นิทานเรื่อง ผลนวลทิพย์
นานมาแล้ว มีหญิงสาวสองคนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน หญิงสาวคนแรกมีชื่อว่า ‘อาเจียง’ เธอเป็นคนขยันขันแข็งและมีจิตใจดีงาม ส่วนหญิงสาวอีกคนมีชื่อว่า ‘อาไฝ่’ เธอเป็นคนฉลาดแกมโกง แถมยังชอบเอาเปรียบผู้อื่นอยู่เสมอ อาเจียงกับอาไฝ่คบหากันมานาน แม้อาเจียงจะถูกอาไฝ่เอาเปรียบอยู่บ่อย ๆ แต่เธอก็ไม่ถือสา เพราะเธอคิดว่าสักวันอาไฝ่คงปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นได้
วันหนึ่ง อาเจียงกับอาไฝ่พากันเข้าป่าไปหาหน่อไม้ ระหว่างทาง…สองสาวได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากดงไม้หนาม เมื่ออาเจียงกับอาไฝ่เดินเข้าไปดู ทั้งคู่ก็พบเทพธิดาจิ๋วองค์น้อยถูกหนามเกี่ยวเสื้อผ้าทำให้ขยับตัวไปไหนไม่ได้
เมื่ออาเจียงเห็นเช่นนั้น เธอจึงตรงเข้าไปหาเทพธิดาแล้วใช้มือเล็ก ๆ เขี่ยคมหนามออกจากเสื้อผ้าด้วยความระมัดระวัง ครั้นเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก อาเจียงก็ช่วยเทพธิดาได้สำเร็จ
เมื่อเทพธิดาเป็นอิสระ เทพธิดาจึงมองหญิงสาวผู้มีพระคุณพลางคิดอยากตอบแทนบุญคุณของหญิงสาวที่มีผิวคล้ำแดดด้วยการมอบ ’ผลนวลทิพย์’ ซึ่งเป็นผลไม้วิเศษ ที่ช่วยให้ผู้ที่ได้ลองลิ้มชิมรสมีผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งราวกับนางฟ้านางสวรรค์
ครั้นเมื่อเทพธิดามอบผลนวลทิพย์ให้อาเจียงและบินจากไปแล้ว อาไฝ่กลับอ้างสิทธิ์ว่าตนควรได้รับส่วนแบ่งด้วย โดยอาไฝ่ขอส่วนเนื้อผลไม้ให้ตนเอง แล้วแกล้งทำใจดีมอบเปลือกกับเมล็ดให้อาเจียงเป็นรางวัลในการช่วยเทพธิดา
“ชั้นให้เธอได้เปรียบนะ ฉันเอาแค่เนื้ออย่างเดียว ส่วนเธอได้ตั้งสองอย่าง” อาไฝ่อ้าง
แม้อาเจียงจะรู้ทันความคิดของอาไฝ่ แต่เธอก็ไม่ว่าอะไร เพราะเธอตั้งใจช่วยเทพธิดาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนมาตั้งแต่ต้น
เมื่ออาไฝ่ได้เนื้อของผลนวลทิพย์ เธอก็นำเนื้อของผลไม้วิเศษห่อใส่ใบตอง แล้วแบ่งกินทีละนิดทีละหน่อย ฝ่ายอาเจียงนั้น เมื่อเธอได้เปลือกกับเมล็ดซึ่งกินไม่ได้ เธอจึงนำเมล็ดไปปลูกและนำเปลือกไปหมักเป็นปุ๋ย จากนั้น เธอก็ไปหาอาไฝ่เพื่อขอชิมผลนวลทิพย์สักคำด้วยความอยากรู้รสชาติ
อนิจจา! อาไฝ่เป็นคนที่แล้งน้ำใจมาก แม้เธอจะมีผลนวลทิพย์เหลืออยู่อีกเกือบเต็มห่อ แต่เธอกลับไม่ยอมแบ่งผลนวลทิพย์ให้อาเจียงชิมเลย!
