นิทานเกี่ยวกับแม่มดใจร้ายเรื่อง “นางแม่มดเฒ่าเจ้าเล่ห์” เป็นนิทานก่อนนอนสนุก ๆ ที่มีแง่คิดสอนใจ การกระทำของแม่มดในเรื่อง น่าจะมีแง่มุมให้คุณพ่อคุณแม่พูดคุยและให้ข้อคิดแก่ลูก เกี่ยวกับเรื่องคนแปลกหน้าที่ลูก ๆ ได้พบ และการสังเกตความผิดปกติในคำพูดของคนแปลกหน้าที่ลูก ๆ ได้พบ ผมในฐานะของผู้แต่งหวังว่า นิทานเรื่องนี้จะให้ทั้งความสนุกและให้แง่คิดแก่เด็ก ๆ ทุกคนครับ
นิทานเรื่อง นางแม่มดเฒ่าเจ้าเล่ห์
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีแม่มดตนหนึ่งเป็นแม่มดเฒ่าที่ชอบทำเรื่องเลวร้ายอยู่เสมอ
วันหนึ่ง นางแม่มดเฒ่านึกสนุกอยากหลอกให้มนุษย์ใช้เวทมนตร์ของนางทำร้ายกันเอง ด้วยเหตุนี้ นางแม่มดเจ้าเล่ห์จึงแปลงกายเป็นนางฟ้า แล้วไปดักรอเด็ก ๆ ที่ลานกลางป่าเพื่อหาโอกาสยั่วยุให้เด็กน้อยผู้อ่อนต่อโลกหลงกลนำเวทมนตร์ด้านมืดของนางไปใช้เพื่อทำร้ายผู้อื่น
หลังจากที่นางแม่มดเจ้าเล่ห์แอบซุ่มรอเหยื่ออยู่นาน ในที่สุด นางแม่มดก็พบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินหน้าบึ้งตึงมานั่งที่ลานกลางป่าตามลำพัง
แม่มดเฒ่าในคราบนางฟ้าแสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด นางรู้ดีว่าเด็กที่กำลังโมโหโทโสเป็นเด็กที่ง่ายต่อการล่อลวงให้ติดกับมากที่สุด ดังนั้น นางจึงรีบปรี่เข้าไปหาเด็กน้อย แล้วแสร้งถามไถ่สาเหตุที่ทำให้เธออารมณ์เสีย
เมื่อเด็กหญิงเห็นนางฟ้าเข้ามาซักถาม เด็กน้อยจึงไว้ใจและเล่าให้นางฟ้าฟังว่า สาเหตุที่ทำให้เธอไม่สบอารมณ์เป็นเพราะเพื่อนรักไม่ยอมให้ยืมหนังสือนิทานเล่มใหม่กลับไปอ่านที่บ้าน!
นางฟ้าตัวปลอมทำทีเป็นไม่พอใจตามไปด้วย นางแกล้งตำหนิเพื่อนของเด็กหญิงว่าแล้งน้ำใจชนิดที่น่าจะเสกให้หายไปจากโลก นางพาลกล่าวโทษคุณครูว่าควรสอนลูกศิษย์ให้ดีกว่านี้ จากนั้น นางก็ยุให้เด็กหญิงคิดหาข้อเสียของคุณครูต่าง ๆ นานา
เด็กหญิงนึกแปลกใจที่นางฟ้าบอกให้เธอคิดหาข้อเสียของคุณครูผู้เป็นที่เคารพ แต่เพราะนางฟ้าอาจจะเห็นใจเธอจริง ๆ เด็กน้อยจึงพยายามคิดหาข้อเสียของคุณครูตามที่นางฟ้าบอก
เมื่อเด็กหญิงบอกนางฟ้าว่าข้อเสียของคุณครูเท่าที่เธอพอจะนึกได้คือคุณครูชอบดุและชอบให้การบ้านเยอะแยะไปหมด
เมื่อแม่มดร้อยเล่ห์ได้ฟัง นางจึงว่าคุณครูโหดร้ายไร้ความเมตตา…ชนิดที่น่าจะเสกให้หาย ไปจากโลก หลังจากนั้น นางก็กล่าวหาว่าคุณพ่อคุณแม่ของเด็กน้อยน่าจะเอาใจใส่และช่วยลูกสาวให้มากกว่านี้สักหน่อย แล้วนางก็ยุให้เด็กหญิงคิดหาข้อเสียของพ่อกับแม่โดยเฉพาะตอนที่ท่านทำให้เธอร้องไห้
เด็กหญิงแปลกใจที่นางฟ้าบอกให้เธอคิดหาข้อเสียของคุณพ่อคุณแม่ แม้คุณพ่อคุณแม่จะเคยดุด่าว่ากล่าวเธอบ้าง แต่ที่ท่านทำไปก็เพราะท่านรักและอยากสอนให้ลูกเป็นคนดี
เช่นเดียวกันกับคุณครู การที่คุณครูดุและให้การบ้านนั้น แม้เธอจะไม่ชอบ…แต่เธอก็รู้ดีว่าที่คุณครูทำก็เพราะคุณครูรัก หรือในการที่เพื่อนของเธอไม่ให้ยืมหนังสือนิทานเล่มใหม่ แม้เธอจะไม่พอใจ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดที่ควรเสกให้หายไปจากโลก!
