นิทานก่อนนอนเรื่อง “เจ้าหญิงผู้เมตตา” เป็นนิทานคุณธรรม ที่แถมข้อคิดสอนใจคน เกี่ยวกับ ความเมตตาต่อสัตว์ ซึ่งแนวทางการแต่งนิทานเรื่องนี้ ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ใช้แนวทางการแต่งเรื่องในลักษณะของนิทานคลาสสิกหรือนิทานอมตะ (แบบนิทานเรื่อง สโนว์ไวท์) โดยใส่ภาพจำที่น่าจะประทับใจเด็ก ๆ เอาไว้ในฉากสำคัญของเรื่อง และที่สำคัญ เนื้อหาหลักของเรื่องราวทั้งหมด เป็นเรื่องของความเมตตาที่มีต่อสัตว์ และผลของการทำความดี ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่ควรปลูกฝังให้แก่เด็ก
นิทานเรื่อง เจ้าหญิงผู้เมตตา
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงองค์หนึ่งทรงเป็นเจ้าหญิงผู้มีจิตใจเมตตาต่อสัตว์จนเป็นที่เลื่องลือ ทุกวัน…เจ้าหญิงมักหาเวลาทำสิ่งดี ๆ ให้สัตว์ต่าง ๆ เช่น การนำหญ้าไปเลี้ยงม้าที่โรงฝึก, การปลูกดอกไม้ให้แมลงมีแหล่งน้ำหวาน, การเอาเมล็ดพืชใส่ถุงตาข่ายไปแขวนตามต้นไม้เป็นอาหารสำรองสำหรับนก และการสร้างเพิงพักตามชายป่าให้สัตว์น้อยใหญ่ได้ใช้หลบฝนในยามฉุกเฉิน เจ้าหญิงทรงตั้งใจช่วยเหลือสัตว์อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้เอง ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จไปที่ไหน พวกสัตว์จึงมักจับตามองพระองค์ด้วยความชื่นชมอยู่เสมอ ๆ
วันหนึ่ง มีแม่มดซึ่งเชี่ยวชาญวิชาแปลงโฉมได้แอบเข้ามาในเมือง แม่มดอิจฉาที่เจ้าหญิงมีชื่อเสียงและเป็นที่หมายปองของเจ้าชายรูปงามทั่วทุกสารทิศ นางแม่มดจึงลอบเข้าไปในห้องนอนของเจ้าหญิง แล้วร่ายมนตร์แปลงร่างเป็นเจ้าหญิงพร้อมกับเสกให้เจ้าหญิงกลายเป็นหญิงใบ้ที่มีหน้าตาแสนอัปลักษณ์
เมื่อแม่มดจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แม่มดในร่างเจ้าหญิงก็แกล้งร้องเรียกให้ทหารเข้ามาจับผู้บุกรุกไปขังในคุกหลวง จากนั้น นางก็สั่งให้ทหารเตรียมประหารชีวิตหญิงแปลกหน้าคนนี้ทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้น
หลังจากที่เจ้าหญิงตัวจริงถูกจับไปขัง นกฮูกซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดก็รีบบินไปเล่าเรื่องให้เพื่อนสัตว์ทั้งหลายฟัง สัตว์ทุกตัวต่างเป็นห่วงเจ้าหญิงมาก ตัวตุ่นยอดนักขุดดินจึงตัดสินใจขุดอุโมงค์ไปโผล่ในคุกหลวง แล้วขอให้เจ้าหญิงรีบมุดอุโมงค์หนีตามมันออกมา
ในตอนเช้า เมื่อทหารพบว่านักโทษได้หลบหนีไปจากคุก พวกทหารจึงตามล่าหาคนร้ายกันอย่างจ้าละหวั่น แต่เมื่อทหารจะขี่ม้าออกติดตามคนร้าย ม้าทุกตัวกลับไม่ยอมทำตามคำสั่งของเหล่าทหาร ทั้งนี้เพราะพวกมันรักเจ้าหญิงและอยากให้เจ้าหญิงหนีไปให้ได้ไกลมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม เมื่อทหารเห็นว่าม้าดื้อดึงผิดปกติ ทหารจึงใช้แส้ฟาดม้าจนทำให้พวกม้าจำใจออกวิ่งตามคำสั่งของเหล่าทหารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เหล่าทหารขี่ม้าติดตามคนร้ายจนมืดค่ำ พวกเขาแกะรอยผู้หลบหนีเข้าไปในป่าลึก ในที่สุด พวกทหารก็พบที่ซ่อนตัวของเจ้าหญิง
ทันทีที่ทหารกระโดดลงจากม้าแล้วตรงเข้าไปหมายจะจับกุมคนร้าย พวกทหารก็ต้องแปลกใจมากเมื่อสัตว์ป่าสารพัดชนิดพากันออกมาจากที่ซ่อน แล้วเอาตัวเข้ากำบังเป็นเกราะป้องกันให้นักโทษ!
