นิทานเรื่อง “เกาะในฝัน” เป็นนิทานที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) แต่งต่อจากนิทานเรื่อง “หมู่บ้านย้อนเวลา” และ “เจ้าชายผู้หลงใหลนิทาน” โดยแต่งและตีพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือนห่างกันเรื่องละประมาณ 1 ปี การแต่งนิทานภาคต่อ ที่นำเอา “แนวคิดหลักหรือแก่นเรื่อง” ของนิทานเรื่องเดิมมาต่อยอดเป็นนิทานเรื่องใหม่ เป็นการแต่งนิทานที่ท้าทายมาก หวังว่านิทานก่อนนอนเรื่อง เกาะในฝัน จะไม่ทำให้ทุก ๆ คนผิดหวังนะครับ
นิทานเรื่อง เกาะในฝัน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่า “ซัน” ซันอาศัยอยู่ในเกาะเล็ก ๆ กลางทะเลลึกซึ่งแวดล้อมไปด้วยเกาะน้อยใหญ่เต็มไปหมด เกาะของซันเป็นเกาะที่ไม่มีอะไรแตกต่างจากเกาะอื่น ๆ มากนัก ผู้คนจึงมักนั่งเรือผ่านไปโดยแทบไม่มีใครแวะพักหรือเยี่ยมเยียนเกาะของซันเลย ซันอยากให้นักเดินทางแวะมาเที่ยวที่เกาะของเขาบ้าง เพราะเขารู้ดีว่าเกาะของเขามีสิ่งดี ๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…น้ำใจไมตรีของผู้คนบนเกาะ
วันหนึ่ง มีนักเล่านิทานคนหนึ่งแวะมาพักบนเกาะของซันด้วยความบังเอิญ ชาวเกาะทุกคนต่างยินดีและต้อนรับขับสู้แขกแปลกหน้าอย่างมีไมตรีจิต นักเล่านิทานพเนจรจึงแสดงความขอบคุณต่อชาวเกาะด้วยการเล่านิทานแสนสนุกให้ชาวเกาะและเด็ก ๆ ทุกคนบนเกาะได้ฟังกัน
ซันชอบนิทานทุกเรื่องที่ชายพเนจรเล่า เพราะมันเต็มไปด้วยเรื่องราวที่สนุกสนาน ชวนฝันและทำให้หัวใจเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น แต่มีนิทานอยู่เรื่องหนึ่งที่ซันสะดุดใจเป็นพิเศษ นั่นคือนิทานเรื่อง “เจ้าชายผู้หลงใหลนิทาน”
เจ้าชายผู้หลงใหลนิทานเป็นนิทานเกี่ยวกับเจ้าชายองค์น้อยซึ่งชอบนิทานมาก พระองค์ได้นำข้อคิดจากนิทานมาปรับใช้จนสามารถเปลี่ยนแปลงอาณาจักรของพระองค์ซึ่งไม่มีใครสนใจ ให้กลายเป็นอาณาจักรที่เมืองทุกเมืองมีจุดเด่นเฉพาะตัว ดึงดูดให้ผู้คนต่างถิ่นมาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสายและทำให้ชาวเมืองมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เมื่อซันได้ฟังนิทานเรื่องนี้ เขาจึงเก็บข้อคิดจากนิทานมาใคร่ครวญ และเมื่อนักเล่านิทานอำลาจากเกาะไป ซันก็รีบนำเรื่องที่เขาคิดไปหารือกับพ่อของเขา
ซันปรึกษาพ่อว่า “ถ้าชาวเกาะทุกคนช่วยกันทำให้เกาะมีจุดเด่นแตกต่างจากเกาะอื่น ๆ บางที…นักเดินทางอาจแวะเวียนมาเยือนเกาะของพวกเรามากขึ้นก็ได้นะพ่อ”
แม้พ่อของซันจะเห็นด้วยกับความคิดของลูกชาย แต่เพราะผู้คนในเกาะล้วนมีฐานะยากจน การคิดสร้างจุดเด่นให้เกาะจึงไม่ใช่เรื่องง่าย หนำซ้ำ..หากผู้คนในเกาะอื่น ๆ ที่มีฐานะร่ำรวยกว่ามาเห็นสิ่งที่สร้างขึ้นเป็นจุดเด่น พวกเขาก็อาจใช้เงินจ้างคนมาสร้างจุดเด่นเลียนแบบได้
