ในช่วงเวลาที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้คนทั้งโลกได้รับผลกระทบ ผู้คนเหมือนต้องพบเจอสิ่่งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทำให้หลายคนเกิดความกังวล และคิดไปต่าง ๆ นานา จนมีความทุกข์มากกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งในทางธรรม แม้ต้นเหตุแห่งทุกข์ (เชื้อโรค) จะมีอยู่จริง มีอันตรายจริง แต่การคิดฟุ้งซ่าน ปรุงแต่งจนเกินจริง อาจทำให้เราทุกข์ซ้อนทุกข์ ดังนั้น การตั้งสติ อยู่ที่นี่ อยู่ตรงนี้ อยู่ในปัจจุบัน อาจทำให้เราเห็นความเป็นจริงมากขึ้น (เช่น ตอนนี้ เรากักตัวอยู่ที่บ้าน จึงไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงไม่จำเป็นต้องทุกข์) เมื่อเรากลับมาอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน บางทีเราอาจพบความสุขที่อยู่ใกล้ ๆ ตัว ณ เวลานี้ก็เป็นได้
นิทานธรรมะก่อนนอน เรื่อง ร่องรอยลึกลับ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีช้างน้อยตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ กลางป่าละเมาะที่มีเสียงนกร้องจิ๊บ ๆ ในตอนกลางวันและมีแสงจันทร์นวลผ่องในตอนกลางคืน
ทุก ๆ วัน ช้างน้อยมักจะปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างช้า ๆ มันจะกินข้าวเมื่อหิว นอนเมื่อง่วง และออกไปเล่นสนุกกับเพื่อน ๆ ตอนที่มันนึกอยาก ช้างน้อยใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสบาย ๆ มันมักยิ้มให้กับทุกสิ่งและมองโลกแสนสวยด้วยดวงตาที่เปี่ยมสุข
วันหนึ่ง ในขณะที่ช้างน้อยกำลังนอนหลับอยู่เพลิน ๆ เจ้ากระต่าย กระรอกและกระแต สามสหายจอมวี้ดว้ายกระตู้วู้ซึ่งเป็นเพื่อนของช้างน้อย ก็บุกมาชวนช้างน้อยถึงที่บ้านเพื่อให้ช้างน้อยตามไปดูร่องรอยประหลาดที่พวกมันค้นพบใกล้ ๆ กับเนินดอกไม้หอมฟุ้ง
ช้างน้อยงัวเงียลุกขึ้น แล้วเดินตามเพื่อน ๆ ไปอย่างง่วง ๆ และเมื่อเพื่อนรักทั้งสี่เดินทางไปถึงที่หมาย สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าพวกมันก็คือร่องรอยประหลาดที่ดูคล้ายกับรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่ยักษ์ ซึ่งมีลักษณะเป็นหลุมขนาดเล็กสามหลุมและหลุมขนาดใหญ่หนึ่งหลุม
เจ้ากระต่ายหูยาวบอกช้างน้อยอย่างตื่น ๆ ว่า “นี่อาจจะเป็นรอยเท้าของไดโนเสาร์ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเพื่อกินพวกเราก็ได้นะ”
ฝ่ายเจ้ากระรอกขี้กลัวกลับคิดไปอีกทางหนึ่งว่า “ฉันว่ามันน่าจะเป็นรอยเท้าของอสุรกายใจร้ายที่โผล่มาจากใต้พิภพเพื่อล่าสัตว์ที่ไร้พิษสงอย่างพวกเราต่างหากล่ะ”
ส่วนเจ้ากระแตขี้ขลาดพาลคิดไปอีกทางหนึ่งว่า “เผลอ ๆ มันอาจจะเป็นร่องรอยการลงจอดของจานบินลึกลับ ที่จ้องจะมาจับพวกเราไปทดลองในห้วงอวกาศก็เป็นได้”
