ก่อนไปอ่านนิทานเรื่องโมโมทาโร่ เราไปฟังเพลงเพราะ ๆ ด้วยกันสักเพลงนะครับ
นิทานเรื่อง โมโมทาโร่…เจ้าหนูลูกท้อ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีตากับยายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ณ หมู่บ้านอันห่างไกล ทุกวัน คุณตาจะขึ้นเขาไปเก็บฟืนเพื่อนำไปขาย ส่วนคุณยายจะทำหน้าที่ดูแลงานบ้านต่าง ๆ ให้บ้านเรียบร้อยและน่าอยู่ที่สุด คุณตากับคุณยายรักกันมาก ทั้งคู่ใช้ชีวิตเล็ก ๆ อย่างมีความสุขร่วมกันมาตลอดตั้งแต่แต่งงานกัน สิ่งเดียวที่คุณตากับคุณยายเฝ้ารอแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ คือ การได้มีลูกสักคนเพื่อเป็นพยานแห่งความรัก แต่หลังจากที่เฝ้ารอมานาน ทั้งคู่ก็ได้แต่ทำใจว่าพวกตนคงไม่มีวาสนาที่จะมีลูก
อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่คุณตาขึ้นเขาไปเก็บฟืน ส่วนคุณยายไปซักผ้าริมลำธารตามปกติ จู่ ๆ คุณยายก็สังเกตเห็นลูกท้อลูกหนึ่งลอยมาตามกระแสน้ำ ลูกท้อมีขนาดใหญ่กว่าปกติและดูน่ากินมาก คุณยายจึงลุยน้ำไปเก็บลูกท้อโดยตั้งใจจะเก็บไว้กินกับคุณตาผู้เป็นที่รัก แต่เมื่อคุณยายลุยน้ำไปเก็บลูกท้อ คุณยายก็พบว่าลูกท้อลูกนั้นหนักกว่าที่คุณยายคาดไว้หลายเท่า
หลังจากเก็บลูกท้อได้แล้ว คุณยายก็หอบลูกท้อกลับบ้าน จากนั้น คุณยายก็จัดโต๊ะอาหาร แล้วรอให้คุณตาลงมาจากภูเขา
ตกบ่าย เมื่อคุณตากลับมาถึงบ้าน คุณยายก็จูงคุณตามาที่โต๊ะอาหาร แล้วชี้ชวนให้คุณตาดูลูกท้อที่เก็บได้ จากนั้น ทั้งคู่ก็ลงมือผ่าลูกท้อ
แต่ทันทีที่คุณตากับคุณยายผ่าลูกท้อจนแยกออกเป็นสองส่วน สิ่งที่คุณตากับคุณยายได้เห็นก็คือ มีเด็กทารกเพศชายคนหนึ่งนอนร้องไห้อยู่ในลูกท้อ คุณตากับคุณยายมองเด็กน้อยที่อยู่ในลูกท้อด้วยความประหลาดใจ คุณตารำพึงว่า “หรือนี่คือลูกที่สวรรค์ส่งมาให้พวกเรานะยาย” คุณยายมองคุณตาแล้วน้ำก็ไหลออกมา จากนั้น คุณยายก็พูดว่า “ต้องใช่แน่ ๆ ต้องใช่แน่ ๆ” เมื่อทั้งคู่เห็นพ้องต้องกัน ความแปลกใจจึงแปรเปลี่ยนเป็นความ ปลื้มปีติ คุณตากับคุณยายอุ้มเด็กทารกตัวน้อยออกมาจากลูกท้อ แล้วขนานนามให้ลูกชายของพวกเขาว่า “โมโมทาโร่” ซึ่งมีความหมายว่า “เด็กชายลูกท้อ” หรือ “เจ้าหนูลูกท้อ” ตามลูกท้อที่คุณยายเก็บมาได้
