เมื่อนึกถึงนิทานจีนก่อนนอน หลายคนอาจนึกถึงนิทานแนวจอมยุทธ์ยอดฝีมือ แต่ในความคิดของผมซึ่งเป็นลูกหลานจีน นิทานจีนหลายเรื่องที่เคยได้ยินก็ไม่ได้มีฉากการต่อสู้หรือการประลองยุทธ์เลยแม้แต่น้อย นิทานจีนจำนวนมากมักมีข้อคิดหรือคุณธรรมสอนใจให้แก่เด็ก ๆ
เมื่อผมอยากลองแต่งนิทานจีน ผมจึงทดลองแต่งนิทานโดยนำข้อคิดที่ได้จากอากุ๊ง (หรือคุณตา) มาใช้ อากุ๊งของผมป็นคนจีนที่อพยพมาจากประเทศจีน เป็นคนเข้มงวด แต่ใจดีกับหลาน ที่สำคัญ อากุ๊งเป็นคนซื่อตรงและรักษาคำพูดมาก ผมได้เรียนรู้สิ่งสำคัญนี้มาจากอากุ๊ง ผมจึงอยากนำคุณธรรมข้อนี้มาเล่าเป็นนิทานให้ทุก ๆ คนได้อ่าน หวังว่าคงชอบนิทานเรื่องนี้นะครับ
นิทานเรื่อง พ่อค้ากับพรานทะเล
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีพรานทะเลผู้หนึ่งเป็นคนที่มีความสามารถในการหาสิ่งต่าง ๆ จากท้องทะเลได้ราวกับเนรมิต ไม่ว่าใครต้องการของสิ่งใด หากเขารับปากว่าจะหามาให้ เขาก็ไม่เคยผิดคำสัญญาเลยแม้สักครั้ง ครั้นเมื่อพรานทะเลแก่ตัวลง พรานเฒ่าจึงตัดสินใจไปปักหลักพักอาศัยอยู่ในเมืองแห่งหนึ่ง แล้วรับจ้างหาปลาให้พ่อค้าตามกำลังที่ตัวเขาพอจะมีอยู่
วันหนึ่งในช่วงฤดูฝน มีพ่อค้าสองคนชื่อไช่หยวนและหลี่ตงมาว่าจ้างให้เหล่าชาวประมงและพรานทะเลช่วยออกเรือเพื่อหาปลามาให้ แต่หลังจากที่พ่อค้าทั้งสองรายกลับไปได้ไม่นาน พายุใหญ่ก็พัดเข้ามากระหน่ำเมือง ซึ่งทำให้ชาวประมงทั้งหลายถอดใจไม่กล้าออกเรือ เหลือก็แต่พรานทะเลผู้ยึดมั่นคำสัญญาเพียงคนเดียวที่ยอมเสี่ยงนำเรือออกทะเลจนสามารถหาปลามาได้ครบตามจำนวนที่รับปากเอาไว้
ครั้นเมื่อพรานทะเลเอาปลาขึ้นฝั่งแล้วนำไปส่งให้ไช่หยวน ไช่หยวนซึ่งรู้ดีว่าวันฝนตกหนักเป็นวันที่ขายปลาได้ยากก็รีบปฏิเสธไม่รับปลาที่สั่งเอาไว้โดยอ้างว่า “ฉันปิดร้านทุกครั้งที่ฝนตก พรุ่งนี้ท่านค่อยนำของมาส่งให้ฉันอีกทีก็แล้วกัน”
ในสมัยนั้น การเก็บปลาค้างคืนให้สดเหมือนเพิ่งจับมาใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ คำพูดของไช่หยวนจึงเท่ากับเป็นการไม่รักษาสัญญานั่นเอง เมื่อไช่หยวนไม่รับซื้อปลาของพรานทะเล พรานเฒ่าจึงจำต้องทิ้งปลาเหล่านั้น แล้วเอาปลาที่เหลือไปส่งให้แก่หลี่ตง
จริง ๆ แล้ว พรานทะเลไม่ได้คาดหวังว่าหลี่ตงจะรับซื้อปลาจากเขา แต่เมื่อหลี่ตงเห็นพรานทะเลนำปลาฝ่าพายุมาส่งให้ แม้หลี่ตงจะรู้ดีว่าเขาคงไม่สามารถขายปลาได้ แต่เขาก็ยินดีรับซื้อปลาที่สั่งเอาไว้ทั้งหมด โดยเขาเลือกที่จะขาดทุนมากกว่าจะยอมเสียคำพูด
