ในบรรดานิทานที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) เคยแต่งและพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือน มีนิทานเพียงไม่กี่เรื่อง ที่ผมไม่มั่นใจว่า เด็ก ๆ จะเข้ามุกที่ผมนำมาใช้ในนิทานหรือเปล่า เพราะมุกบางมุก อาจเป็นที่เข้าใจของคนวัยหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนอีกรุ่นหนึ่งอาจจะไม่เข้าใจก็เป็นได้ แต่หลังจากที่ผมนำนิทานตลก ๆ ก่อนนอนเรื่องนี้ไปลงในเพจนิทานนำบุญ คุณแม่หลายท่านได้ส่งข้อความมาบอกว่า ในระหว่างที่ฟังนิทาน ลูก ๆ พูดออกมาก่อนเลยว่าช่างตัดผมในเรื่อง ควรนำพรสวรรค์ไปทำอาชีพบางอย่าง (ซึ่งตรงกับที่ผมในฐานะผู้แต่งคิดเอาไว้) ด้วยเหตุนี้ ผมจึงมั่นใจมากขึ้นว่า นิทานก่อนนอนเรื่องนี้น่าจะทำให้เด็ก ๆ มีความสุขได้ไม่แพ้นิทานเรื่องอื่น ๆ ครับ
นิทานเรื่อง ช่างตัดผมผู้มีพรสวรรค์
กาลครั้งหนึ่งในเมืองที่แสนจะยากจน ยังมีช่างตัดผมคนหนึ่งเป็นช่างตัดผมที่ไม่มีใครอยากจะไปตัดผมด้วย ไม่ใช่เป็นเพราะเขาไม่มีความสามารถในการตัดผมหรือมีนิสัยที่ไม่น่าคบหา แต่เหตุผลจริง ๆ ที่ทำให้ใครต่อใครไม่อยากจะไปตัดผมกับเขา ก็เป็นเพราะพรสวรรค์ของช่างตัดผมคนนี้ที่ลงมือตัดผมครั้งใด ผมของลูกค้ามีอันต้องยาวขึ้นกว่าตอนก่อนตัดถึงสองเท่าทุกครั้ง ช่างตัดผมไม่รู้ว่าพรสวรรค์ในการตัดผมให้ยาวขึ้นนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร แต่เขารู้ดีว่าเขาคงไม่เหมาะกับอาชีพตัดผมนี้เสียแล้ว
ช่างตัดผมจึงเปลี่ยนอาชีพไปเป็นช่างตัดเสื้อ เขาคิดว่าอาชีพตัดเสื้อเป็นอาชีพที่เหมาะสำหรับเขาไม่ใช่น้อย เพราะอย่างน้อยที่สุด เขาก็สามารถนำกรรไกรตัดผมที่เขามีอยู่มาใช้ในการตัดเสื้อได้โดยไม่ต้องซื้อหาของใหม่
เมื่อชาวบ้านรู้ว่าช่างตัดผมผู้น่าสงสาร (เพราะมีพรสวรรค์ผิดประเภท) เปลี่ยนอาชีพมาเป็นช่างตัดเสื้อ ชาวบ้านจึงพากันนำเสื้อผ้ามาให้ช่างช่วยตัดช่วยแก้เป็นการใหญ่ ช่างตัดผมซาบซึ้งในน้ำใจของชาวบ้านจึงพยายามวัดตัวและตัดเสื้อผ้าอย่างประณีตที่สุด แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะทั้งๆ ที่ช่างตัดผมวัดขนาดและตัดเสื้อผ้าให้ชาวบ้านอย่างพอดิบพอดีแล้วก็ตาม แต่เมื่อถึงวันรับของ เสื้อผ้าของชาวบ้านกลับยาวยืดเกินขนาดออกไปถึงสองเท่า ช่างตัดผมรู้ตัวทันทีว่า เขาคงไม่เหมาะกับอาชีพนี้เสียแล้ว
ช่างตัดผมจึงคิดหาอาชีพใหม่ ซึ่งควรจะเป็นอาชีพที่ไม่ต้องลงทุนมากนัก ช่างตัดผมมองดูกรรไกรที่อยู่ในมือพลางคิดกลับไปกลับมาอยู่หลายตลบ ในที่สุด เขาก็คิดได้ว่าเขาควรจะลองเป็นช่างตัดหญ้าดูสักครั้ง
ช่างตัดผมเริ่มต้นงานตัดหญ้าด้วยการรับอาสาตัดหญ้าให้ชาวบ้านโดยไม่คิดเงิน ช่างตัดผมคิดว่าอย่างน้อยที่สุดก็เพื่อเป็นการขอโทษที่เขาทำให้เสื้อผ้าของใครต่อใครยาวผิดขนาดกันไปหมด
