สวัสดีครับ … ผมเขียนบันทึกนี้ในวันที่ 26 ธันวาคม 2564 เพื่อแจ้งทิศทางของเว็บไซต์นิทานนำบุญให้คุณผู้อ่านได้ทราบ
ปัจจุบัน เว็บไซต์นิทานนำบุญมีนิทานอยู่ประมาณ 300 เรื่อง ในปี 2565 ผมจึงตั้งใจที่จะลงนิทานเรื่องใหม่ ๆ น้อยลง แต่จะพยายามจัดหมวดหมู่ของนิทานให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น และจะตรวจทานความถูกต้องทางภาษาของนิทานแต่ละเรื่อง รวมทั้งเติมรายละเอียดในส่วนเกริ่นนำหรือในส่วนท้ายของนิทาน เพื่อให้นิทานแต่ละเรื่องมีความสมบูรณ์มากขึ้น จึงขอแจ้งและขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
ในส่วนของโครงการเลี้ยงกาแฟปีละ 1 บาท เนื่องจากปีที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ได้รับเงินเลี้ยงกาแฟมาราวสามหมื่นบาท (อ่านได้จากลิงค์นี้ https://bit.ly/32Dw4Uc ) ซึ่งน่าจะใช้ดูแลเว็บไซต์ได้อีก 8 ปี ด้วยเหตุนี้เอง ในปี 2565 ผมจึงขอหยุดรับการเลี้ยงกาแฟ โดยจะค่อย ๆ นำเลขบัญชีออกจากเว็บไซต์ เพราะผมไม่อยากรบกวนผู้อ่านและไม่อยากถือเงินเอาไว้มากเกินไป ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันดูแลเว็บไซต์นี้นะครับ
ในปี 2564 ผมพบปัญหาน่าหนักใจเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์นิทานนำบุญอย่างรุนแรง และเรื่องการแอบอ้างชื่อ “นิทานนำบุญ” ในการประกาศเชิญชวนผู้คนให้สมัครเข้าทำงาน “คัดลอกนิทาน” ซึ่งมีลักษณะเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต
ในส่วนของปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ มีคนนำนิทานจากเว็บไซต์นิทานนำบุญไปทำคลิปลงในสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้กระทำผิดบางคนเล่าว่า เห็นนิทานส่งต่อกันมาทางไลน์ (ไม่มีชื่อผู้แต่ง) จึงก๊อปนิทานมาลงในบทความของตนเอง และเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ชื่อดังอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์! กรณีที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ผมวิตกว่า หากปล่อยให้มีการละเมิดต่อไปเรื่อย ๆ นิทานที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของผม จะถูกละเมิดจนผู้คนคิดว่าเป็นนิทานที่ไม่มีผู้แต่งและไม่มีลิขสิทธิ์ ดังนั้น ในปี 2565 ผมจึงจำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีอย่างจริงจัง ซึ่งปกติ เวลาที่ผมขายลิขสิทธิ์ให้สำนักพิมพ์ นิทาน 1 เรื่องที่นำไปพิมพ์หนังสือ 1 เล่ม (พิมพ์ 3000 ฉบับ) ผู้สร้างสรรค์จะได้รับค่าลิขสิทธิ์ 10% ของราคาปก คูณด้วยยอดพิมพ์ (ราว 30,000 บาท) ดังนั้น ผู้ที่ละเมิดลิขสิทธิ์นิทานนำบุญจึงอาจถูกดำเนินคดีและเสียเงินเป็นจำนวนมาก (นอกจากนี้ ยังอาจมีโทษทางอาญาด้วยครับ) ซึ่งการดำเนินคดีอย่างจริงจังอาจช่วยแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ไปได้บ้าง
ส่วนปัญหาเรื่องการแอบอ้างชื่อ “นิทานนำบุญ” ในการประกาศรับจ้างที่ไม่สุจริต ผมในฐานะผู้จัดทำเว็บไซต์นิทานนำบุญขอยืนยันว่า ผมไม่มีความเกี่ยวข้องกับการประกาศรับจ้างงานดังกล่าว และจะทำการรวบรวมหลักฐานเพื่อแจ้งความโดยเร็วที่สุด
ในส่วนของแผนงานปี 2565 ผมตั้งใจที่จะเริ่มทำคอนเทนต์นิทานลงในยูทูบ โดยมีกลุ่มผู้ชมเป็นคนทุกเพศทุกวัย (ไม่เน้นไปที่กลุ่มเด็ก) ซึ่งหากทำได้สำเร็จและเป็นที่นิยมของผู้ชม ก็อาจทำให้ผมมีรายได้มาทำอะไรสนุก ๆ ได้อีก ปี 2565 จึงเป็นปีที่น่าจะยุ่งมากและต้องแก้ปัญหาอะไรค่อนข้างมาก แต่ผมสัญญาว่า ถ้าได้ลงคลิปในยูทูบเมื่อไหร่ ก็จะนำมาแชร์ให้ได้ติดตามกันด้วยครับ
สุดท้าย โครงการหนังสืออีบุ้คที่ผมทำขาย ผมตั้งใจที่จะหยุดขายเพื่อลดภาระของน้องชายที่ต้องมาทำหน้าที่ขายแทนผม ดังนั้น หากใครอยากอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีแต่งนิทานของผม คงต้องรีบสั่งซื้อกันหน่อยตามช่องทางที่อยู่ในภาพข้างล่างนี้ เพราะปลายเดือนมกราคม…เมื่อเลิกขายแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็จะไม่มีกลับมาจำหน่ายอีกเลยครับ
