“หนูกับช้าง” เป็นนิทานที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) แต่งลงในนิตยสารขวัญเรือน โดยหวังว่าเด็กเล็ก ๆ น่าจะชอบเรื่องราว “เหนือจริง” ทำนองนี้ ซึ่งตอนที่ผมแต่งนิทาน ผมคิดภาพตามไปด้วย ผมคิดว่าในแง่ของภาพคงเป็นภาพที่แปลกประหลาดและชวนให้เด็ก ๆ ยิ้มได้ไม่ยากแน่ ๆ (แต่ไม่รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะหาว่าคนแต่งเพี้ยนหรือเปล่านะครับ) นิทานเรื่องนี้เหมาะที่จะใช้เล่าก่อนถึงเวลากินข้าว (ผมเรียกว่า นิทานกินข้าว คล้าย ๆ กับนิทานอาบน้ำที่ควรเล่าก่อนอาบน้ำ หรือนิทานก่อนนอนที่ควรเล่าก่อนส่งเด็กเข้านอน) ผมคิดว่าความน่ารักของนิทานเรื่องนี้ น่าจะส่งให้เด็ก ๆ ยอมไปกินข้าว (ด้วยชามขนาดที่เขาเลือกเอง) ได้ไม่ยาก หวังว่าจะชอบนิทานเรื่องนี้กันนะครับ
นิทานเรื่อง หนูกับช้าง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีช้างกับหนูคู่หนึ่งเป็นเพื่อนกัน
ช้างชอบกินข้าวชามใหญ่ ช้างจึงตัวใหญ่กว่าหนู
ส่วนหนูชอบกินข้าวชามเล็ก ๆ หนูจึงตัวเล็กกว่าช้าง
แม้ทั้งคู่จะตัวเล็กใหญ่ไม่เท่ากัน แต่ทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนที่รักกันมาก
อยู่มาวันหนึ่ง หนูกับช้างพากันไปเที่ยวที่สนามเด็กเล่น
หนูอยากเล่นไม้กระดก ช้างเองก็อยากเล่นไม้กระดก ทั้งคู่จึงไปเล่นไม้กระดกด้วยกัน
แต่เพราะช้างชอบกินข้าวชามใหญ ๆ่ ช้างจึงตัวใหญ่กว่าหนู
ส่วนหนูชอบกินข้าวชามเล็ก ๆ หนูจึงตัวเล็กกว่าช้าง
เมื่อทั้งคู่เล่นไม้กระดกด้วยกัน ไม้กระดกจึงไม่ยอมกระดก
เพราะน้ำหนักของพวกมันแตกต่างกันมากเกินไป
หนูกับช้างจึงช่วยกันคิดหาวิธีใหม่ เพื่อให้ทั้งคู่สามารถเล่นไม้กระดกด้วยกันได้
หนูเองคิดว่าช้างตัวใหญ่เกินไป ส่วนช้างเองก็คิดว่าหนูตัวเล็กเกินไป
ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงตกลงใจแลกชามข้าวกันกิน
เมื่อหนูเปลี่ยนมากินข้าวชามใหญ่ หนูจึงค่อยๆ ตัวใหญ่ขึ้นกว่าช้าง
และเมื่อช้างเปลี่ยนมากินข้าวชามเล็ก ช้างจึงค่อย ๆ ตัวเล็กลงกว่าหนู
เมื่อทั้งคู่ไปเล่นไม้กระดกด้วยกันอีกครั้ง ไม้กระดกจึงไม่ยอมกระดก
เพราะน้ำหนักของทั้งคู่ยังคงแตกต่างกันมากเกินไปอยู่ดี
หนูกับช้างจึงช่วยกันคิดหาวิธีใหม่ เพื่อให้ทั้งคู่สามารถเล่นไม้กระดกด้วยกันได้
หนูเองคิดว่าช้างคงตัวเล็กลงมากจนเกินไป
ส่วนช้างเองก็คิดว่าหนูคงตัวใหญ่ขึ้นมากจนเกินไป
ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงตกลงกินข้าวด้วยชามใบใหม่ที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ไปกว่ากัน
เมื่อช้างกินข้าวด้วยชามใบใหม่ ช้างจึงตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ไปกว่าหนู
และเมื่อหนูกินข้าวด้วยชามใบใหม่ หนูจึงตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ไปกว่าช้าง
และเมื่อทั้งคู่ไปเล่นไม้กระดกด้วยกันอีกครั้ง ไม้กระดกจึงยอมกระดกไปมา
เพราะตอนนี้ ทั้งหนูและช้างต่างตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ไปกว่ากัน
ลูกหนูกับลูกช้างเล่นไม้กระดกจนตกเย็น
ลูกหนูเริ่มคิดถึงแม่หนู ส่วนลูกช้างก็เริ่มคิดถึงแม่ช้าง
“แม่หนูคงไม่อยากเห็นลูกหนูที่ตัวโตเท่าลูกช้างแน่ๆ ” ลูกหนูคิด
“แม่ช้างคงไม่อยากเห็นลูกช้างที่ตัวเล็กเท่าลูกหนูแน่ๆ ” ลูกช้างคิด
ด้วยเหตุนี้ หนูกับช้างจึงหยิบชามข้าวของตัวเอง แล้วเริ่มกินข้าวกันอีกครั้ง
เมื่อช้างกลับมากินข้าวด้วยชามใบใหญ่ ช้างจึงค่อย ๆ ตัวใหญ่ขึ้นกว่าหนู
เมื่อหนูกลับมากินข้าวด้วยชามใบเล็ก หนูจึงค่อยๆ ตัวเล็กลงกว่าช้าง
และเมื่อทั้งคู่กลับมามีขนาดตัวเท่าเดิม เพื่อนรักทั้งสองก็พากันกลับบ้าน
และถึงบ้าน…ทันเวลาอาหารเย็นพอดี
#นิทานนำบุญ
…………………….