การตัดหญ้าเป็นไปด้วยดีตั้งแต่เช้าจรดเย็น ช่างตัดผมตัดหญ้าได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเพราะเขามีทักษะในการตัดผมมาก่อน ทุกๆ คนต่างพากันชื่นชมในผลงานของช่างตัดผม ส่วนช่างตัดผมเองก็คิดว่านี่คงเป็นงานที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขา
แต่น่าเสียดายที่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อช่างตัดผมและชาวบ้านตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นสิ่งที่พวกเขาเห็นได้นำความประหลาดใจมาให้พวกเขาเป็นอันมาก เพราะสนามหญ้าที่ช่างตัดผมเพิ่งจะตัดหญ้าไปเมื่อวานนี้กลับมีหญ้าขึ้นรกเต็มไปหมด แถมหญ้ายังยาวกว่าตอนก่อนตัดถึงสองเท่า ช่างตัดผมรู้ทันทีว่านี่คงเป็นผลมาจากพรสวรรค์ของเขาแน่ๆ พรสวรรค์ที่เมื่อเขาตัดอะไรก็ตาม มันก็จะยาวขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่าเสมอ ช่างตัดผมรู้สึกท้อแท้และไม่ชอบพรสวรรค์ของเขาเอาเสียเลย
ช่างตัดผมพยายามตัดใจที่จะไม่ทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการตัดอะไรๆ อีกต่อไป เขารู้แล้วว่าพรสวรรค์ของเขาจะทำให้สิ่งที่เขาคิดจะตัด กลับยืดยาวออกไปเป็นสองเท่าจากที่เขาตั้งใจเสมอ ดังนั้น หนทางที่ดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงจากพรสวรรค์ที่เขาไม่ต้องการนี้ก็คือ การตัดใจไม่ทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการตัดทุกชนิด
แต่เช้าวันรุ่งขึ้น ช่างตัดผมกลับเกิดความรู้สึกที่อยากจะทำงานเกี่ยวกับการตัดมากขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า พรสวรรค์ของเขาทำให้การตัดใจไม่ทำอาชีพเกี่ยวกับการตัดกลับพลิกผันไปในทางตรงกันข้าม ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเกิดความรู้สึกที่อยากจะทำงานเกี่ยวกับการตัดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาบอกกับตัวเองว่า เขาต้องคิดให้รอบคอบกว่าเดิมสักหน่อย
ช่างตัดผมคิดทบทวนว่าเขาควรจะตัดอะไรดี การตัดที่ทำให้สิ่งต่างๆ ยาวขึ้นเป็นสองเท่านี้ มันพอจะมีประโยชน์อะไรบ้างไหมหนอ ช่างตัดผมคิด คิด แล้วก็คิด ในที่สุด ช่างตัดผมก็ได้ความคิดดีๆ
ช่างตัดผมรีบเดินทางไปที่พระราชวังและขอสมัครงานในตำแหน่งคนสร้างถนนซึ่งเรียกว่าพนักงานตัดถนนทันที แม้งบประมาณในการตัดถนนของเมืองจนๆ แห่งนี้จะมีไม่มากนัก แต่เมื่อช่างตัดผมผู้ซึ่งมีพรสวรรค์ในการตัดสิ่งต่างๆ ให้ยาวขึ้นได้มารับตำแหน่งเป็นพนักงานตัดถนน ไม่นานนัก เมืองทั้งเมืองก็มีถนนสายยาวๆ เต็มไปหมด
ชาวบ้านต่างมีความสุขกันถ้วนหน้าที่มีถนนหนทางดีๆ ใช้ ส่วนช่างตัดผมเองก็รู้สึกภูมิใจที่เขาได้ใช้ พรสวรรค์ของเขาให้เป็นประโยชน์เสียที และแล้วนิทานเรื่องนี้ก็จบลงอย่างมีความสุข
#นิทานนำบุญ
………………….
