นิทานก่อนนอนเรื่อง “หมาจิ้งจอกกับเพื่อน ๆ ที่แสนน่ารัก” เป็นนิทานที่ค่อนข้างท้าทายและผิดวิสัยของการแต่งนิทานเด็กโดยทั่วไป กล่าวคือ นิทานเรื่องนี้มีการนำ “หมาจิ้งจอก” มาเป็นตัวเอก ซึ่งปกติ หมาจิ้งจอกมักผูกขาดบทตัวร้ายในนิทานอยู่เสมอ นอกจากนี้ นิทานเรื่อง “หมาจิ้งจอกกับเพื่อน ๆ ที่แสนน่ารัก” ยังพูดถึงเรื่อง “ความตาย” ซึ่งปกติ นิทานเด็กมักหลีกเลี่ยงการนำเสนอในเรื่องนี้
สาเหตุที่ผมเลือกแต่งนิทานเกี่ยวกับความตายเป็นเพราะว่า ตอนที่ผมเป็นเด็กเล็ก ๆ มีอยู่คืนหนึ่ง จู่ ๆ ผมก็คิดถึงความตายขึ้นมา มันเป็นความคิดที่มาจากไหนก็ไม่รู้ ซึ่งเมื่อคิดปุ๊บ ผมก็กลัวปั๊บ กลัวทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักและเป็นความกลัวที่ทำให้ใจมันโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก ตอนที่ผมแต่งนิทาน ผมคิดว่าถ้าเรานำเรื่องนี้มาเล่าในนิทาน โดยนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับความตายไว้นิด ๆ แต่ใส่เรื่องความอบอุ่นจากมิตรภาพระหว่างเพื่อน และความรู้สึกในเชิงบวกเข้ามากลบความน่ากลัว เผื่อว่าวันหนึ่ง จู่ ๆ เด็กคิดถึงคำ ๆ นี้ขึ้นมา เด็กจะได้ไม่เคว้งคว้างหรือตกใจอย่างที่ผมเคยรู้สึก
ถ้าคุณพ่อคุณแม่หรือคุณผู้อ่านท่านอื่น ๆ อ่านแล้วเห็นว่า ยังไม่เหมาะที่จะเล่าให้ลูกฟัง บางที อาจข้ามนิทานเรื่องนี้ไปก่อนก็ได้นะครับ หรือถ้าอยากอ่านให้ลูกฟัง เมื่ออ่านจบแล้ว ก็อาจถือโอกาสพูดคุยเรื่องธรรมชาติของชีวิต ที่มีการพบและการพรากจาก มีสิ่งที่ชวนให้ใจหวั่นไหว และสิ่งที่ทำให้หัวใจอบอุ่น จากนั้น ก็กอดลูกด้วยความรัก เพิ่มความมั่นคงในใจให้ลูกรู้ว่า ไม่ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร แต่ ณ เวลานี้และตลอดไป ความรักของพ่อแม่จะอบอุ่นอยู่ในใจของลูกแบบนี้โดยไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ขอให้มีความสุขในการอ่านนิทานนะครับ
นิทานเรื่อง หมาจิ้งจอกกับเพื่อน ๆ ที่แสนน่ารัก
ผมชื่อตุ้มเป๊ะ เป็นหมาจิ้งจอกตัวน้อยที่น่าสงสาร ผมป่วยมาก นอนซมอยู่บนเตียงทั้งวัน ผมไอค้อกแค้ก หมดเรี่ยวหมดแรง ขนาดหายใจก็ยังเหนื่อย ผมคงอยู่ได้อีกไม่นาน ผมคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย!
เมื่อคิดถึงความตาย ผมกลัวมาก กลัวจนใจหวิว พอหลับตา ภาพปิศาจก็โผล่มาหลอกหลอนจนผมต้องรีบลืมตาตื่น ผมรู้สึกเศร้าและหดหู่ ทำไมผมต้องตายด้วยนะ ผมยังเด็กอยู่เลย ชีวิตของผมมีแต่เรื่องร้าย ๆ ทั้งนั้น
ผมคงเป็นหมาจิ้งจอกที่โชคร้ายที่สุดในโลก ผมไม่แข็งแรง เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง หน้าตาก็งั้น ๆ แถมยังเดินตกท้องร่องอยู่บ่อย ๆ ชีวิตผมเจอแต่เรื่องร้าย ๆ โลกช่างไม่ยุติธรรมกับผมเอาเสียเลย
แต่เมื่อใจของผมสงบลง ความรู้สึกบางอย่างก็สว่างวาบขึ้นมาจนผมหวั่นไหว จริง ๆ แล้ว โลกก็ไม่ได้โหดร้ายกับผมไปเสียทั้งหมดหรอก ชีวิตของผมมีความสุขอย่างล้นเหลือ ผมมีเพื่อนดี ๆ มากมาย เพื่อนที่ทำให้หัวใจของผมชุ่มชื่น เพื่อนที่ทำให้ผมอบอุ่นเมื่อนึกถึง เพื่อนที่คอยปลอบใจยามที่ผมทดท้อถดถอย ผมรักเพื่อน ๆ มากที่สุด เพื่อนคือสิ่งดี ๆ ที่ทำให้ชีวิตของผมมีค่าทุกนาที ผมรู้สึกสบายใจและไม่กลัวความตายอีกแล้ว
ในขณะนั้นเอง มีเสียงเคาะประตู “ก๊อก ๆ ๆ” ดังขึ้นเบา ๆ “ใครมาหาผมกันนะ” ผมคิด “หรือว่าจะเป็นพญามัจจุราช ?” ผมคิดต่อ และก่อนที่ผมจะคิดไปไกล ประตูก็ค่อย ๆ เปิดออก
กระต่ายน้อยเพื่อนของผมต้มซุปผักมาเยี่ยมไข้ ลิงจ๋อเก็บผลไม้สด ๆ มาฝากให้ผมเต็มตะกร้า เจ้าหมีดั้นด้นไปขอน้ำผึ้งแสนอร่อยจากผึ้งน้อย แล้วนำมาปรุงกับสมุนไพรให้ผมใช้เป็นยารักษาสุขภาพ เพื่อนทุกคนต่างทยอยกันมาเยี่ยมผมจนผมรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก
เพียงไม่กี่คืนหลังจากนั้น ผมก็กลับมาแข็งแรงและสดชื่นได้อีกครั้งราวกับมีปาฏิหาริย์ ผมหายป่วยแล้ว แถมยังกระปรี้กระเปร่ามากกว่าเดิมเสียอีก
เพื่อน ๆ ดีใจกันใหญ่ที่ผมหายป่วย ขอบคุณโลกที่มอบโชคอันแสนวิเศษนี้ให้แก่ผม เชื่อเถอะนะว่า….ผมจะรักเพื่อน ๆ และถนอมมิตรภาพของผมกับเพื่อน ๆ เอาไว้เช่นนี้ตลอดไป
และแล้ว…หมาจิ้งจอกตัวน้อยอย่างผม ก็ได้กลับมาเล่นสนุกซุกซนกับเพื่อน ๆ ที่น่ารักที่สุดในโลกอีกครั้ง
#นิทานนำบุญ
……………
