แมวดำเป็นสัตว์ที่น่าสงสาร เพราะหลายคนมักรู้สึกว่า แมวดำเป็นแมวที่ไม่น่ารัก แถมยังจะนำพาโชคร้ายมาให้ เมื่อผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) นึกถึงเรื่องนี้ ผมจึงอดใจไม่ได้ที่จะแต่งนิทานเพื่อให้เด็ก ๆ รวมถึงผู้ใหญ่ รู้สึกดีต่อแมวดำมากขึ้นอีกสักนิด เพราะในความจริง แมวดำก็คือแมวเหมือนกับแมวสีอื่น ๆ มันมีหัวจิตหัวใจและต้องการความรักไม่ต่างจากแมวตัวไหน ๆ ดังนั้น เรามาแบ่งหัวใจให้แมวดำกันบ้างนะครับ รักแมวดำไม่ต้องเยอะ แต่ขอให้รักนาน ๆ นะครับ
นิทานเรื่อง เมืองแมวดำ!
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเป็นเมืองที่ผู้คนยึดมั่นในความเชื่อโบราณที่ว่า แมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย ด้วยเหตุนี้เอง ผู้คนจึงมักจะนำลูกแมวดำไปปล่อยให้กลายเป็นแมวข้างถนน จนมีแมวดำไร้เจ้าของกระจัดกระจายอยู่ในที่ต่าง ๆ ทั่วทั้งเมือง
“อะตอม” เป็นลูกแมวดำตัวเล็ก ๆ ที่ถูกทิ้งขว้างเช่นเดียวกับแมวดำตัวอื่น ๆ แม้มันอยากจะมีคนเลี้ยง…คอยรักคอยดูแล แต่สำหรับแมวดำอย่างมันแล้ว โอกาสเช่นนั้นดูเหมือนว่าจะเป็นได้แค่เพียงความฝัน อะตอมทั้งว้าเหว่และหดหู่ มันไม่อยากให้แมวดำเป็นสัตว์ที่ใคร ๆ ต่างก็พากันรังเกียจ ดังนั้น อะตอมจึงชวนเพื่อน ๆ ให้ร่วมเดินทางไปขอความช่วยเหลือจาก ‘แม่มดจอมคาถา’ ซึ่งเธอมีชื่อว่า ‘คุณป้าแพรี่’
จริง ๆ แล้ว คุณป้าแพรี่ไม่ได้เป็นแม่มดอย่างที่หลาย ๆ คนคิด แต่ด้วยเหตุที่คุณป้าแพรี่เป็นหญิงสูงวัยที่มีหน้าตาและลักษณะการแต่งกายคล้ายกับแม่มดในนิทาน มิหนำซ้ำ เธอยังชอบปรุงยาโน่น…ผสมยานี่ จนชาวเมืองต่างพากันหวาดระแวงถึงกับต้องร่วมมือกันผลักไสให้คุณป้าย้ายบ้านไปอยู่ในป่าที่ห่างไกลจากชาวเมืองคนอื่น ๆ
แม้คุณป้าแพรี่จะไม่มีเวทมนตร์ดังเช่นที่อะตอมหวังเอาไว้ แต่คุณป้าแพรี่เป็นหญิงชราผู้มีจิตใจเมตตา ดังนั้น เมื่อคุณป้าแพรี่ได้ฟังคำขอร้องของเจ้าแมวน้อย คุณป้าผู้อารีจึงสัญญากับเหล่าแมว-เหมียวว่า เธอจะพยายามคิดหาวิธีช่วยเหลือแมวน้อยทั้งหลายอย่างสุดความสามารถ
อยู่มาวันหนึ่ง มีโจรต่างถิ่นส่งจดหมายแจ้งให้ชาวเมืองรู้ตัวว่าพวกเขากำลังจะมาปล้น ซึ่งหากชาวเมืองคนใดขัดขืน พวกโจรก็ขู่ว่าจะจัดการกับคน ๆ นั้นอย่างไม่มีการปราณีปราศรัยใดใดทั้งสิ้น
ทันทีที่ชาวเมืองทราบข่าวดังกล่าว ชาวเมืองขี้กลัวทั้งหลายก็พากันขนเอาทรัพย์สินออกมา กองเอาไว้ที่หน้าบ้าน แล้วรีบปิดประตูลงกลอนซ่อนตัวอยู่ในบ้านจนเมืองทั้งเมืองดูเงียบเชียบราวกับป่าช้า
