นิทานก่อนนอนเรื่อง “วีรบุรุษแขนเดียว” เป็นนิทานที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ตั้งใจแต่งให้เป็นนิทานสำหรับเด็กและผู้พิการ เพราะผมเชื่อว่า “เด็กทุกคนล้วนอยากมีนิทานสักเรื่อง ที่ตัวเองสามารถเป็นตัวเอกของนิทานเรื่องนั้น ๆ ได้” นิทานเรื่องนี้จึงเป็นนิทานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนาดีที่ผมมีต่อเด็กทุก ๆ คน ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ผมหวังว่านิทานเรื่องนี้จะสร้างความสุขให้แก่ผู้อ่านและทำให้เด็ก ๆ ทุกคนรักและยอมรับกันและกันในฐานะเพื่อนมนุษย์อีกคนหนึ่งได้มากขึ้น ขอส่งความรักและความปรารถนาดีไปให้เด็ก ๆ ทุกคนที่ได้อ่านนิทานเรื่องนี้นะครับ
นิทานเรื่อง วีรบุรุษแขนเดียว
เอียนเป็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ เขาเกิดมาโดยมีแขนเพียงข้างเดียว เด็กคนอื่น ๆ ในเมืองจึงพากันล้อเลียนเขาและไม่ยอมให้เขาร่วมกลุ่มด้วย
ทุก ๆ วัน เอียนมักจะเข้าไปเดินเล่นในป่าเพื่อหาที่สงบ ๆ นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เอียนเคยคิดอยากมีแขนอีกข้างเหมือนเด็กคนอื่น ๆ เพราะมันอาจทำให้ทุกคนยอมรับเขาเป็นเพื่อนได้ง่ายกว่านี้ แต่เอียนรู้ดีว่ามันเป็นได้เพียงแค่ความฝัน ดังนั้น เขาจึงทำใจและหวังว่าสักวันเด็กคนอื่น ๆ จะมองเห็นข้อดีในตัวของเขาบ้าง
คืนวันหนึ่ง ในขณะที่คนทั้งเมืองหลับสนิท มีคนแคระหน้าตาน่ากลัวกลุ่มหนึ่งแอบลอบเข้ามาในเมือง แล้วจัดการจับตัวเด็ก ๆ ใส่กระสอบเวทมนตร์ จากนั้น พวกมันก็ช่วยกันแบกกระสอบเวทมนตร์ออกจากเมืองเพื่อนำเด็ก ๆ ไปส่งให้แก่นางแม่มดใจร้าย
เมื่อพวกคนแคระแบกกระสอบมาไกลเกินกว่าที่พ่อแม่ของเด็ก ๆ จะตื่นและตามมาทัน พวกมันก็วางกระสอบลงพื้น แล้วสั่งให้เด็ก ๆ ออกมาเข้าแถวเพื่อเดินตามพวกมันไปยังกระท่อมของแม่มดที่ตั้งอยู่กลางป่าลึก
เด็ก ๆ พากันร้องไห้เพราะไม่มีใครอยากเป็นคนรับใช้ของนางแม่มด ส่วนคนแคระก็ได้แต่ร้องขู่และเร่งให้เด็ก ๆ รีบก้าวเท้าเดินไปให้ไวที่สุด
ในระหว่างการเดินทาง หัวหน้าคนแคระนับจำนวนเด็กที่มันจับมาได้ทีละคน…ทีละคน จนในที่สุด มันก็เกิดสะดุดตาเข้ากับเอียนซึ่งเดินอยู่ตรงท้ายแถวพอดี
หัวหน้าคนแคระจำได้ว่า แม่มดเคยสั่งให้มันเลือกลักพาตัวเฉพาะเด็กที่ดูแข็งแรงเท่านั้นเพราะเด็กแข็งแรงทำงานได้มากและไม่เปลืองค่าอาหารโดยเปล่าประโยชน์ ถ้าแม่มดรู้ว่าเด็กบางคนที่มันจับมาในคราวนี้เป็นเด็กที่มีแขนเพียงข้างเดียว แม่มดอาจจะโกรธและสาปให้มันกลายเป็นจิ้งจกก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้เอง หัวหน้าคนแคระจึงแอบปล่อยเอียนทิ้งไว้ที่กลางป่า
เอียนแปลกใจมากที่จู่ ๆ สมุนของแม่มดก็ยอมปล่อยตัวเขาเสียเฉย ๆ
แม้เอียนจะดีใจที่ไม่ต้องไปเป็นคนรับใช้ของนางแม่มด แต่เขาก็อดที่จะเป็นห่วงเด็กคนอื่น ๆ ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ เอียนจึงรวบรวมความกล้า แล้วแอบสะกดรอยตามทุก ๆ คนไป พร้อม ๆ กับคิดหาวิธีในการช่วยเหลือ
เมื่อเอียนติดตามขบวนของเด็ก ๆ และเหล่าคนแคระไปจนถึงตำแหน่งที่ตั้งของกระท่อมแม่มดใจร้ายแล้ว เด็กน้อยแขนเดียวก็เริ่มใช้ความคิดโดยค่อย ๆ ประเมินสถานการณ์ทั้งหมด หลังจากนั้น เขาก็ตัดสินใจกลับไปแจ้งข่าวและขอให้ผู้ใหญ่ยื่นมือเข้ามาแก้ปัญหา
ครั้นเมื่อพ่อแม่ของเด็ก ๆ ที่ถูกลักพาตัวไปได้ทราบเบาะแสจากเด็กแขนเดียวผู้กล้าหาญ พ่อแม่ทุก ๆ คนก็ปรึกษาหารือกันแล้วตกลงใจที่จะไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจเวทมนตร์อย่างไม่รอช้า
ไม่นานนัก เหล่าตำรวจเวทมนตร์ก็รวมพลบุกไปยังกระท่อมของนางแม่มด แล้วใช้คาถากับอาวุธวิเศษต่าง ๆ จัดการกับแม่มดใจร้ายและเหล่าลูกสมุน จนคนร้ายทั้งหมดสิ้นฤทธิ์ไปตาม ๆ กัน
แม่มดกับพวกคนแคระได้รับโทษโดยถูกจับขังและดัดนิสัยที่เรือนจำศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลาหนึ่งร้อยปี ส่วนเด็ก ๆ ก็ได้รับการปล่อยตัวให้กลับคืนสู่อ้อมอกของพ่อกับแม่ที่พวกเขารัก
เมื่อเด็กทุกคนทราบถึงความกล้าหาญที่เอียนติดตามไปเพื่อหาทางช่วยพวกเขา เด็ก ๆ ที่เคยล้อเลียนและไม่ยอมรับเอียนก็พากันสำนึกผิด
เด็กทุกคนขอโทษเอียนที่พวกตนมัวสนใจรูปกายภายนอกโดยลืมมองถึงสิ่งที่สำคัญกว่านั้น ซึ่งนั่นก็คือความรักเพื่อนที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในหัวใจของเอียนนั่นเอง
และแล้ว…วีรบุรุษแขนเดียวอย่างเอียนก็เอาชนะใจเพื่อน ๆ ได้สำเร็จ
#นิทานนำบุญ
…………………….
