นิทานเรื่อง หมู่บ้านย้อนเวลา
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเป็นหมู่บ้านที่ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์, ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งยังอยู่ห่างไกลจากหมู่บ้านอื่น ๆ มาก ด้วยเหตุนี้ ผู้คนในหมู่บ้านจึงมีฐานะยากจนและมีชีวิตที่ค่อนข้างลำบากกว่าผู้คนในหมู่บ้านอื่น ๆ
วันหนึ่ง ลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านซึ่งเป็นชายหนุ่มที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงรู้สึกเบื่อหน่ายบ้านเกิดของเขาจนทนไม่ไหว ชายหนุ่มจึงชักชวนให้หนุ่มสาวในหมู่บ้านทิ้งบ้านเรือนไปทำงานในเมืองใหญ่
แม้หัวหน้าหมู่บ้านซึ่งเป็นพ่อของชายหนุ่มจะพยายามทัดทานอย่างเต็มที่ แต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจฟัง หนำซ้ำ…เขายังพูดกับพ่อว่า “หมู่บ้านแย่ ๆ แบบนี้ อยู่ไปก็มีแต่จะแย่ลงเท่านั้น ต่อให้พยายามยังไง เราก็ไม่มีทางทำให้มันดีขึ้นได้หรอก พ่อควรยอมรับความจริงว่าหมู่บ้านแห่งนี้…มันไม่มีอนาคตเหลืออยู่แล้ว”
คำพูดของลูกชายทำให้ชายชราผู้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านเสียใจมาก เพราะลูกชายของเขาเอาแต่บ่นว่าหมู่บ้านแย่อย่างนั้นแย่อย่างนี้ แล้วเลือกที่จะหนีปัญหาโดยย้ายไปอยู่ในเมืองใหญ่ แทนที่จะทุ่มเทแรงกายแรงใจแก้ไขสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นความแย่ของหมู่บ้านให้ดีขึ้น หัวหน้าหมู่บ้านผิดหวังในตัวลูกชายมาก เขาอยากให้ลูกชายรักบ้านเกิดและรู้จักสู้ปัญหามากกว่าที่เป็นอยู่
เมื่อหนุ่มสาวออกไปจากหมู่บ้านจนหมด ทั้งหมู่บ้านจึงเหลือแต่คนแก่ คนแก่ที่ไม่มีลูกหลานใกล้ชิดต่างก็มีชีวิตซังกะตายไร้ความสุข ชายชราจึงคิดว่าเขาควรทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้บทเรียนแก่ลูกชายและนำความสุขกลับคืนสู่หมู่บ้านที่เขารัก
ชายชราเดินครุ่นคิดไปทั่วหมู่บ้านพร้อมกับมองเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันที่อยู่โยงเฝ้าบ้านอย่างเงียบเหงา คนแก่บางคนฆ่าเวลาด้วยการทำขนม, บางคนนำเครื่องดนตรีโบราณมาบรรเลง, บางคนเก็บดอกไม้มานั่งจัด แต่ละคนพยายามหาอะไรทำเพื่อให้คลายความว้าเหว่ไปได้บ้าง
คืนวันนั้น ชายชรานอนคิดหาวิธีนำความสุขมาสู่หมู่บ้านอย่างสุดความสามารถ เขาคิด…คิด…แล้วก็คิด ในที่สุด ชายชราก็เกิดความคิดบางอย่างที่อาจทำให้หมู่บ้านของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ใคร ๆ ก็คาดไม่ถึง!
วันรุ่งขึ้น ชายชรารีบจัดประชุมคนเฒ่าคนแก่ทั้งหมดแล้วขอร้องให้เพื่อน ๆ ทุกคนช่วยกันย้อนเวลาของหมู่บ้านให้กลับไปมีสภาพเหมือนในอดีต!
