได้ภาพออกมาสวย ๆ

เวลานโมตั้งท่าจะวาดภาพดอกไม้  ดอกไม้ที่โอนไหวก็จะรีบขืนแข็งต่อแรงลมและพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด  เพื่อให้นโมวาดภาพได้ง่าย ๆ เพื่อให้ได้ภาพออกมาสวย ๆ

ไม่ว่านโมจะตั้งท่าวาดภาพของอะไร  สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นก็จะรีบตั้งท่าและพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด เพื่อให้นโมวาดภาพได้ง่าย ๆ เพื่อให้ได้ภาพออกมาสวย ๆ

อยู่มาวันหนึ่ง  ในขณะที่นโมกำลังคิดว่าจะวาดภาพอะไรดี  จู่ ๆ โมก็เห็นเด็กคนอื่น ๆ วิ่งหน้าตาตื่นตรงมาหาเขา  แรกทีเดียว นโมคิดว่าเขาคงจะถูกรุมแกล้งอีกแน่ ๆ  แต่ที่ไหนได้  เด็ก ๆ เหล่านั้นกำลังวิ่งหนียักษ์ที่ไล่ตามพวกเขามาต่างหาก  นโมเห็นเด็กบางคนวิ่งไปร้องไห้ไป  บางคนโชคร้ายสะดุดหกล้มแต่ก็ต้องรีบลุกขึ้นมาและวิ่งหนียักษ์ต่อไปอย่างไม่คิดชีวิต

นโมคิดว่าเขาควรจะทำอะไรสักอย่างที่จะช่วยให้เด็กทุก ๆ คนปลอดภัย  นโมคิดว่าวิธีเดียวที่เขาพอจะทำได้ ก็คือการถ่วงเวลาให้เด็กคนอื่น ๆ หนีไปให้ได้ไกลที่สุด  ด้วยเหตุนี้ นโมจึงรีบวิ่งเข้าไปขวางทางยักษ์ทันที

แน่นอน  วิธีที่นโมใช้ย่อมต้องไม่ใช่การใช้ความรุนแรง  เด็กอย่างนโมก็ย่อมต้องมีวิธีอย่างนโม  วิธีที่ นโมใช้ก็คือการลงมือวาดภาพของยักษ์ ซึ่งเมื่อยักษ์เห็นนโมตั้งท่าจะวาดภาพของมัน  มันจึงหยุดวิ่งไล่เด็ก ๆ โดยทำท่าค้างไว้  และพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุด เพื่อให้นโมวาดภาพได้ง่าย ๆ เพื่อให้ได้ภาพออกมาสวย ๆ

เด็กคนอื่น ๆ แปลกใจ ที่เห็นคนไม่สู้คนอย่างนโม  ไปยืนขวางทางยักษ์อย่างกล้าหาญ และทำให้ยักษ์หยุดไล่ตามพวกเขา

เด็กคนที่เพิ่งหยุดร้องไห้พูดขึ้นมาว่า “ไม่มีใครกล้าหาญเท่านโมอีกแล้ว”   เด็กคนที่หกล้มพูดขึ้นบ้างว่า “เราไม่ควรรุมแกล้งนโมเลย”  เด็กอีกคนสงสัยว่า “แล้วนโมจะเป็นอย่างไรเมื่อวาดภาพเสร็จ”  เด็กทั้งหมดคิดเหมือน ๆ กันว่า “นโมคงต้องแย่แน่ ๆ”

โชคดีที่เหตุการณ์ไม่เป็นดังที่เด็ก ๆ คิด  เพราะเมื่อยักษ์เห็นภาพที่นโมวาดให้  มันก็ได้แต่ปลื้มใจจนลืมที่จะไล่จับเด็ก ๆ อีก  ยักษ์ไม่เคยคิดว่าหน้าตาของมันจะดูดีถึงขนาดนี้  มันจึงตั้งใจที่จะปรับปรุงนิสัยให้ดีสมกับหน้าตาของมัน

 เมื่อยักษ์จากไปแล้ว  เด็กทุก ๆ คนต่างพากันวิ่งกลับมาหานโมด้วยความชื่นชม  นี่คือวีรบุรุษของพวกเขา  วีรบุรุษที่หยุดยักษ์ได้โดยไม่ต้องใช้ความรุนแรง  นับจากวันนั้นเป็นต้นมา  ไม่มีใครคิดว่านโมเป็นขี้ขลาดอีกต่อไป  และไม่มีใครคิดที่จะแกล้งนโมอีกเลย

#นิทานนำบุญ

………………………

One thought on “นิทานก่อนนอน : วีรบุรุษหยุดยักษ์

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.