นิทานเรื่อง “คำสัญญาของเบน” เป็นนิทานที่มีฉากล้ำยุค คือเป็นเหตุการณ์นอกโลก (ในดาวสมมติ) แต่เนื้อหาของนิทานเรื่องนี้ เป็นนิทานสอนใจที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) แต่งเอาไว้เพื่อแนะนำให้เด็ก ๆ ได้เตรียมตัวเตรียมใจในการมีสัตว์เลี้ยงสักตัว และการรู้จักรักษาคำมั่นสัญญา นิทานที่ให้ข้อคิดเรื่องการรักษาสัญญามีอยู่ไม่น้อย แต่นิทานที่ปลูกฝังเรื่องการดูแลสัตว์เลี้ยง ยังมีไม่มากนัก ที่สำคัญ หัวข้อเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง เป็นหนึ่งในสาระการเรียนรู้ ของเด็ก ซึ่งคุณครูหรือคุณพ่อคุณแม่ สามารถนำไปใช้เป็นส่วนเสริมในแผนการสอนหรือแผนการจัดประสบการณ์ได้
นิทานเรื่อง คำสัญญาของเบน
กาลครั้งหนึ่ง ณ ดวงดาวสีชมพูซึ่งอยู่นอกเขตจักรวาลที่พวกเราคุ้นเคย มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านทรงกลมที่ทำจากกระจกและโลหะล้ำสมัย เด็กน้อยคนนี้มีชื่อว่า “เบน”
เบนเป็นลูกชายคนเดียวของคุณพ่อคุณแม่ ในบ้านของเขาไม่มีญาติหรือเด็กคนอื่นอีกเลย บางครั้ง..เบนจึงรู้สึกเหงาและอยากมีใครสักคนเป็นเพื่อน
อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่เบนออกไปเดินเล่นในป่าหญ้าปุกปุยใกล้ ๆ บ้าน ช่วงที่เบนเดินผ่านสะพานข้ามแอ่งน้ำที่อยู่กลางป่า เบนก็เหลือบไปเห็นไข่สีเหลืองจุดม่วงฟองใหญ่ฟองหนึ่งตกอยู่ในพงหญ้าเชิงสะพาน เบนคิดว่าในไข่ฟองนั้นอาจมีลูกสัตว์ตัวเล็ก ๆ อาศัยอยู่และมันอาจเป็นเพื่อนที่ช่วยให้เขาหายเหงาได้ ด้วยเหตุนี้ เบนจึงนำไข่สีเหลืองจุดม่วงฟองใหญ่กลับไปที่บ้านด้วย
เมื่อเด็กน้อยกลับถึงบ้าน เขารีบขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ฟักไข่เพื่อให้มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักของเขา คุณพ่อคุณแม่ผู้ใจดีจึงถามเบนว่า “ถ้ามันเกิดมาแล้วไม่น่ารักล่ะ ลูกจะยังคงรักและเลี้ยงมันต่อไปรึเปล่า” ในเวลานั้น เบนมั่นใจว่าไข่สีเหลืองจุดม่วงในอ้อมกอดของเขาต้องฟักออกมาเป็นสัตว์ที่น่ารักแน่ ๆ ดังนั้น เบนจึงสัญญากับคุณพ่อคุณแม่ว่า “ถึงยังไง ผมก็จะดูแลมันตลอดไป…ไม่ว่ามันจะน่ารักหรือไม่ก็ตามครับ”
หลังจากที่เบนให้คำมั่นสัญญา คุณพ่อคุณแม่จึงอนุญาตให้ลูกชายฟักไข่และเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ ซึ่งทันทีที่คุณพ่อคุณแม่อนุญาต เบนก็รีบนำผ้านวมหนานุ่มของเขามาปูที่หน้าเตาผิงไฟฟ้า แล้วเอาเสื้อหนาวกับผ้าพันคอมาล้อมเป็นรัง จากนั้น เบนก็เข้าไปนอนกอดไข่ฟองใหญ่ฟองนั้นเพื่อให้ความอบอุ่น…จนตัวของเขาหลับไปในที่สุด
เช้าวันต่อมา เมื่อเบนตื่นนอนได้สักพัก ไข่สีเหลืองจุดม่วงของเขาก็ค่อย ๆ กระดุกกระดิกกระดุ๊กกระดิ๊ก จากนั้น เปลือกไข่ก็กระเทาะ แล้วลูกสัตว์ประหลาดตัวกลม ๆ ที่มีขนปุกปุยเหมือนไหมพรมสีเหลืองฟู ๆ ก็ลืมตาออกมาดูโลก
เบนหลงรักสัตว์เลี้ยงของเขาทันทีที่ได้เห็น เขาตั้งชื่อมันว่า “มุยมุย” พลางคิดเข้าข้างตัวเองว่า “เห็นไหมล่ะ มันออกมาน่ารักอย่างที่เขาคิดจริง ๆ ด้วย”
