นิทานก่อนนอนไทยพื้นบ้านเรื่อง “เจ้าชายมะละกอ” เป็นนิทานที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ได้แรงบันดาลใจในฉากเปิดเรื่อง มาจากนิทานพื้นบ้านญี่ปุ่นเรื่อง “โมโมทาโร่…เจ้าหนูลูกท้อ” ส่วนเนื้อเรื่องหลังจากนั้น เป็นการคิดขึ้นมาภายหลัง โดยที่ในขณะที่แต่งนืทานเรื่องนี้ ผมไม่เคยอ่านช่วงกลางเรื่องและช่วงท้ายเรื่องของโมโมทาโร่มาก่อน (เคยเห็นโมโมทาโร่ในหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น แต่ไม่รู้เนื้อเรื่องทั้งหมด) นิทานเรื่อง เจ้าชายมะละกอ จึงเป็นนิทานแปลก ๆ อีกเรื่องหนึ่งที่ผมแต่ง โดยแต่งให้ออกมาในแบบนิทานก่อนนอนไทยพื้นบ้าน ตอนที่แต่งเสร็จใหม่ ๆ ผมไม่แน่ใจว่านิทานเรื่องนี้สนุกมากแค่ไหน แต่พอกลับมาอ่านอีกครั้ง ผมคิดว่านิทานเรื่องนี้เข้าทีดีเหมือนกัน หวังว่าผู้อ่านจะมีความสุขกับนิทานเรื่องนี้นะครับ
นิทานเรื่อง เจ้าชายมะละกอ
นานมาแล้ว มีตากับยายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ ซึ่งตั้งอยู่นอกวัง
วันหนึ่ง ในขณะที่ตากับยายออกไปหาของป่า ทั้งคู่พบมะละกอสุกผลหนึ่งมีขนาดใหญ่ยักษ์ แถมยังส่งกลิ่นหอมชวนกินยิ่งนัก ตากับยายทราบว่าพระราชากับราชินีทรงประชวรเป็นโรคมองไม่ค่อยเห็นในเวลากลางคืน ซึ่งมะละกอเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณบำรุงสายตาได้ ตากับยายจึงตัดสินใจนำมะละกอไปถวายด้วยความจงรักภักดี
เมื่อตากับยายนำมะละกอไปยังท้องพระโรงในวัง พระราชาและพระราชินีต่างก็ทรงตื่นเต้นต่อขนาดของมะละกอที่ได้เห็น ครั้นเมื่อพระราชาผ่ามะละกอออก สิ่งที่อยู่ด้านในของมะละกอก็ทำให้ทุกคนในท้องพระโรงอ้าปากหวอ เพราะในผลมะละกอมีเด็กผู้ชายตัวน้อยนอนหลับตาพริ้มอยู่ พระราชากับพระราชินีซึ่งไม่มีพระโอรสหรือพระธิดาทรงรักเด็กน้อยตั้งแต่แรกเห็น ทั้งสองพระองค์จึงรับเด็กน้อยมาเป็นพระโอรส แล้วแต่งตั้งให้ตากับยายเป็นผู้ดูแลพระโอรสองค์น้อย
ครั้นเมื่อเวลาผ่านไป เด็กน้อยจากผลมะละกอก็ค่อย ๆ เติบโตขึ้นเป็นเจ้าชายน้อยที่แสนน่ารัก พระราชากับพระราชินีทรงมีความสุขมาก ในขณะเดียวกัน ทั้งสองพระองค์ก็ชื่นชมตากับยายที่ดูแลพระโอรสได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
ระหว่างนั้น นางกำนัลที่เคยเป็นคนโปรดของพระราชินีก็เริ่มอิจฉาตากับยายที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากพระราชากับพระราชินีมากขึ้นเรื่อย ๆ นางกำนัลจึงขอให้โหรหลวงช่วยหาวิธีขับไล่ตากับยายไปเสียให้พ้น ๆ
เมื่อได้ฟังคำขอร้องจากนางกำนัล โหรหลวงจึงแกล้งทำทีเป็นตกใจ แล้วทูลให้พระราชาทราบว่า ดวงชะตาของตากับยายเป็นดวงที่จะนำโชคร้ายมาสู่ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดโดยเฉพาะเด็ก ๆ
เมื่อพระราชาได้ฟังคำทำนาย พระองค์จึงจำใจต้องให้ตากับยายออกไปจากวังโดยด่วน
หลังจากที่ตากับยายออกจากวังไปได้ไม่นาน เจ้าชายองค์น้อยก็ทรงค้นพบความสามารถพิเศษบางอย่างที่พระองค์มีอยู่ ความสามารถที่เจ้าชายค้นพบคือพระองค์ทรงมีสายตาดีเกินกว่ามนุษย์ทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าสิ่งของจะเล็กแค่ไหน, ไม่ว่าสิ่งของจะอยู่ไกลเท่าไร พระองค์ก็สามารถมองเห็นได้หมด นอกจากนี้ พระองค์ยังมองเห็นในความมืด, มองทะลุสิ่งต่าง ๆ ได้ ทั้งยังมองทะลุถึงจิตใจคนว่าเป็นคนดีหรือไม่ดีได้อีกด้วย ซึ่งความสามารถเหล่านี้ น่าจะเป็นผลมาจากการเกิดในผลมะละกอและความชอบกินมะละกอ ซึ่งเป็นผลไม้ที่ดีต่อสายตานั่นเอง
