นานมาแล้ว ในช่วงปีแรก ๆ ที่ผมเริ่มเขียนนิทานให้นิตยสารขวัญเรือน ผมจำได้ว่า ตอนที่เขียนนิทานเรื่อง “สกปรกที่สุดในโลก” ได้สักพัก ผมก็รู้สึกเสียดายตัวละครเด็กผู้หญิงในนิทานเรื่องนั้น และแอบฝันว่าหากเป็นไปได้ จะพยายามเขียนนิทานตอนต่อของ “สกปรกที่สุดในโลก” เผื่อว่าสักวันจะนำนิทานเหล่านั้นมารวมเป็นเล่มได้แบบหนังสือเรื่อง “ปิ๊ปปี้ถุงเท้ายาว” ของประเทศสวีเดน (ผมฝันไปไกลเลย)
เมื่อเวลาผ่านมาอีกนานพอสมควร ผมจึงแต่งนิทานเรื่อง “อสุรกายมอมแมม” เป็นนิทานภาคต่อของนิทานเรื่อง “สกปรกที่สุดในโลก” แถมยังนำตัวละครจากนิทานอีกสองเรื่องมาร่วมแสดงในนิทานเรื่องนี้ด้วย หวังว่าคุณผู้อ่านจะมีความสุขกับการอ่านนิทานเรื่องนี้นะครับ อ้อ…ถ้ามีคนสงสัยว่านิทานเรื่องอสุรกายมอมแมมมีประโยชน์อะไรนอกจากการให้ความเพลิดเพลิน คำตอบก็คือ อสุรกายมอมแมมเป็นนิทานประเภทที่ชวนให้เด็ก ๆ เห็นคุณค่าของการอาบน้ำครับ ขอให้มีความสุขกับการอ่านนิทานนะครับ
นิทานเรื่อง อสุรกายมอมแมม
มอมแมมเป็นอสูรกายที่เกิดในกองขยะ บ้านของมอมแมมเป็นภูเขาขยะขนาดมหึมา มอมแมมชอบบ้านกองขยะของมันมาก มันชอบคุ้ยหาข้าวของในกองขยะแล้วนำมันมาสร้างเป็นของเล่นแปลก ๆ ใหม่ ๆ อยู่เสมอ มอมแมมสร้างของเล่นเอาไว้มากมายเต็มไปหมด ความฝันอันยิ่งใหญ่ของมอมแมมก็คือ มันอยากจะสร้างของเล่นเพื่อทำให้เด็ก ๆ ทุกคนมีความสุข
แม้มอมแมมจะสร้างของเล่นแสนสนุกเอาไว้สารพัดอย่าง แต่ด้วยเนื้อตัวที่แสนสกปรกของมอมแมม เด็ก ๆ จึงไม่ยอมเฉียดกายเข้าใกล้มอมแมมเลยแม้แต่นิดเดียว มอมแมมทั้งเหงาทั้งเศร้า มันอยากจะเป็นเพื่อนกับเด็ก ๆ มากจริง ๆ แต่จนแล้วจนรอด มอมแมมก็ไม่รู้ว่ามันควรจะทำอย่างไรดี
วันหนึ่ง มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านกองขยะของมอมแมม แต่เดิม…เด็กผู้หญิงคนนี้เคยได้ชื่อว่าเป็น “เด็กผู้หญิงที่สกปรกที่สุดในโลก” (เธอสกปรกถึงขนาดที่มีกลิ่นเหม็นตุ ๆ ลอยคลุ้งออกมาจากตัวเลยทีเดียว) แต่หลังจากที่เธอชวนแมวเหมียวเพื่อนรักที่สกปรกไม่แพ้กันไปเล่นเป่าฟองสบู่กลางสายฝน เมื่อสายฝนรวมเข้ากับฟองสบู่ เด็กผู้หญิงที่เคยมีกลิ่นเหม็นตุ ๆ ก็กลับกลายมาเป็นเด็กผู้หญิงที่มีกลิ่นสบู่หอมสะอาดราวกับเป็นคนละคน
เมื่อเด็กผู้หญิงที่หอมกลิ่นสบู่เห็นเจ้าอสูรกายมอมแมมนั่งหน้าเศร้าอยู่ที่ภูเขากองขยะ เด็กหญิงใจดีจึงเอ่ยปากถามเจ้าอสูรกายว่าเกิดอะไรขึ้น?
