นอกจากผู้อ่านที่เป็นเด็กแล้ว เว็บไซต์นิทานนำบุญยังมีผู้อ่านที่น่ารักอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งชอบนิทานก่อนนอนเกี่ยวกับความรักมากเป็นพิเศษ คุณผู้อ่านกลุ่มนี้มักเลือกอ่านนิทานให้แฟนหรือคนรักฟังก่อนนอนเกือบทุกคืน วันนี้ ผมจึงนำนิทานความรักก่อนนอนมาฝาก ซึ่งนิทานเรื่องนี้อ่านได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หวังว่าจะถูกใจทุก ๆ คนนะครับ
นิทานเรื่อง ดอกรักชั่วนิรันดร์
นานมาแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่งอยากมอบของขวัญแสนพิเศษให้หญิงสาวที่เขาแอบหลงรัก ชายหนุ่มเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับดอกไม้หายากที่ชื่อว่า “ดอกรักชั่วนิรันดร์” ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ทั้งสวยทั้งหอม แถมมีขนาดใหญ่กว่าศีรษะคนถึง 2 เท่า ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินทางเข้าป่าเพื่อค้นหาดอกรักชั่วนิรันดร์มาเป็นของขวัญแด่หญิงสาวที่เขารัก
ชายหนุ่มพยายามเสาะหาดอกรักชั่วนิรันดร์อยู่นานหลายเดือน แต่หาเท่าไรเขาก็หาไม่พบ ชายหนุ่มท้อแท้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เมื่อเขานึกถึงหญิงสาว เขาก็ฮึดสู้และยืดหยัดค้นหาดอกไม้ต่อไปโดยไม่ ยอมกลับบ้านมือเปล่า จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขาก็พบดอกรักชั่วนิรันดร์สมดังที่เขาวาดหวังเอาไว้
อนิจจา! แม้ชายหนุ่มจะค้นพบดอกไม้ที่เฝ้าตามหา แต่เขาก็ไม่อาจนำดอกไม้ดอกนั้นกลับไปฝากหญิงสาวได้ เพราะมันเป็นดอกไม้ของนางฟ้าองค์น้อยผู้หลงใหลดอกรักชั่วนิรันดร์เช่นกัน
แต่โชคยังดี เพราะนางฟ้ามีใจเมตตา นางฟ้าเห็นแก่ความรักที่ชายหนุ่มมีต่อหญิงสาว นางฟ้าจึงมอบเมล็ดของดอกรักชั่วนิรันดร์ให้ชายหนุ่มนำไปปลูก 1 เมล็ดโดยกำชับว่า “ดอกรักชั่วนิรันดร์เป็นดอกไม้ที่ปลูกยากมาก ถ้าเธอมีความพยายามเพียงพอ ความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม”
ครั้นเมื่อชายหนุ่มนำเมล็ดของดอกรักชั่วนิรันดร์ซึ่งมีขนาดใหญ่ยักษ์กลับไปที่บ้าน เขาก็เริ่มขุดดินในสวนให้เป็นหลุมขนาดใหญ่ แล้วนำเมล็ดที่ได้รับจากนางฟ้าไปปลูกในหลุมที่ขุดไว้
ชายหนุ่มเฝ้ารดน้ำ, พรวนดิน และดูแลแปลงเพาะเมล็ดของเขาอย่างเต็มที่ เวลาค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ จาก 1 วันเป็น 1 สัปดาห์ และจาก 1 สัปดาห์เป็น 1 เดือน แต่จนแล้วจนรอด เมล็ดของดอกรักชั่วนิรันดร์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะงอกขึ้นมาจากพื้นดินเลยแม้สักนิด