ในเวลาต่อมา เมื่ออาไฝ่กินผลนวลทิพย์มากขึ้น ๆ เธอก็สวยขึ้น ๆ จนผู้คนพากันเล่าขานและมีชายหนุ่มมากมายเดินทางมาชื่นชมความงามของเธอ
ฝ่ายอาเจียงนั้น เมื่ออาไฝ่ไม่ให้เธอชิมผลไม้วิเศษ เธอจึงทำได้เพียงดูแลเมล็ดของผลนวลทิพย์ที่เธอนำมาปลูกให้ดีที่สุด โดยหวังว่าสักวันเธอจะได้ชิมรสชาติของมันบ้าง
หลายวันต่อมา ต้นนวลทิพย์ที่อาเจียงปลูกก็โตขึ้นและเริ่มออกผลอย่างรวดเร็วจนอาเจียงแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ครั้นเมื่อหญิงสาวในหมู่บ้านรวมทั้งผู้หญิงคนอื่น ๆ ทราบข่าว ผู้หญิงที่อยากสวยจากทุกถิ่นที่ ก็พากันมายังบ้านของอาเจียงเพื่อรอซื้อผลนวลทิพย์จนเนืองแน่นไปหมด
ในขณะที่บ้านของอาไฝ่มีแต่ผู้ชายมาห้อมล้อม บ้านของอาเจียงกลับเต็มไปด้วยผู้หญิงซึ่งมีจำนวนมากกว่าผู้ชายที่บ้านของอาไฝ่ถึง 10 เท่า
อาไฝ่เก็บผลนวลทิพย์ไว้กินเองได้ไม่กี่วัน ผลไม้วิเศษก็ค่อย ๆ เน่าจนเธอต้องทิ้งมันไปอย่างน่าเสียดาย
ระหว่างนั้น ต้นนวลทิพย์ของอาเจียงก็งอกงามขึ้นและออกผลจนอาเจียงมีโอกาสได้ชิมรสชาติของมันและได้ “แบ่งปัน” ผลไม้วิเศษให้หญิงสาวทุกคนมีโอกาสชิมจนทุกคนสวยขึ้นอีกนิดไปพร้อม ๆ กัน
อาเจียงไม่รู้เลยว่า ในบรรดาผู้หญิงที่มายังบ้านของเธอนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นพี่สาวของเจ้าชายรูปงาม เจ้าชายไม่อยากแต่งงานกับหญิงสาวที่สวยแค่เพียงภายนอก แต่พระองค์อยากได้คู่ครองที่มีจิตใจงดงามมากกว่า เมื่อพี่สาวของเจ้าชายเห็นความขยันขันแข็งของอาเจียงที่ทำงานบ้านแทบทั้งวัน เห็นน้ำใจของเธอที่คอยทำอาหารให้คนที่มารอซื้อผลนวลทิพย์ทั้ง ๆ ที่อาเจียงก็ไม่ได้ร่ำรวยแต่อย่างใด รวมทั้งเมื่ออาเจียงตัดสินใจแบ่งปันผลไม้วิเศษให้ทุก ๆ คนโดยไม่ยอมขายหากำไรเข้ากระเป๋า พี่สาวของเจ้าชายจึงถูกชะตากับหญิงสาวชาวบ้านผู้นี้และตัดสินใจเชิญเธอไปร่วมงานเลี้ยงเพื่อให้เจ้าชายได้ทำความรู้จัก
หลังจากที่อาเจียงและเจ้าชายได้พบกัน ทั้งคู่ก็ตกหลุมรักกันและตัดสินใจแต่งงานกันในที่สุด
หญิงสาวทุกคนต่างยินดีที่สาวชาวบ้านผู้มีจิตใจดีงามได้แต่งงานกับเจ้าชายรูปหล่อ ส่วนอาไฝ่ผู้ชอบเอาเปรียบนั้น เมื่อหญิงสาวคนอื่น ๆ ได้ชิมผลนวลทิพย์จนสวยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ชายหนุ่มทั้งหลายจึงเลิกสนใจอาไฝ่ จนเธอกลายเป็นสาวชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ไม่มีความสำคัญใด ๆ เหมือนดังเดิม
อาไฝ่มองชีวิตอาเจียงเป็นตัวอย่างและเริ่มเล็งเห็นว่า คนดีเท่านั้นที่จะได้สิ่งดีเป็นรางวัลตอบแทน ด้วยเหตุนี้ อาไฝ่จึงตั้งใจปรับปรุงตัวเสียใหม่โดยหวังว่าสักวันเธอจะดีพอและมีโอกาสได้เป็นเพื่อนกับอาเจียงอีกครั้ง.
#นิทานนำบุญ
…………………..
