นิทานก่อนนอนเรื่อง “เรื่องเล่าจากเกาะทะลุ” เป็นนิทานแนวนิทานสระอีกเรื่อง ซึ่งหากอ่านอย่างผิวเผิน นิทานเรื่องนี้อาจเป็นเพียงนิทานตลก ๆ ก่อนนอนเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าพิจารณาเนื้อหาในนิทาน นิทานเรื่องนี้มีข้อคิดบางอย่างที่น่ารักและอาจสร้างแรงบันดาลใจบางอย่างให้แก่เด็ก ๆ ได้ หวังว่านิทานก่อนนอนเรื่อง “เวทมนตร์ปริศนา” จะเป็นนิทานอีกเรื่องที่เด็ก ๆ ชื่นชอบนะครับ
นิทานเรื่อง เวทมนตร์ปริศนา
กาลครั้งหนึ่งนานมา มีเด็กน้อยชื่อว่า “พุทรา”
เกิดที่จังหวัดยะลา หน้าเหมือนแมวแถมไว้ผมม้า
ทุกวัน เด็กหญิงพุทรา จะฝึกร้องเพลงจ๊ะทิงจา
พร้อมวาดลวดลายลีลา เต้นโยกย้ายบิดซ้ายส่ายขวา
พุทราอยากเป็นดารา ที่เฉิดฉายไฉไลงามตา
เหมือนแหม่มคัทลียา หรือนักร้องอย่างจินตหรา
แต่เมื่อพิจารณา หากเธอเข้าวงการมายา
พี่กบ พี่อั้ม ทาทา คงตกงานกันโดยถ้วนหน้า!
ดังนั้น เด็กหญิงพุทรา จึงรู้สึกนึกเวทนา
“เด็กสาวที่แสนโสภา เหมาะจะเป็นนางฟ้ามากกว่า”
นางฟ้าต้องมีมนตรา เอาไว้ช่วยปวงชนประชา
พุทราจึงค้นตำรา เพื่อศึกษาคาถานางฟ้า
แต่หลังจากที่พุทรา เสียเวลาไปหาตำรา
เธอกลับต้องจนปัญญา เพราะไม่เจอเรื่องที่ค้นหา
ตกเย็นเด็กหญิงพุทรา ทำหน้าเศร้าไม่พูดไม่จา
คุณแม่แอบเห็นน้ำตา จึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
คุณแม่บอกกับพุทรา ว่าท่านรู้วิชามนตรา
สืบทอดต่อ ๆ กันมา จากสมัยคุณยายคุณย่า
พุทรายินดีปรีดา เมื่อรู้ว่าแม่มีวิชา
เธอรีบอ้อนวอนมารดา “สอนหนูหน่อยนะคะแม่ขา”
แม่จึงบอกกับพุทรา ให้ตื่นตอนหกนาฬิกา
แล้วรีบล้างหน้าล้างตา เพื่อมาเรียนวิชานางฟ้า
รุ่งเช้าหกนาฬิกา แม่ปลุกลูกให้ลุกขึ้นมา
แล้วสอนหุงข้าวหุงปลา จนพุทราชักเริ่มกังขา
นี่หรือวิชามนตรา เธอสงสัยจึงถามมารดา
ให้หนูทำแกงไตปลา ผัดสะตอ…ไม่เห็นเข้าท่า
คุณแม่อยากแกล้งพุทรา จึงทำเป็นลอยหน้าลอยตา
ไขสือไม่ยอมพูดจา เก็บเรื่องไว้เป็นปริศนา
พุทรารู้สึกค้างคา แต่เพราะเธอเชื่อใจมารดา
เด็กน้อยหมั่นฝึกวิชา จนฝีมือชักเริ่มแก่กล้า
จวบจนหลายปีต่อมา มีเจ้าชายจากฮอลันดา
เดินทางมาที่ยะลา แต่อยากกินส้มตำปลาร้า
ชาวเมืองจึงขอพึ่งพา ให้พุทราสำแดงลีลา
สาวน้อยรับคำบัญชา ด้วยการทำตำปาปาย่า
เมื่อกลิ่นส้มตำโชยมา เจ้าชายถึงกับตองมนตรา
อาหารฝีมือพุทรา อร่อยล้ำดังร่ายคาถา
ครั้นแล้วสาวชาวยะลา ก็เข้าใจความลับนานา
เธอกราบขอบคุณมารดา ผู้ถ่ายทอดเวทมนตร์นางฟ้า
สุดท้ายสาวน้อยพุทรา กับเจ้าชายชาวฮอลันดา
ก็ร่วมจัดงานวิวาห์ แสนวิจิตรวิลิศมาหรา
จบแล้วนิทานสระอา ชอบไม่ชอบอย่าได้เฉยชา
หากใครถูกใจขึ้นมา ช่วยกันร้องว่า “โอ้หลั่นล้า”
#นิทานนำบุญ
