นิทานเรื่อง เจ้าน้ำแข็ง ก้อนน้อย
นี่คือเจ้าน้ำแข็งก้อนน้อย มันตกค้างอยู่ในตู้เย็นนานเสียจนมีเกล็ดน้ำแข็งฟู ๆ มาเกาะอยู่เต็มไปหมด หลังจากที่เวลาผ่านไปนานแสนนาน ความเย็นในช่องแช่แข็งก็ค่อย ๆ สะสมและส่งผ่านพลังไปปลุกให้เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยเริ่มรู้สึกตัวขึ้น และแล้ว…เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งที่มีชีวิต
เมื่อเจ้าก้อนน้ำแข็งลืมตาตื่นขึ้นมา มันก็เหยียดแขนเหยียดขาพลางสะบัดตัวบิดขี้เกียจจนเกล็ดน้ำแข็งกระจายไปทั่ว เจ้าน้ำแข็งก้อนใสมองดูโลกสี่เหลี่ยมสีขาวโพลนด้วยหัวใจที่แสนว้าเหว่ มันอยากมีเพื่อนหรือมีใครสักคนที่พอจะทำให้หัวใจที่เหน็บหนาวของมันอบอุ่นขึ้นมาได้บ้าง ดังนั้น มันจึงตัดสินใจไถลตัวพุ่งเข้าชนประตูตู้แช่ แล้วกระโดดออกจากช่องแช่แข็งทันทีที่ประตูเปิดออก
แสงแดดอุ่น ๆ ทำให้เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาอย่างประหลาด เจ้า-ก้อนน้ำแข็งมองไปรอบ ๆ ตัวด้วยความตื่นเต้น ฉับพลัน..เด็กหญิงตัวน้อยที่อาศัยอยู่ในเรือนไม้เก่าทาสีฟ้าขาวแบบบ้านพักริมชายหาดหลังนั้นก็ก้มลงทักทายเจ้าก้อนน้ำแข็งด้วยสุ้มเสียงที่แสนน่ารักว่า “เชิญค่ะ จะรับอะไรดีคะ”
ที่นี่คงเป็นร้านอาหารริมทะเลนั่นเอง เจ้าก้อนน้ำแข็งมองแววตาที่อ่อนหวานและเปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรีของเด็กน้อยเจ้าของเสียง มันส่งตาหวานตอบ แล้วกล่าวถ้อยคำที่แสนซื่อว่า “ขอโทษนะ ฉันไม่ใช่ลูกค้าหรอก ฉันเป็นก้อนน้ำแข็งที่มีชีวิต ฉันเกิดจากตู้เย็นในบ้านของเธอนี่แหละ” เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยชี้ประตูช่องแช่แข็งที่เปิดค้างอยู่ให้เด็กน้อยดูเพื่อคลายความฉงน เด็กน้อยยิ้มพลางประคองเจ้าก้อนน้ำแข็งเอาไว้ในอุ้งมือเล็ก ๆ ของเธอ เธอกล่าวคำต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน จากนั้น เด็กน้อยก็พาเจ้าก้อนน้ำแข็งไปแนะนำให้คุณตาคุณยายกับพี่ชายของเธอได้รู้จัก
คุณตากับคุณยายเอ็นดูเจ้าก้อนน้ำแข็งมาก ส่วนหลานทั้งสองต่างก็ยินดีที่เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยกลายมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัวของพวกเขา เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยเพิ่งได้รู้ว่า คุณตากับคุณยายเปิดบ้านเป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ริมทะเลเพื่อหาเลี้ยงหลาน ๆ ที่กำพร้าพ่อแม่ ส่วนหลานทั้งสองซึ่งแม้จะยังเล็กอยู่ แต่ทั้งคู่ก็พยายามช่วยงานคุณตาคุณยายอย่างเต็มความสามารถ กิจการร้านอาหารริมหาดแห่งนี้ไม่สู้ดีนัก และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ไม่มีใครเปิดช่องแช่แข็งของตู้เย็นนานเสียจนน้ำแข็งธรรมดากลายเป็นก้อนน้ำแข็งที่มีชีวิต