นิทานเรื่อง เงือกน้อยกับครอบครัวชาวทะเล
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเงือกน้อยสองพี่น้องพลัดหลงจากฝูงเข้าไปยังท้องทะเลที่มันไม่รู้จัก ในเวลานั้น พระอาทิตย์ใกล้จะตกแล้ว พวกมันกลัวมาก เงือกน้อยทั้งสองจึงรีบว่ายน้ำเพื่อหาที่พักแรมชั่วคราว…ก่อนที่ความมืดจะปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่ง
เมื่อเงือกน้อยทั้งสองว่ายน้ำไปพบเกาะแห่งหนึ่ง พวกมันจึงรีบไปหลบที่ถ้ำริมเกาะ แต่เมื่อชาวเกาะเห็นเงือกน้อย ชาวเกาะก็ออกมาขับไล่ เพราะพวกเขาไม่มีน้ำใจที่จะช่วยเหลือ
เงือกน้อยสองพี่น้องจึงจำใจต้องว่ายน้ำออกจากเกาะแห่งแรก จนมาพบเกาะอีกเกาะหนึ่งซึ่งอยู่ห่างไกลกันมาก เงือกน้อยทั้งเหนื่อยและกลัว พวกมันจึงรีบเข้าไปหลบตรงโขดหินริมหาด แต่อนิจจา…เมื่อชาวเกาะมาเห็น ชาวเกาะผู้มีจิตใจคับแคบก็ออกมาขับไล่พวกมันอีก เงือกน้อยจึงต้องออกเดินทางเพื่อหาที่พักกันต่อ
เงือกน้อยว่ายน้ำหาที่พักกันอยู่นานมาก แต่บริเวณนั้นแทบไม่มีเกาะแก่งให้พักแรมได้เลย เงือกน้อยทั้งหิวและเหนื่อยจนแทบหมดแรง ทันใดนั้นเอง เงือกน้อยก็เห็นเรือเล็กลำหนึ่งค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาหาพวกมันอย่างช้า ๆ
เรือลำนั้นเป็นเรือของครอบครัวชาวทะเลที่เดินทางหาเกาะสักแห่งเป็นที่พักอาศัย เมื่อคุณตาคุณยายในเรือเห็นเงือกน้อยว่ายน้ำอยู่ไกล ๆ คุณตาคุณยายจึงให้ลูกชายและลูกสะใภ้พายเรือเข้าไปหาเงือกน้อย เผื่อว่าพวกมันจะต้องการความช่วยเหลือ
ครั้นเมื่อคุณตาคุณยายทราบว่าเงือกน้อยพลัดหลงจากฝูงและเหนื่อยมาก ท่านทั้งสองจึงเชิญเงือกน้อยขึ้นมาบนเรือแล้วแบ่งปันอาหารให้ เงือกน้อยดีใจที่ได้รับความเมตตา คืนนั้น…เงือกน้อยจึงนอนเอาแรงบนเรือร่วมกับลูกหลานของคุณตาคุณยายอย่างมีความสุข
วันต่อมา เมื่อเงือกน้อยตื่นขึ้น พวกมันก็ใช้สัญชาตญาณของความเป็นเงือก อ่านทิศทางจากสายลมและกระแสน้ำ จากนั้น พวกมันนำทางให้ครอบครัวชาวทะเลพายเรือไปเรื่อย ๆ จนพบเกาะร้างที่สวยงามซึ่งไม่เคยมีใครเหยียบย่างมาก่อน
เกาะแห่งนั้นเป็นเกาะที่มีทั้งน้ำจืด, ผลไม้และเพชรนิลจินดามากมาย แม้ครอบครัวชาวทะเลจะไม่ได้สนใจเพชรนิลจินดาเลย แต่พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณเงือกน้อยที่พามายังเกาะซึ่งงดงามและอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ เมื่อสมาชิกของครอบครัวชาวทะเลช่วยกันสร้างกระท่อม พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะสร้างที่พักให้เงือกน้อยใช้พักพิงด้วย
ยามค่ำคืน แทนที่ครอบครัวชาวทะเลจะปล่อยให้เงือกน้อยกินอาหารเย็นตามลำพัง พวกเขาก็พากันนำสำรับกับข้าวมานั่งกินที่ริมหาดเพื่อไม่ให้เงือกน้อยรู้สึกเหงา นอกจากนี้ เมื่อทุกคนกินข้าวจนอิ่มแล้ว คุณตาคุณยายก็ชวนลูกหลานให้ช่วยกันร้องรำทำเพลงตามประสาชาวทะเลจนดึกดื่น เงือกน้อยทั้งสองจึงลืมความกังวลต่าง ๆ ไปจนหมดสิ้น พวกมันพากันร้องเพลงเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นและเผลอกล่าวถึงเพชรนิลจินดาที่มีอยู่บนเกาะด้วย เงือกน้อยส่งเสียงเพลงลอยลมไปโดยไม่รู้เลยว่า การร้องเพลงของพวกมันจะทำให้เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นในตอนเช้า!