พรานทะเลรู้สึกชื่นชมพ่อค้าหนุ่มยิ่งนัก เพราะการรักษาคำสัญญาเป็นสิ่งที่ทำให้คนมีค่าเหนือคนอื่น
หลายวันต่อมา ไช่หยวนและหลี่ตงทราบข่าวจากทหารในวังว่า พระราชาทรงปรารถนาจะเสวยปลาเรืองแสง, หอยร้อยปีและสาหร่ายสายรุ้งในวันคล้ายวันเกิดของพระองค์ ซึ่งหากผู้ใดสามารถนำของทะเลหายากทั้งสามชนิดไปถวายได้ พระราชาก็จะทรงมอบรางวัลให้อย่างงาม
เมื่อไช่หยวนและหลี่ตงทราบข่าวดังกล่าว พ่อค้าทั้งคู่จึงรีบติดต่อชาวประมงและพรานทะเลให้ออกไปหาของเหล่านั้นมาส่งให้เป็นการด่วน
แต่อนิจจา! หลังจากที่พวกเขาตกลงกันได้ไม่นานนัก พายุอีกลูกก็หอบเอาลมและฝนเข้ากระหน่ำเมืองจนชาวประมงไม่กล้านำเรือออกทะเลเลยแม้แต่ลำเดียว
อย่างไรก็ตาม เมื่อพรานทะเลรับปากแล้ว เขาก็ไม่เคยคิดผิดคำพูด ด้วยเหตุนี้ พรานทะเลจึงนำเรือออกทะเลที่แสนบ้าคลั่ง แล้วพยายามเสาะหาของทะเลทั้งสามชนิดอย่างสุดความสามารถ
วันรุ่งขึ้น ในขณะที่ฝนยังคงตกลงมาไม่ขาดสาย ไช่หยวนพ่อค้าผู้ไม่รักษาคำพูดกลับลงทุนยืนรอพรานทะเลอยู่ที่ชายหาดตั้งแต่เช้าตรู่ แม้ไช่หยวนจะต้องเปียกปอนเพราะพายุฝน แต่เขาก็ยินดีหากมันจะทำให้เขาเป็นคนแรกที่ได้ของหายากไปถวายให้แก่พระราชา
หลังจากที่ไช่หยวนรอเรือของพรานทะเลอยู่พักใหญ่ ในที่สุด พรานทะเลก็นำเรือเข้าทอดสมอใกล้ ๆ กับชายหาด จากนั้น พรานเฒ่าก็หอบเอาปลาเรืองแสง, หอยร้อยปีและสาหร่ายสายรุ้งลุยน้ำเข้าสู่ฝั่ง
ไช่หยวนดีใจมากเมื่อเห็นว่าพรานทะเลหาของที่พระราชาต้องการได้สำเร็จ เขาตั้งท่าจะจ่ายเงินให้แก่พรานทะเลอย่างไม่รอช้า แต่พรานเฒ่ากลับปฏิเสธพร้อมกับกล่าวว่า“ฉันรู้ว่าท่านปิดร้านทุกครั้งที่ฝนตก ไว้ฝนไม่ตกฉันค่อยนำของไปส่งให้ท่านอีกทีก็แล้วกัน”
หลังจากนั้น พรานทะเลก็นำของทั้งหมดไปมอบให้แก่หลี่ตงตามที่ได้สัญญาเอาไว้
หลี่ตงขอบคุณพรานทะเลครั้งแล้วครั้งเล่า และเมื่อเขาส่งของทั้งหมดเข้าสู่วังหลวง พระราชาก็ทรงมอบทองคำร้อยชั่งพร้อมกับมอบตำแหน่งพ่อค้าอาหารทะเลประจำราชสำนักให้แก่หลี่ตงเป็นรางวัล
รางวัลที่หลี่ตงได้รับเป็นรางวัลที่สูงค่าสมกับความซื่อตรงของเขาเป็นอย่างยิ่ง พรานทะเลดีใจมากที่เขาช่วยให้พ่อค้าผู้มีสัจจะได้รับรางวัลอันยิ่งใหญ่จากพระราชา ในขณะเดียวกัน พ่อค้าผู้ไม่รักษาคำพูดและเห็นแก่ตัวอย่างไช่หยวนก็ได้รับบทเรียนครั้งสำคัญที่เขาคงไม่อาจลืมได้ตลอดชั่วชีวิต
#นิทานนำบุญ