ชายหนุ่มนั่งมองแปลงเพาะเมล็ดด้วยความสิ้นหวัง เขารู้ว่าการปลูกดอกรักชั่วนิรันดร์เป็นเรื่องยาก แต่เขาไม่คิดว่ามันจะยากถึงเพียงนี้ ชายหนุ่มเริ่มท้อ เขานั่งก้มหน้ามองพื้นดินอยู่พักใหญ่ จากนั้น เขาก็ถอนหายใจ แล้วเดินคอตกจากแปลงเพาะเมล็ดแห่งนั้นราวกับคนที่ยอมพ่ายแพ้ต่อทุกสิ่ง
เวลาผ่านไปราว 7 วัน 7 คืน แปลงเพาะเมล็ดยังคงอยู่ในสภาพดังเดิม แต่ ณ บัดนี้ เจ้าของแปลงเพาะเมล็ดไม่ได้อยู่ดูแลผืนดินของเขาอีกแล้ว
เช้าของวันที่ 8 สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดได้เกิดขึ้น เพราะชายหนุ่มเดินทางกลับมายังแปลงเพาะเมล็ดของเขา โดยหอบเอาน้ำและดินจากป่าที่เขาพบดอกรักชั่วนิรันดร์ติดตัวกลับมาด้วย
จริง ๆ แล้ว แม้ชายหนุ่มจะเหนื่อยและท้อ แต่เขาไม่เคยคิดจะล้มเลิกความตั้งใจในการปลูกดอกรักชั่วนิรันดร์เลย (เช่นเดียวกับที่ไม่เคยคิดเลิกรักหญิงสาวที่เขาแอบหมายปองอยู่) เมื่อเขาเห็นว่าเมล็ดไม่งอกขึ้นมาจากพื้นดิน เขาจึงคาดเดาว่าบางทีมันอาจต้องการดินหรือน้ำที่เหมาะสมกับการงอกของมันก็เป็นได้ ชายหนุ่มจึงย้อนกลับไปที่ป่าแล้วนำดินและน้ำกลับมาทดลองในสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้
เมื่อชายหนุ่มมาถึงแปลงเพาะเมล็ด เขาก็จัดแจงขุดหลุมใหม่แล้วนำดินจากป่าใส่ลงไปในหลุมจนทั่ว จากนั้นจึงนำเมล็ดย้ายมาปลูก แล้วรดน้ำให้ดินชุ่มฉ่ำ
ชายหนุ่มเฝ้าดูแลเมล็ดอีกครั้งจนเวลาผ่านไปเกือบเดือน เมื่อถึงวันหนึ่ง ต้นอ่อนก็ค่อย ๆ งอกขึ้นมาจากพื้นดินและพร้อมจะเติบโตเป็นต้นของดอกรักชั่วนิรันดร์ตามที่ชายหนุ่มได้ฝันเอาไว้
ชายหนุ่มดีใจที่ความพยายามของเขาประสบผลสำเร็จ แต่เขายังมีภารกิจที่ต้องดูแลต้นอ่อนต้นนี้ให้เติบโตขึ้นอีก ชายหนุ่มรู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลย แต่เขาก็มั่นใจว่า ถ้าเขามีความพยายามเพียงพอ ความสำเร็จก็คงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
สองปีต่อมา ต้นไม้ที่ชายหนุ่มเฝ้าดูแลก็มอบดอกรักชั่วนิรันดร์ให้แก่ชายหนุ่ม กลิ่นหอมอันแสนวิเศษและความงดงามของดอกไม้หายากดึงดูดให้ใครต่อใครอยากเข้ามาชื่นชมมันใกล้ ๆ ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือหญิงสาวที่ชายหนุ่มแอบหลงรัก
ในวันที่หญิงสาวมายังแปลงปลูกดอกไม้ของชายหนุ่ม เมื่อชายหนุ่มพบเธอ เขาก็ถือโอกาสแนะนำตัว, เล่าเรื่องราวทั้งหมด, บอกรักและมอบดอกไม้แสนงามให้แก่หญิงสาวคนพิเศษ
ความพยายามและความตั้งใจจริงของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวยอมรับรักและยินดีที่จะแต่งงานกับเขาแต่โดยดี
ในที่สุด ชายหนุ่มผู้มีความพยายามก็สมหวังในความรัก และเขากับหญิงสาวก็ช่วยกันดูแลดอกรักชั่วนิรันดร์ให้อยู่คู่กับพวกเขาตราบนานเท่านาน
#นิทานนำบุญ
…………………….