คุณตากับคุณยายต้องเปิดร้านจนดึกดื่นแทบทุกคืน เพียงเพื่อให้พอมีกำไรจุนเจือชีวิตไปวัน ๆ เท่านั้น เมื่อเจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยทราบถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันจึงบอกกับตัวเองว่า มันจะต้องหาวิธีทำให้ครอบครัวน้อย ๆ ครอบครัวนี้มีความสุขมากขึ้นกว่านี้ให้จงได้
วันรุ่งขึ้น เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยออกไปจ่ายตลาดตั้งแต่เช้าตรู่ เมื่อคุณตาคุณยายกับเด็ก ๆ ตื่นขึ้นมา ทุก ๆ คนก็เห็นเจ้าก้อนน้ำแข็งกำลังง่วนอยู่ในห้องครัวโดยมีกล่องนม เปลือกไข่ ผลไม้ บัวลอย ทุเรียน พิซซ่าปาท่องโก๋และอาหารอีกหลายชนิดกระจัดกระจายอยู่เต็มโต๊ะไปหมด ทุก ๆ คนต่างพากันสงสัยว่าเจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยกำลังทำอะไรอยู่ และหลังจากที่ทุก ๆ คนเฝ้ามองพฤติกรรมของเจ้าก้อนน้ำแข็งอยู่พักใหญ่ ในที่สุด ความลับที่ซ่อนเร้นของเจ้าก้อนน้ำแข็งก็ได้รับการเปิดเผย!
สิ่งที่เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยตั้งอกตั้งใจทำก็คือไอศกรีมสูตรพิเศษนับร้อย ๆ ชนิด เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยนำของอร่อยต่าง ๆ มาผสมผสานกัน โดยใช้พลังแห่งความเย็นทำให้ส่วนผสมทั้งหมดแข็งตัวและกลายเป็นไอศกรีม รสวิเศษที่ไม่ซ้ำกับใครในโลก คุณตาชอบไอศกรีมกะทิบัวลอย คุณยายชอบไอศกรีมน้อยหน่าผสมพิซซ่าส่วนเด็ก ๆ ชอบไอศกรีมเยลลี่สอดไส้ไก่ย่าง ที่มีรสชาติพิลึกจนยากที่จะบรรยายได้ แต่ไม่ว่าใครจะชอบไอศกรีม รสใดก็ตาม ไอศกรีมทุก ๆ รสของเจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยก็มีรสชาติชวนให้ลิ้มลองด้วยกันทั้งนั้น
ข่าวคราวความอร่อยแบบแปลก ๆ ของไอศกรีมสูตรพิเศษ ทำให้ใครต่อใครหลั่งไหลกันมาชิมไอศกรีมจนแน่นร้านไปหมด คุณตากับคุณยายช่วยกันตักไอศกรีมคนละไม้คนละมือ โดยปล่อยให้หลาน ๆ ทำหน้าที่ต้อนรับแขกทั้งหลายที่มาอุดหนุนไอศกรีมแสนอร่อย ไอศกรีม ทุกรสหมดเกลี้ยงทุกวันหลังจากที่เปิดร้านขายได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง คุณตากับคุณยายเหนื่อยน้อยลง และในขณะเดียวกัน ครอบครัวเล็ก ๆ ครอบครัวนี้ก็ค่อย ๆ มีความสุขเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เจ้าน้ำแข็งก้อนน้อยดีใจที่มันสามารถทำให้เรื่องราวทั้งหมดคลี่คลายไปในทางที่ดีได้ มันคิดในใจว่ามันโชคดีเหลือเกินที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแสนสุขครอบครัวนี้ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ครอบครัวน้อย ๆ ครอบครัวนี้ก็ช่วยกันขายไอศกรีมจนมีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วโลก
#นิทานนำบุญ
…………………….