นับจากวันนั้น คุณตากับคุณยายก็เฝ้าดูแลโมโมทาโร่ด้วยความรัก คุณยายทำข้าวปั้นแสนอร่อยให้โมโมทาโร่กินทุกวัน โมโมทาโร่ก็ชอบกินข้าวปั้นฝีมือคุณยายมาก เมื่อเวลาผ่านไป โมโมทาโร่ค่อย ๆ เติบโตจนกลายเป็นเด็กที่มีจิตใจดีงาม มีร่างกายแข็งแรง และที่สำคัญ เขามีพละกำลังมหาศาลมากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งเท่ากับว่า โมโมทาโร่คือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่บ้าน
อยู่มาวันหนึ่ง โมโมทาโร่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับปีศาจแห่งเกาะโอนิงาชิม่า ที่คอยรังควานผู้คนในหมู่บ้านจนทุกคนหวาดกลัวกันไปทั่ว โมโมทาโร่ผู้มีจิตใจดีงามและมีร่างกายแข็งแกร่ง จึงขออนุญาตคุณตาคุณยายเดินทางไปปราบปิศาจ
ในตอนแรก คุณตากับคุณยายเป็นห่วงโมโมทาโร่มาก แต่เมื่อโมโมทาโร่ขอร้องและยกเหตุผลว่า “การช่วยเหลือผู้คนที่กำลังเดือดร้อนเป็นสิ่งที่ควรกระทำมิใช่หรือ” ในที่สุด คุณตากับคุณยายจึงอนุญาต โดยคุณตากำชับให้โมโมทาโร่ระวังตัว ส่วนคุณยายได้ทำข้าวปั้นแสนอร่อยให้โมโมทาโร่นำไปกินระหว่างทางด้วย
เมื่อโมโมทาโร่ออกเดินทาง เขามุ่งหน้าไปยังเกาะโอนิงาชิม่าด้วยจิตใจที่กล้าหาญ แต่ก่อนที่โมโมทาโร่จะเดินพ้นจากหมู่บ้าน จู่ ๆ ก็มีหมาตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นแล้วถามโมโมทาโร่ว่า “ท่านกำลังจะไปไหนน่ะ แล้วท่านพอจะมีของกินติดตัวมาบ้างไหม”
โมโมทาโร่ตอบว่า “ฉันกำลังจะไปปราบปิศาจที่เกาะโอนิงาชิ ส่วนของกินก็มีข้าวปั้นแสนอร่อยที่คุณยายทำไว้ให้ เอาอย่างนี้ไหม ถ้าเธอยินดีไปปราบปิศาจกับฉัน ฉันจะแบ่งข้างปั้นแสนอร่อยให้เธอชิ้นนึง”
เจ้าหมาอยากชิมรสชาติของข้าวปั้นแสนอร่อย และมันก็คิดว่า การไปปราบปิศาจเพื่อช่วยเหลือผู้คนเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้น เจ้าหมาจึงขอกินข้าวปั้นด้วย แล้วมันก็ร่วมเดินทางไปปราบปิศาจกับโมโมทาโร่
ในเวลาต่อมา โมโมทาโร่ได้พบกับไก่ฟ้าตัวหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถามเขาว่า “ท่านกำลังจะไปไหนน่ะ แล้วท่านพอจะมีของกินติดตัวมาบ้างไหม”
โมโมทาโร่ตอบว่า “ฉันกำลังจะไปปราบปิศาจที่เกาะโอนิงาชิ ส่วนของกินก็มีข้าวปั้นแสนอร่อยที่คุณยายทำไว้ให้ เอาอย่างนี้ไหม ถ้าเธอยินดีไปปราบปิศาจกับฉัน ฉันจะแบ่งข้างปั้นแสนอร่อยให้เธอชิ้นนึง”
ไก่ฟ้าอยากชิมรสชาติของข้าวปั้นแสนอร่อย และมันก็คิดว่า การไปปราบปิศาจเพื่อช่วยเหลือผู้คนเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้น ไก่ฟ้าจึงขอกินข้าวปั้นด้วย แล้วมันก็ร่วมเดินทางไปปราบปิศาจกับโมโมทาโร่และเจ้าหมา