ในตอนแรก คนเฒ่าคนแก่ทั้งหลายต่างสงสัยในความคิดของหัวหน้าหมู่บ้าน แต่ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจที่สะสมมานาน ทุกคนจึงตั้งใจฟังแผนการของชายชราและเต็มใจให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง คนแก่ทุกคนก็ร่วมมือกันทำในสิ่งที่หัวหน้าหมู่บ้านขอร้อง โดยทุกคนพากันแต่งกายแบบโบราณ พร้อมกับนำเครื่องใช้เก่าเก็บออกมาใช้ใหม่ นอกจากนี้ พวกเขายังกลับมาพูดคุยด้วยภาษาแบบดั้งเดิม, จับกลุ่มทำขนมและอาหารตามสูตรเดิม ๆ , รื้อฟื้นประเพณี ดนตรีและการละเล่นที่แทบจะสูญหาย รวมทั้งดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่ายจนดูคล้ายกับว่าเวลาของหมู่บ้านแห่งนี้เดินช้ากว่าเวลาในที่อื่น ๆ บนโลก
หลังจากที่ผู้สูงวัยทั้งหมดช่วยกันย้อนเวลาให้หมู่บ้านของพวกเขา ข่าวคราวของหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีสภาพเหมือนในอดีตก็เริ่มเป็นที่สนใจของผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ
ผู้คนต่างเมืองพากันดั้นด้นมาเยี่ยมชมหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่แสนห่างไกลเพื่อขอลองชิมอาหารโบราณรสวิเศษ, ฟังดนตรีที่แสนละเมียดละไม, ทำกิจกรรมแบบโบราณที่หาดูที่ไหนไม่ได้ และลองใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแบบในอดีต ไม่กี่เดือนต่อมา…หมู่บ้านที่แทบไม่มีใครเคยเห็นค่าก็ค่อย ๆ กลายเป็นหมู่บ้านที่มีแต่คนชื่นชม ส่วนคนแก่ทุกคนในหมู่บ้านก็หายว้าเหว่และเริ่มมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
ครั้นเมื่อหนุ่มสาวที่ออกไปหางานทำในเมืองใหญ่ได้ทราบข่าว หนุ่มสาวทุกคนโดยเฉพาะลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านก็รู้สึกละอายใจที่พวกเขาเคยดูแคลนบ้านเกิดของตนเองว่ามันเป็นหมู่บ้านที่ไม่มีอนาคต ทุก ๆ คนต่างรู้สึกผิด ดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจกลับมายังหมู่บ้านเพื่อขอโทษพ่อแม่และปู่ย่าตายาย
ทันทีที่ผู้สูงวัยได้เห็นลูกหลานกลับมาหา ทุก ๆ คนก็ยกโทษให้ ซ้ำยังโอบกอด ”เด็กโง่ทั้งหลาย” ด้วยความรักความเมตตาอันเต็มเปี่ยม
หนุ่มสาวทั้งหมดพากันร้องไห้แล้วสัญญาว่า นับจากนี้…พวกเขาจะสู้กับปัญหาทุกอย่างและช่วยกันเรียนรู้วิถีชีวิตแบบโบราณเพื่อดูแลหมู่บ้านให้ดีที่สุดโดยไม่มีวันทอดทิ้งพ่อแม่ปู่ย่าตายายไปไหนอีก
ในที่สุข แผนการของหัวหน้าหมู่บ้านก็ประสบผลสำเร็จ เขาได้ให้บทเรียนครั้งสำคัญแก่ลูกชายและเขายังทำให้หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครเคยสนใจกลายมาเป็นหมู่บ้านที่ผู้คนทั้งหลายใฝ่ฝันอยากมาเยี่ยมเยียนให้ได้สักครั้งในชีวิต
#นิทานนำบุญ
—————————–

ชอบมากที่สุดในชีวิตเลยครับ
LikeLike
ชอบมากที่สุดในชีวิตเลยครับ
LikeLike
ผมดีใจจังครับที่มีคนชอบนิทานเรื่องนี้ แถมชอบมากที่สุดในชีวิตเลย ผมเองก็รักนิทานเรื่องนี้ และอยากให้เมืองไทยทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นจริง ๆ ครับ ถ้าแต่ละจังหวัด แต่ละท้องถิ่น สนับสนุนให้ชาวบ้านทำแบบในนิทานได้ มันอาจเกิดสิ่งมหัศจรรย์แบบในนิทานขึ้นมา (หวังไว้แบบนั้น) นิทานเรื่องนี้ยังมีภาคต่ออีกหลายเรื่อง เช่น เจ้าชายผู้หลงใหลนิทาน ลองอ่านดูนะครับ
LikeLike