สามสหายร้องไห้ฮือ ๆ ด้วยความกลัว ยิ่งพวกมันคิดฟุ้งซ่านไปเท่าไร พวกมันก็ยิ่งกลัวในสิ่งที่ตัวเองคิดมากขึ้นเท่านั้น ช้างน้อยไม่เข้าใจว่าเพื่อน ๆ กำลังกลัวอะไรกันอยู่ พวกมันกลัวหลุมสี่หลุมที่อยู่ตรงหน้า หรือกลัวความคิดตื่นตูมของตัวเองกันแน่ ช้างน้อยมองเพื่อน ๆ ด้วยความสงสาร ฉับพลัน! มันก็เกิดความคิดดี ๆ ขึ้นมาอย่างหนึ่ง
ช้างน้อยบอกกับเจ้ากระต่าย กระรอกและกระแตเพื่อนของมันว่า “เรามาค้นหาความจริงกันดีไหม”
แม้เจ้ากระต่าย กระรอกและกระแตจะหวาดหวั่นต่อความจริงที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่พวกมันก็ไม่อาจที่จะปล่อยให้ความสงสัยค้างคาอยู่ในใจต่อไปได้ ด้วยเหตุนี้ ปฏิบัติการไขความจริงจึงเริ่มต้นขึ้น
ขั้นแรก ช้างน้อยชวนให้เพื่อน ๆ ตามมันกลับบ้านไปเอาน้ำแข็งจากตู้เย็นมาใส่เอาไว้ให้เต็มหลุมทั้งสี่ จากนั้น มันก็บอกให้ทุกคนเข้าไปหลบใต้ร่มไม้ เพื่อนอนรอเวลาที่ความจริงจะปรากฏ
ช้างน้อยนอนหลับสบายอยู่ใต้เงาไม้ที่ร่มรื่น ในขณะที่เจ้ากระต่าย กระรอกและกระแตกลับนอนหลับกระสับกระส่ายด้วยหัวใจที่เต้นระทึก
และแล้ว เวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง
ช้างน้อยปลุกเพื่อน ๆ ให้ตื่นขึ้นมาดูร่องรอยลึกลับที่บัดนี้กลายสภาพเป็นสระน้ำสี่สระ ซึ่งเกิดจากการละลายของน้ำแข็ง เจ้ากระต่าย กระรอกและกระแตแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่า หลุมทั้งสี่ที่พวกมันหวาดกลัว กลับกลายมาเป็นสระน้ำส่วนตัวที่มีแสงสะท้อนจากผืนน้ำทอประกายระยิบระยับชวนให้ลงไปนอนเล่นดับร้อนเป็นอย่างยิ่ง
ช้างน้อยบอกกับเพื่อน ๆ ของมันว่า “ในความจริง ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นอย่างที่มันเป็น ไม่ใช่เป็นอย่างที่เราคิดอยากให้เป็น แค่มองโลกอย่างซื่อ ๆ ไม่ปรุงไม่แต่ง เราก็อาจพบแง่มุมแสนสุขที่ซุกซ่อนอยู่ก็ได้นะ”
เจ้ากระต่าย กระรอกและกระแตพร้อมใจกันยิ้มรับ และนึกขอบคุณเพื่อนตัวใหญ่ที่ช่วยให้พวกมันได้สติ
หลังจากนั้น เพื่อนรักทั้งสี่ก็พากันลงไปนอนแช่น้ำ แล้วปล่อยให้เวลาแห่งความสุขค่อย ๆ คืบคลานผ่านไปอย่างช้า ๆ โดยไม่ปล่อยให้ความคิดปรุงแต่งใด ๆ มารบกวนหัวใจของพวกมันอีก.
#นิทานนำบุญ
…………………………

สวัสดีค่ะคุณนำบุญ ชอบนิทานที่คุณแต่งมากๆเลยค่ะ อ่านเพลินและยาวดีค่ะ แฟนชอบให้อ่านให้ฟังทุกคืนเลยค่ะฮ่าๆๆๆ รออ่านเรื่องใหม่ๆอยู่เรื่อยๆนะคะ 🙂
LikeLike
อุ๊ย ดีใจจังเลยครับ แอบยิ้มเมื่อได้รู้ว่า มีคนหลายคนอ่านนิทานของผมให้แฟนฟัง รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาดี ๆ ของทุกคู่รักนะครับ และคงเยี่ยมมาก ๆ ถ้าวันนึง ลูก ๆ ได้ฟังนิทานเหล่านี้ด้วยครับ อิอิ ขอบคุณที่ติดตามและส่งกำลังใจมานะครับ
LikeLike