ในขณะที่เด็กน้อยกำลังดีใจ คุณพ่อคุณแม่ก็เตือนลูกชายให้จำคำสัญญาเอาไว้ให้ดี เพราะสัตว์บางอย่างจะมีรูปร่างเปลี่ยนไปเมื่อโตขึ้น แต่ในเวลานั้น เบนมั่นใจว่าถึงอย่างไรมุยมุยก็จะน่ารักแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เขาจึงย้ำกับคุณพ่อคุณแม่ว่า “ถึงยังไง ผมก็จะดูแลมันตลอดไป…ไม่ว่ามันจะน่ารักหรือไม่ก็ตามครับ”
หลายเดือนต่อมา มุยมุยค่อย ๆ เติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ โดยมีเด็กน้อยเฝ้าดูแลเป็นอย่างดี แต่เมื่อมุยมุยอายุครบ 1 ปี ขนสีเหลืองที่ฟูและนุ่มนวลของมันก็เริ่มร่วง จากนั้น มันก็กลายเป็นสัตว์ประหลาดจมูกโต ที่มีเนื้อตัวเป็นสีม่วง แถมผิวหนังยังดูปุ่มป่ำ เป็นดอกเป็นดวงคล้ายกับเป็นขี้เรื้อนเสียอีก แน่นอนว่า มุยมุยไม่เหลือเค้าความน่ารักแบบสมัยที่มันยังเป็นเด็กอยู่เลย
เบนตกใจมากต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แม้เขาจะรักสัตว์เลี้ยงของเขา แต่การที่มันเปลี่ยนรูปร่างไปเช่นนี้ก็ทำให้เบนรู้สึกไม่อยากอยู่ใกล้ ๆ มัน รวมทั้งไม่ยอมให้มันเข้ามานอนใกล้ ๆ อีกด้วย
มุยมุยเสียใจที่เจ้านายเปลี่ยนไป แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ไม่อยากทำให้เจ้านายที่มันรักต้องลำบากใจ ด้วยเหตุนี้ มันจึงได้แต่นั่งหงอย ๆ อยู่ที่มุมห้องอย่างเหงา ๆ
คืนวันหนึ่ง…หลังจากที่เบนตีตัวออกห่างจากมุยมุยมาได้สักระยะ เขาเข้านอนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาด้วยความอึดอัดใจ เบนรู้สึกแปลก ๆ ถ้าเขาจะต้องกอดสัตว์เลี้ยงที่มีรูปร่างน่าเกลียด แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกผิดที่ไม่รักษาคำสัญญาที่ให้ไว้
“ถึงยังไง ผมก็จะดูแลมันตลอดไป…ไม่ว่ามันจะน่ารักหรือไม่ก็ตามครับ”
คำสัญญาที่พูดออกมาง่าย ๆ ถ้าไม่รักษาไว้ มันก็คงเรียกว่าคำสัญญาไม่ได้ คงเป็นเพียงคำพูดลอย ๆ ของคนที่ไร้ค่าเท่านั้น
เบนไม่อยากเป็นคนไร้ค่า และเจ้ามุยมุยก็ไม่ได้ทำอะไรผิดสักนิด มันยังคงเป็นเจ้ามุยมุยตัวเดิมของเขา เพียงแค่รูปร่างหน้าตาของมันเปลี่ยนแปลงไปเฉย ๆ
ถ้าวันหนึ่งตัวเขาเปลี่ยนไปจนดูไม่น่ารัก แล้วหากพ่อกับแม่ไม่ต้องการเขาอีกต่อไปล่ะ เขาจะรู้สึกอย่างไรหนอ?
เบนครุ่นคิดอย่างจริงจังที่สุดในชีวิต และแล้ว…เขาก็ตัดสินใจว่าเขาควรจะรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้
เช้าวันรุ่งขึ้น เบนตื่นแต่เช้าแล้วตรงเข้าไปอุ้มเจ้ามุยมุยมากอดเอาไว้ในอ้อมแขนแทนคำขอโทษ จากนั้น เขาก็คอยดูแลมันเหมือนในวันเก่า ๆ
มุยมุยดีใจมากที่เจ้านายของมัน…ยังคงรักมันไม่แปรเปลี่ยน ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจที่ลูกชายคิดได้และกลับมารักษาคำสัญญาที่ให้ไว้
หลังจากที่เบนมองข้ามรูปร่างหน้าตาของมุยมุยแล้วกลับมารักมันดังเดิมได้ไม่กี่เดือน ร่างกายของมุยมุยก็มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยคราวนี้มันกลายสภาพเป็นสัตว์ตัวกลมที่มีขนฟู ๆ สีเหลืองสลับสีม่วง แถมยังมีประกายวิบวับ ซึ่งดูสวยกว่าตอนแรกเกิดหลายเท่า
แต่ถึงมุยมุยจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ตาม มันก็ไม่มีผลใด ๆ ต่อเบนเลย เพราะเขารู้แล้วว่า “ถึงอย่างไร เขาก็จะดูแลมันตลอดไป…ไม่ว่ามันจะน่ารักหรือไม่ก็ตาม”
#นิทานนำบุญ
………………