อย่างไรก็ตาม ซันก็ยังไม่อยากล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ เขาพยายามคิด…คิด แล้วก็คิด เขาคิดถึงความเป็นไปได้และข้อจำกัดต่าง ๆ ที่มีอยู่ เขาครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุด ซันก็เกิดความคิดดี ๆ ขึ้นในใจ
“ผมมีวิธีการดี ๆ ครับพ่อ วิธีของผมใช้เงินน้อย แต่ต้องการเวลาและความเอาใจใส่มาก ถึงเกาะอื่น ๆ จะมีเงินมากกว่าพวกเรา แต่เค้าก็คงยากที่จะเลียนแบบพวกเราได้ในเวลาอันสั้น”
ซันรีบเล่าแผนการทั้งหมดให้พ่อฟัง ซึ่งเมื่อพ่อของซันได้ฟัง พ่อของซันก็ยิ้มแล้วเรียกชาวเกาะทั้งหมดมาประชุมร่วมกันทันที
แผนที่ซันคิดคือการเชิญชวนให้ชาวเกาะทุกคนช่วยกันเลือกและปลูกต้นไม้ใหญ่หลาย ๆ พันธุ์ที่มีดอกสวยงามหลากสีสัน โดยแบ่งพื้นที่ในการปลูกต้นไม้แต่ละชนิดอย่างชัดเจน เพื่อให้ต้นไม้ผลัดกันบานสะพรั่งสลับสีไปในแต่ละเดือน ซึ่งการปลูกต้นไม้ใหญ่หลากสีสันบนเกาะน่าจะช่วยดึงดูดใจให้นักเดินทางสะดุดตาและอยากแวะมาเที่ยวที่เกาะมากขึ้น
แม้การปลูกต้นไม้ใหญ่จะใช้เวลานานหลายปีกว่าจะเห็นผล แต่มันเป็นวิธีที่ไม่สิ้นเปลือง ทั้งยังสร้างความสุขใจให้กับคนบนเกาะ และหากผู้คนในเกาะอื่นอยากเลียนแบบก็คงต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะปลูกต้นไม้ให้โตได้ทัน ด้วยเหตุนี้ ชาวเกาะทั้งหมดจึงเห็นพ้องกับแผนของซัน ซึ่งหลังจากการประชุมสิ้นสุดลง ทุกคนจึงช่วยกันเลือกต้นไม้แล้วแบ่งเขตพื้นที่บนเกาะในการปลูกต้นไม้ชนิดต่าง ๆ เป็นสัดเป็นส่วน ทั้งยังช่วยกันดูแลต้นไม้ที่ตนเองรับผิดชอบอย่างเต็มที่
ไม่กี่ปีต่อมา ต้นไม้บนเกาะก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้น และเริ่มออกดอกงดงามให้ชาวเกาะทุกคนได้ชื่นใจ
สีส้มอมแดงของดอกหางนกยูงที่บานสะพรั่งท้าแสงอาทิตย์ทำให้เกาะเล็ก ๆ กลางทะเลดูสดใสร้อนแรงและน่าค้นหา ส่วนสีชมพูของดอกจามจุรีและดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ก็ทำให้เกาะทั้งเกาะดูหวานจนคนที่มีความรักอยากจูงมือกันเข้ามาเยี่ยมชม สำหรับสีเหลืองของดอกคูนและดอกนนทรีนั้นก็เป็นสีที่ทำให้เกาะดูมีชีวิตชีวามากกว่าเกาะอื่นใดในห้วงสมุทร
เมื่อดอกไม้ผลัดกันเปล่งประกายความงามในแต่ละเดือน นักเดินทางทั้งหลายจึงอดใจผ่านเลยเกาะเล็ก ๆ เกาะนี้ไปไม่ได้
ซันภูมิใจเหลือเกินที่ตัวเขาไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจง่าย ๆ ทั้งยังดีใจที่ตนเองสามารถใช้ความคิดสร้างจุดเด่นให้กับเกาะของเขาได้สำเร็จ (ด้วยวิธีที่ประหยัดและเลียนแบบได้ยาก)
ในที่สุด เกาะเล็ก ๆ ที่เป็นบ้านเกิดของซันก็กลายเป็นเกาะที่ทุกคนอยากมาเยี่ยมเยือน ซันและชาวเกาะทุกคนต่างมีความสุขมากที่ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาจากทั่วทุกมุมโลก พวกเขาพยายามดูแลแขกทุกคนอย่างดีที่สุด และพวกเขาก็คอยดูแลต้นไม้ที่พวกเขาช่วยกันปลูกอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อคงความงามและดำรงเอกลักษณ์ให้เกาะที่พวกเขารัก…ตราบชั่วนิรันดร์
#นิทานนำบุญ
…………………..