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ผู้คนที่แล้งน้ำใจจากเกาะแห่งแรกและเกาะแห่งที่สองพากันพายเรือเข้ามาที่เกาะของครอบครัวชาวทะเลพร้อมกับอาวุธครบมือ โดยพวกเขาหมายจะเข้ามาแย่งชิงสมบัติตามเนื้อเพลงที่เงือกน้อยเผลอร้องออกไปเมื่อคืนวานนี้ เงือกน้อยตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ส่วนครอบครัวชาวทะเลก็หวาดกลัวจนตัวสั่น แต่ก่อนที่คนเหล่านั้นจะเข้ามาถึงเกาะ สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นอีก!
ในขณะที่ผู้บุกรุกพายเรือเข้ามาจนเกือบถึงชายหาด ครอบครัวชาวทะเลและเงือกน้อยก็มองเห็นฝูงเงือกนับร้อยตน รวมทั้งพรายน้ำ, มังกรสมุทรและเทพแห่งท้องทะเลพากันเดินทางตามเสียงร้องเพลงของเงือกน้อยตรงมายังเกาะอันห่างไกลแห่งนี้ เมื่อผู้คนที่ละโมบเห็นภูตพรายแห่งท้องทะเลมุ่งหน้ามายังเกาะ พวกเขาก็ตกใจแล้วรีบพายเรือหนีออกทะเลไปอย่างไม่คิดชีวิต
เงือกน้อยสองพี่น้องดีใจมากที่ได้พบกับครอบครัวและเพื่อน ๆ ชาวทะเลอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน เงือกน้อยก็เสียใจที่พวกมันต้องจากครอบครัวชาวทะเลไปและอาจไม่มีโอกาสได้พบกันอีก
ในขณะที่เงือกน้อยกำลังกังวลใจอยู่นั้น คุณตาคุณยายก็สังเกตเห็นแววตาของเงือกน้อยที่เต็มไปด้วยความทุกข์ คุณตากับคุณยายจึงเอ่ยปากเชิญให้ภูตพรายชาวทะเลทั้งหลายมาพำนักพักอาศัยอยู่ด้วยกันโดยไม่ต้องเดินทางเร่ร่อนไปที่ไหนอีก
เมื่อฝูงเงือก, พรายน้ำ, มังกรสมุทรและเทพแห่งท้องทะเลได้ฟังคำเชื้อเชิญ พวกมันก็สัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรของคุณตาคุณยายที่มีให้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยเหตุนี้ ทั้งหมดจึงตัดสินใจตั้งรกรากอยู่ในทะเลรอบเกาะ แล้วช่วยกันดูแลผืนน้ำบ้านใหม่ให้อุดมสมบูรณ์และสวยงามอย่างยากที่เกาะแห่งใดจะเสมอเหมือน
ครอบครัวชาวทะเลมีความสุขมากที่มีเหล่าพี่น้องชาวทะเลมาอยู่เป็นเพื่อน ส่วนฝูงเงือก, พรายน้ำ, มังกรสมุทรและเทพแห่งท้องทะเล รวมทั้งเงือกน้อยสองพี่น้องก็มีความสุขเช่นกันที่ได้อยู่กับครอบครัวชาวทะเลผู้มีจิตใจงดงามเช่นนี้
#นิทานนำบุญ
………………………