ในขณะที่เหล่าทหารยังคงงุนงงอยู่นั้น ฝูงหิ่งห้อยก็บินไปที่เหนือศีรษะของเจ้าหญิง แล้วเรียงตัวเป็นรูปมงกุฎพร้อมกับส่องแสงวิบวับเพื่อสื่อสารให้เหล่าทหารรู้ว่า นี่คือเจ้าหญิงที่ถูกสาป…ไม่ใช่คนร้ายอย่างที่ทหารทั้งหลายเข้าใจผิด
ทหารเริ่มเอะใจต่อสิ่งที่ได้เห็น เมื่อทหารนำเรื่องทั้งหมดมาประติดประต่อกัน รวมทั้งนึกถึงถ้อยคำของเจ้าหญิงตัวปลอมที่สั่งให้นำผู้บุกรุกไปประหารชีวิต เหล่าทหารจึงมั่นใจว่าคนที่ออกคำสั่งดังกล่าวต้องไม่ใช่เจ้าหญิงผู้มีจิตใจเมตตาเป็นแน่
ครั้นเมื่อเหล่าทหารได้รู้ความจริง พวกเขาจึงพาตัวเจ้าหญิงกลับวังโดยตั้งใจจะจัดการกับแม่มดที่บังอาจปลอมตัวมาเป็นเจ้าหญิง
แต่อนิจจา! เมื่อเหล่าทหารกลับไปถึงวัง สิ่งที่ทหารพบก็ทำให้พวกเขาต้องแปลกใจจนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองอีก เพราะนางแม่มดที่นอนอยู่บนเตียงในห้องของเจ้าหญิงนั้น ถูกแมงมุมนับร้อย ๆ ตัวชักใยมัดติดกับเตียงจนกระดุกกระดิกไม่ได้เลยแม้สักนิด
นางแม่มดในร่างเจ้าหญิงสิ้นฤทธิ์ถึงขั้นน้ำตาตก นางขอโทษเจ้าหญิงและวิงวอนให้พระองค์ทรงยกโทษให้ เจ้าหญิงสงสารแม่มดมาก พระองค์จึงให้อภัยและช่วยปล่อยนางแม่มดจากใยแมงมุมที่มัดอยู่
เมื่อแม่มดเป็นอิสระ นางก็ขอบคุณเจ้าหญิงแล้วรีบถอนคำสาปให้พระองค์กลายร่างเป็นเจ้าหญิงคนเดิมทันที
ในที่สุด เจ้าหญิงผู้เมตตาก็หลุดพ้นจากคำสาป สัตว์ทั้งหลายต่างดีใจมากที่พวกมันช่วยเจ้าหญิงได้สำเร็จ ส่วนนางแม่มดก็รีบออกจากเมืองไปและไม่เคยคิดกลับมารบกวนเจ้าหญิงผู้เป็นที่รักของสัตว์ทั้งหลายอีกเลย
#นิทานนำบุญ
………………………..
