“เย่เซียน” (Ye Xian) เป็นนิทานพื้นบ้านจีนที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่ง ที่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจนตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง (ราวปี ค.ศ. 850) โดยปรากฏอยู่ในหนังสือ “Youyang Zazu” ของนักเขียนนามว่า Duan Chengshi นิทานเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากนักวิชาการทั่วโลก เพราะมีโครงสร้างคล้ายกับ “ซินเดอเรลล่า” ของยุโรป แม้จะเกิดขึ้นก่อนหลายร้อยปี จึงถือเป็นต้นแบบของนิทานประเภท “หญิงสาวผู้ถูกกลั่นแกล้ง ได้รับความช่วยเหลือจากสิ่งวิเศษ และเปลี่ยนชะตาชีวิตอย่างน่าอัศจรรย์” เย่เซียนไม่เพียงเป็นนิทานคลาสสิกของจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างของวรรณกรรมเปรียบเทียบที่มีอิทธิพลในระดับสากล เหมาะทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่สนใจวัฒนธรรมโบราณและนิทานก่อนนอนที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
นิทานเรื่อง เย่เซียน : ซินเดอเรลล่า
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในแผ่นดินจีน มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่า “เย่เซียน” เย่เซียนเป็นคนฉลาด จิตใจดี และขยันขันแข็ง แม้เย่เซียนจะกำพร้าแม่มาตั้งแต่ยังเด็ก แต่เธอก็เติบโตมาด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนและความอ่อนน้อมถ่อมตน เย่เซียนอาศัยอยู่กับพ่อซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน และเมื่อพ่อแต่งงานใหม่ เย่เซียนก็ได้แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่มาอยู่ร่วมบ้านด้วยกัน
แม่เลี้ยงของเย่เซียนไม่ได้ใจดีเหมือนพ่อ เธอทั้งใจร้าย เข้มงวด และมักใช้งานเย่เซียนให้ทำงานหนักอยู่เสมอ งานที่เย่เซียนต้องทำมีตั้งแต่ซักผ้า กวาดบ้าน หุงข้าว แถมเย่เซียนยังต้องนอนในครัวเพียงลำพัง นอกจากนี้ แม่เลี้ยงยังไม่ให้เย่เซียนแต่งตัวดี ๆ หรือออกไปเล่นกับใคร สาวน้อยจึงมักนั่งเงียบ ๆ อยู่ในครัว โดยมีเพื่อนลับตัวหนึ่งที่คอยให้กำลังใจเธออยู่เสมอ
เพื่อนลับของเย่เซียนคือปลาตัวหนึ่ง แต่มันไม่ใช่ปลาธรรมดา เพราะมันเป็นปลาที่พูดได้
เจ้าปลาว่ายอยู่ในบ่อน้ำข้างบ้านติดกับห้องครัว ทุกครั้งที่เย่เซียนมาหา ปลาตัวนั้นจะว่ายน้ำขึ้นมาทักทาย และฟังเธอปรับทุกข์อย่างอดทน เย่เซียนรักปลาตัวนี้เหมือนพี่น้อง เธอมักแอบนำเศษอาหารมาให้เจ้าปลากินโดยไม่ให้ใครรู้
แต่ความลับไม่มีในโลก เมื่อแม่เลี้ยงรู้เรื่องเข้า แม่เลี้ยงก็แอบจับปลามาทำเป็นอาหารให้ลูกสาวกิน
เย่เซียนเสียใจมาก เธอร้องไห้ทั้งวันเพราะไม่มีเพื่อนอีกแล้ว จนกระทั่งมีชายชราแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้น ชายชราบอกว่า “ก้างของปลาตัวนั้น ยังมีความวิเศษอยู่ ถ้าเจ้าขอพรด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์ ก้างปลาจะช่วยทำให้คำอธิษฐานนั้นเป็นจริง”
เมื่อได้ฟัง เย่เซียนจึงเก็บก้างปลาไว้ในหีบ และทุกครั้งที่เธอมีเรื่องทุกข์ใจ เธอจะมาปรับทุกข์กับก้างปลาโดยไม่ให้ใครรู้
วันหนึ่ง ในหมู่บ้านมีงานรื่นเริงครั้งสำคัญ มันเป็นงานประจำปีที่ทุกคนจะแต่งตัวสวยงามเพื่อไปร่ายรำ เย่เซียนอยากไปร่วมงานมาก แต่แม่เลี้ยงไม่ยอมให้เธอไป ซ้ำยังสั่งให้เธอทำงานบ้านทั้งหมดให้เสร็จก่อนค่ำ
เมื่อแม่เลี้ยงกับน้องสาวออกจากบ้านไปแล้ว เย่เซียนจึงเปิดหีบและขอก้างปลาให้ช่วยพาเธอไปร่วมในงานรื่นเริงนั้น
ก้างปลาจึงเนรมิตชุดสวยให้เย่เซียน พร้อมกับรองเท้าทองคำสุกปลั่งที่งดงามแบบไม่มีใครเหมือน เมื่อเย่เซียนไปถึงงานรื่นเริง ความงดงามของเธอดึงดูดให้ทุกคนต้องหันมามอง โดยเฉพาะองค์ชายหนุ่มจากเมืองข้างเคียงที่ตกตะลึงในความงาม และเมื่อได้พูดคุย พระองค์ก็หลงใหลในความอ่อนโยนของหญิงสาวที่พระองค์ไม่รู้ชื่อ
แต่แล้ว เมื่อเย่เซียนเห็นแม่เลี้ยงกับลูกปรากฎตัวอยู่แถวนั้น เย่เซียนจึงจำเป็นต้องรีบกลับบ้านก่อนที่แม่เลี้ยงจะเห็น เย่เซียนรีบวิ่งออกจากงานจนทำรองเท้าหลุดไว้ข้างทาง องค์ชายเก็บรองเท้าข้างนั้นได้ จึงประกาศตามหาหญิงสาวผู้สวมรองเท้าทองคำคู่นั้นได้พอดี
หญิงสาวมากมายได้มาลองสวมรองเท้าทองคำ แต่ไม่มีใครสวมรองเท้าข้างนั้นได้ จนกระทั่งเย่เซียนเดินเข้ามาลองสวมรองเท้าเป็นคนสุดท้าย ซึ่งเธอก็สวมรองเท้าได้พอดิบพอดี
องค์ชายดีใจมากจึงรีบพายี่เซียนกลับวัง และไม่นานหลังจากนั้น พระองค์ก็จัดพิธีแต่งงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
ในที่สุด เย่เซียนก็ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขโดยไม่ต้องทำงานหนักอีกต่อไป ส่วนแม่เลี้ยงและน้องสาวเมื่อรู้ข่าว ก็เสียใจที่เคยใจร้ายกับเย่เซียน