เมื่อคุณป้าแพรี่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอก็ได้แต่ระอาใจในความขี้ขลาดของชาวเมืองทั้งหลาย แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็คิดว่ามันเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้พวกแมวดำตัวน้อย ๆ ได้กลายเป็นพระเอกในสายตาของผู้คนที่ไม่เอาไหน
เย็นวันนั้น คุณป้าแพรี่นัดประชุมแมวดำทั้งหมดที่บ้านของเธอ แมวดำนับพันตัวนั่งฟังแผนการของคุณป้าแพรี่อย่างตั้งอกตั้งใจเป็นพิเศษ และเมื่อการประชุมสิ้นสุดลง กองทัพแมวดำก็กระจายกำลังกันไปเพื่อเตรียมตัวต้อนรับการมาเยือนของเหล่าโจรผู้บุกรุก
ตกดึก เมื่อโจรใจร้ายเดินทางเข้ามาถึงหมู่บ้าน อะตอมผู้กล้าหาญก็ส่งเสียงร้องเป็นสัญญาณให้เพื่อน ๆ เตรียมตัวดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้
ทันทีที่กองทัพแมวดำมาพร้อมกันยังตำแหน่งที่อะตอมร้องเรียก เหล่าแมวดำก็เริ่มแผนด้วยการแกล้งเดินผ่านหน้าพวกโจรทีละตัวสองตัวจนบริเวณดังกล่าวมีแต่แมวดำเดินเพ่นพ่านเต็มไปหมด!
พวกโจรมองแมวดำนับพันตัวที่เดินกันขวักไขว่ไปมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง โจรทุก ๆ คนเคยได้ยินมาก่อนแล้วว่า หากแมวดำเดินผ่านหน้าใคร คน ๆ นั้นก็จะประสบกับความโชคร้ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! แต่นั่นเป็นกรณีที่มีแมวดำเดินผ่านเพียงแค่ตัวเดียว แล้วหากมีแมวดำเดินผ่านเป็นพัน ๆ ตัวเช่นนี้ โชคร้ายจะหนักหนาสาหัสสักเพียงใดกันหนอ
ในที่สุด หัวหน้าโจรก็ตัดสินใจล้มเลิกแผนการปล้นในครั้งนี้ มิหนำซ้ำ พวกโจรยังพากันโจษขานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนโจรกลุ่มอื่น ๆ ไม่กล้าเข้ามายุ่มย่ามในเมืองที่มีแต่แมวดำแห่งนี้อีกเลย
นับจากวันนั้น ชาวเมืองขี้กลัวทั้งหลายก็เริ่มมองเห็นข้อดีของแมวดำที่พวกเขาเคยรังเกียจ ชาวเมืองหลายคนนึกสงสารแมวดำจึงนำพวกมันไปเลี้ยงเป็นเพื่อน ไม่ช้าไม่นานนัก ความเชื่อเรื่องแมวดำกับโชคร้ายก็ค่อย ๆ เลือนหายไปจากใจของผู้คนจนหมดสิ้น
เด็ก ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วแมวน้อยขี้เหงาอย่างเจ้าอะตอมล่ะ…มีใครพามันไปเลี้ยงบ้างหรือเปล่า?
แน่นอน…มีคนมากมายอยากดูแลเจ้าแมวดำที่แสนน่ารักตัวนี้ แต่เจ้าแมวน้อยกลับตัดสินใจที่จะเลือกนายด้วยตัวของมันเอง ดังนั้น เมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดคลี่คลายลง อะตอมจึงไปขออาศัยอยู่กับสุภาพสตรีที่ช่วยทำให้แมวดำทั้งหลายได้รับการยอมรับจากทุก ๆ คน ซึ่งเธอก็คือคุณป้าแพรี่นั่นเอง
และแล้ว…เรื่องราวของแมวขี้เหงากับหญิงชราผู้โดดเดี่ยวก็จบลงอย่างมีความสุข
#นิทานนำบุญ
……………………..

One thought on “เมืองแมวดำ”