เมื่อเจ้าชายองค์น้อยทรงค้นพบความสามารถที่มี พระองค์จึงมองเข้าไปในจิตใจของโหรหลวงและพบว่าโหรหลวงเป็นคนลวงโลก ซ้ำยังกุเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายตากับยายโดยมีนางกำนัลเป็นคนยุยงให้ทำผิด เจ้าชายคิดว่าสักวัน พระองค์จะต้องพิสูจน์ความจริงและช่วยตากับยายให้จงได้
อยู่มาวันหนึ่ง มีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะมียักษ์ตนหนึ่งแบกกระสอบใบใหญ่เดินมุ่งหน้าตรงมาที่พระราชวัง โหรหลวงซึ่งอยู่ในวังตกใจมากเมื่อเห็นยักษ์ โหรหลวงจึงทำนายไปมั่วซั่วว่า ยักษ์ตนนี้เป็นยักษ์ที่ดุร้าย ส่วนกระสอบที่ยักษ์นำติดตัวมาก็เพื่อจะขโมยสมบัติทั้งหมดในเมืองไป ดังนั้น จึงต้องรีบจัดการยักษ์ให้เร็วที่สุด
ครั้นเมื่อพระราชาได้ฟัง พระองค์จึงสั่งให้ทหารยกกองทัพไปปราบยักษ์ แต่อนิจจา…เจ้ายักษ์ตัวโตมาก ทหารจึงทำอะไรยักษ์ไม่ได้เลย เจ้ายักษ์จึงยังคงเดินมุ่งหน้าตรงมาที่ประตูวังอย่างไม่หยุดยั้ง
เมื่อเจ้าชายมะละกอเห็นดังนั้น เจ้าชายจึงมองเข้าไปในหัวใจของยักษ์และพบว่า แท้จริงแล้ว ยักษ์เดินทางมาเพราะตั้งใจนำเอาพืชผักผลไม้บำรุงสายตาที่เก็บได้ มาถวายแด่พระราชากับพระราชินีเพื่อผูกมิตร เมื่อเจ้าชายทราบเจตนาของยักษ์ เจ้าชายองค์น้อยจึงรีบนำเรื่องไปทูลให้พระราชากับพระราชินีได้ทรงทราบ
หลังจากที่โหรหลวงได้ฟังคำพูดซึ่งเจ้าชายทูลต่อพระราชาและพระราชินี โหรหลวงก็รีบลุกขึ้นค้านอย่างโมโหโทโส (เพราะหากคำพูดของเจ้าชายเป็นจริง ก็เท่ากับโหรหลวงทำนายผิดพลาด) พระราชาทรงไม่รู้ว่าเจ้าชายมีตาทิพย์ ทั้งยังเชื่อคำพูดของโหรหลวงอยู่ไม่น้อย แต่เพื่อความแน่ใจ พระองค์จึงขอพิสูจน์โดยเสด็จไปที่ประตูวัง แล้วให้ยักษ์เปิดกระสอบออกมาให้ดู
ทันทีที่ยักษ์ได้ฟังคำของพระราชา เจ้ายักษ์ก็วางกระสอบลงที่พื้นพร้อมกับเปิดปากกระสอบให้พระราชาดูพืชผักผลไม้ที่อยู่ภายใน จากนั้น เจ้ายักษ์ก็ชี้แจงว่าตนเองมาดีและที่มาก็เพราะอยากจะผูกมิตรด้วย
พระราชาทรงขอบใจเจ้ายักษ์และรับผักผลไม้ทั้งหมดเอาไว้ พร้อมกับขอโทษที่เข้าใจยักษ์ผิด
เมื่อเรื่องราวทั้งหมดเป็นจริงตามคำพูดของเจ้าชาย พระราชาจึงประจักษ์ว่าคำทำนายของโหรหลวงเป็นสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้ เจ้าชายองค์น้อยเห็นเป็นโอกาสดีจึงทูลความจริงเรื่องที่ตากับยายถูกโหรหลวงและนางกำนัลใส่ร้าย เมื่อพระราชาได้ทราบเรื่อง พระองค์จึงขับไล่โหรหลวงกับนางกำนัลออกจากตำแหน่ง แล้วรับสองตายายกลับมาทำงานในวังดังเดิม
ในที่สุด ตากับยายผู้แสนดีก็ได้มาดูแลเจ้าชายอีกครั้ง และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา เจ้าชายก็ใช้ความสามารถพิเศษในการมองเห็นช่วยพระราชากับพระราชินีดูแลบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข โดยไม่ปล่อยให้พระราชาต้องพึ่งพาคำทำนายจอมปลอมของโหรหลวงคนใดอีกเลย
#นิทานนำบุญ
…………….