มอมแมมเล่าเรื่องทั้งหมดให้เด็กน้อยที่มีกลิ่นสบู่หอมฟุ้งฟัง และเมื่อเด็กหญิงได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด เธอจึงรับอาสาช่วยทำให้มอมแมมกลายเป็นอสูรกายที่หอมสะอาดเหมือนกับตัวของเธอ
จริง ๆ แล้ว การทำให้มอมแมมหอมสะอาดคงจะไม่วุ่นวายสักเท่าไหร่…ถ้าหากมอมแมมเป็นอสูรกายตัวเล็ก ๆ เหมือนกับเด็ก ๆ แต่ด้วยร่างกายของมอมแมมที่ใหญ่โตเกือบเท่าช้าง เด็กหญิงผู้ใจดีจึงจำเป็นต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของเธอในการทำให้มอมแมมหอมสะอาด
เจ้าชายสายลมกับคุณฟันนักทำฟองเป็นคนที่เด็กหญิงขอร้องให้มาช่วยเหลือ เด็กหญิงขอให้เจ้าชายสายลมใช้พลังบังคับให้ฝนมาตกตรงที่บ้านกองขยะของมอมแมม จากนั้น เธอก็ขอให้คุณฟันนักทำฟองช่วยปีนขึ้นไปยืนบนยอดของภูเขาขยะ แล้วเป่าฟองสบู่ให้ล่องลอยออกมาเคล้ากับสายฝน
แน่นอน…เมื่อสายฝนรวมเข้ากับฟองสบู่ ความสะอาดเอี่ยมอ่องจึงเกิดขึ้น แต่เพราะคุณฟันเพลินกับการทำฟองมากไปหน่อย ดังนั้น แทนที่มอมแมมจะกลายเป็นอสูรกายแสนสะอาดที่มีกลิ่นหอมของสบู่ลอยฟุ้งออกมาจากตัวแต่เพียงผู้เดียว ฟองสบู่กับสายฝนยังช่วยทำให้ของเล่นและภูเขาขยะขนาดมหึมากลับกลายเป็นดินแดนที่หอมฟุ้งไปกลิ่นสบู่หอมสะอาด
หลังฝนตก เจ้าชายสายลมใช้สายลมเป่าขนสีขาว ๆ ของมอมแมมให้ฟูนุ่มดูน่ารัก ส่วนเด็กหญิงกับคุณฟันก็ช่วยกันจัดทรงผมและผูกโบว์ที่ขนของมอมแมมจนไม่เหลือเค้าของอสูรกายให้เด็ก ๆ กลัวอีกต่อไป
เมื่อมอมแมมกลายเป็นอสูรกายแสนน่ารักที่มีกลิ่นหอมสะอาดลอยฟุ้งออกมาจากตัว เด็ก ๆ ที่เคยรังเกียจไม่อยากเข้าใกล้มอมแมมก็พากันเปลี่ยนใจแย่งกันเข้ามากอดมอมแมมจนมอมแมมแทบตั้งตัวไม่ติด เด็ก ๆ มีความสุขมากที่ได้เล่นของเล่นแสนสนุกที่มอมมอมสร้างขึ้น ส่วนมอมแมมเองก็มีความสุขที่เด็ก ๆ ชอบของเล่นของมัน
มอมแมมขอบคุณเด็กหญิงใจดี เจ้าชายสายลมและคุณฟันนักทำฟองที่ช่วยทำให้มันเป็นที่รักของเด็ก ๆ และแล้ว เรื่องวุ่น ๆ ของมอมแมมก็จบลงอย่างมีความสุข
#นิทานนำบุญ