ก่อนถึงเกาะโอนิงาชิ โมโมทาโร่ได้พบกับลิงตัวหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถามเขาว่า “ท่านกำลังจะไปไหนน่ะ แล้วท่านพอจะมีของกินให้ติดตัวมาบ้างไหม”
โมโมทาโร่ตอบว่า “ฉันกำลังจะไปปราบปิศาจที่เกาะโอนิงาชิ ส่วนของกินก็มีข้าวปั้นแสนอร่อยที่คุณยายทำไว้ให้ เอาอย่างนี้ไหม ถ้าเธอยินดีไปปราบปิศาจกับฉัน ฉันจะแบ่งข้างปั้นแสนอร่อยให้เธอชิ้นนึง”
เจ้าลิงอยากชิมรสชาติของข้าวปั้นแสนอร่อย และมันก็คิดว่า การไปปราบปิศาจเพื่อช่วยเหลือผู้คนเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้น เจ้าลิงจึงขอกินข้าวปั้นด้วย แล้วมันก็ร่วมเดินทางไปปราบปิศาจกับโมโมทาโร่ เจ้าหมาและไก่ฟ้า
เมื่อโมโมทาโร่กับเพื่อนสัตว์ทั้งสามเดินทางมาถึงเกาะโอนิงาชิม่า พวกเขาก็พบว่ามีประตูบานใหญ่ขวางทางอยู่ แต่โชคดี ที่โมโมทาโร่มีไก่ฟ้ามาด้วย ไก่ฟ้าจึงบินข้ามประตูไปเปิดกลอนจากด้านใน ซึ่งทำให้ทุกคนผ่านประตูไปได้อย่างง่ายดาย
เมื่อทุกคนเดินผ่านประตูมาแล้ว พวกเขาก็พบว่า เหล่าปิศาจกำลังจัดงานฉลองดื่มสุรายาเมาจนคอพับคออ่อน ขาดสติ และไม่มีใครสังเกตเห็นการมาถึงของพวกโมโมทาโร่เลย
เมื่อโมโมทาโร่เห็นว่าปิศาจกำลังอ่อนแอแถมไม่รู้ตัวว่ามีผู้บุกรุก โมโมทาโร่ผู้แข็งแกร่งและเพื่อนสัตว์ทั้งสามก็ตรงเข้าจู่โจมเหล่าปิศาจที่บังอาจสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ด้วยการ….จิกด้วยจะงอย ต่อยด้วยหมัด กัดด้วยเขี้ยวคม ๆ ถล่มด้วยผลไม้ แถมด้วยท่าไม้ตาย ต่อตัวกระโดดเตะแบบควงสว่าน จนเหล่าปิศาจสิ้นฤทธิ์
เด็กน้อยที่เติบโตและมีพละกำลังมหาศาลจากการกินข้าวปั้นแสนอร่อยฝีมือคุณยาย และเหล่าเพื่อนสัตว์ใจสู้ที่พร้อมใจกันสู้ด้วยความสามัคคี ทำให้พวกเขาเอาชนะเหล่าปิศาจไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ในที่สุด โมโมทาโร่ก็เอาชนะเหล่าปิศาจได้สำเร็จ หัวหน้าของพวกปีศาจยอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี เพราะมันรู้ดีว่า จริง ๆ แล้ว โมโมทาโร่ยังเหลือพละกำลังอีกมาก ที่สามารถจัดการกับพวกมันได้อย่างสบาย ด้วยเหตุนี้ หัวหน้าปิศาจจึงพูดว่า
“โปรดไว้ชีวิตพวกเราด้วยเถิด พวกเราจะไม่รังแกผู้คนอีกแล้ว และพวกเราขอมอบสมบัติทั้งหมดที่เรามีให้แก่ท่านอีกด้วย”
เมื่อเหล่าปิศาจให้สัญญาและมอบสมบัติทั้งหมดให้ โมโมทาโร่และสัตว์ทั้งสาวก็นำสมบัติเหล่านั้นเดินทางกลับไปยังหมู่บ้าน
และแล้วเรื่องราวทั้งหมดก็จบลงด้วยดี
#นิทานพื้นบ้านญี่ปุ่น
……………………..
ฉันรักโมโมมากเลข
LikeLike
น่ารักมากๆเลยค่ะ
LikeLike