เด็กน้อยเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของนางฟ้าที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่เพื่อความแน่ใจ เด็กหญิงผู้เฉลียวฉลาดจึงแกล้งทำหน้าซื่อแล้วบอกนางฟ้าว่า เธอไม่ชอบพ่อกับแม่เวลาที่ท่านตีและดุด่า
เมื่อนางแม่มดเฒ่าได้ฟังคำตอบของเด็กน้อยหน้าตาใสซื่อ นางจึงคิดว่าเด็กหญิงหลงกลติดกับ แม่มดใจร้ายแกล้งบีบน้ำตา แล้วแสดงทีท่าว่าเด็กน้อยช่างแสนอาภัพที่ชีวิตแวดล้อมไปด้วยผู้คนที่แสนร้ายกาจ จากนั้น นางก็เสนอที่จะมอบพลังวิเศษทั้งหมดให้แก่เด็กน้อยเป็นการชั่วคราว เพื่อให้เด็กน้อยสามารถร่ายมนตร์เนรมิตอะไรก็ได้หนึ่งครั้ง เช่น การเสกให้เพื่อนรัก, คุณครู รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่หายไปจากโลกนี้ ตามแต่ใจปรารถนา
เด็กหญิงตาเป็นประกายเมื่อได้ฟังถ้อยคำของนางฟ้า เธอยินดีรับพลังวิเศษตามที่นางฟ้าเสนอ ซึ่งเมื่อเธอได้รับพลังดังกล่าวแล้ว เด็กน้อยก็รีบร่ายมนตร์เพื่อเนรมิตสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
“โอมมะลุกกุ๊กกิ๊ก…..” เด็กหญิงส่งเสียงร่ายมนตร์ด้วยพลังที่ได้รับมา “ขอให้พลังวิเศษทั้งหมดนี้มลายหายไปจากโลกโดยไม่อาจหวนคืนสู่เจ้าของของมันได้อีก….โอมเพี้ยง”
เมื่อเด็กน้อยร่ายมนตร์จบ พลังวิเศษก็สำแดงเดชด้วยการทำให้อำนาจทั้งหมดสลายไปในอากาศ
นางแม่มดเจ้าเล่ห์ตกใจจนหน้าซีดเผือด เพราะเมื่อนางไร้ซึ่งอำนาจมืดอันชั่วร้าย นางก็กลับกลายเป็นหญิงชราที่มีแต่หนังเหี่ยว ๆ หุ้มกระดุกผุ ๆ อยู่เท่านั้น
แผนการของแม่มดเจ้าเล่ห์ล้มเหลวไม่เป็นท่า เด็กหญิงดีใจที่เธอไหวตัวทันและมีสติไม่หลงคำยุยงของนางแม่มด
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา นางแม่มดเฒ่าเจ้าเล่ห์ก็หายไปจากแวดวงของเหล่าแม่มดโดยไม่มีใครทราบข่าวอีก
ส่วนเด็กหญิงผู้ทำลายแผนร้ายได้สำเร็จก็นำเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอไปเล่าให้ใครต่อใครฟัง จนกลายเป็นนิทานที่เด็ก ๆ กำลังอ่านกันอยู่นี้
#นิทานนำบุญ
……………………….
