Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

กิ่งไม้กายสิทธิ์

นิทานเรื่อง “กิ่งไม้กายสิทธิ์” เป็นนิทานที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุย) แต่งและพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือนเมื่อราว 10 ปีก่อน หลังจากนิตยสารขวัญเรือนวางจำหน่ายได้ไม่นาน นิทานเรื่องนี้ก็ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ คือมีเว็บไซต์หนึ่งนำนิทานเรื่องนี้ไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อผมแจ้งทางเว็บไซต์ให้ช่วยนำนิทานออกจากระบบ ไม่นานนัก ผมก็พบว่านิทานเรื่องนี้ถูกนำไปเผยแพร่ที่เว็บไซต์อื่น ๆ อีก (โดยให้เครดิตเว็บไซต์แรก) ปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์นิทานเกิดขึ้นมาตลอด นิทานบางเรื่องถูกละเมิดและตัดชื่อผู้แต่งออกจนดูคล้ายเป็นนิทานสาธารณะ การทำงานด้านเด็กและการเป็นนักแต่งนิทาน บางทีก็มีเรื่องบั่นทอนกำลังใจเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ แต่ทุกครั้งที่่ได้รู้ว่าเด็ก ๆ มีความสุขจากการอ่านนิทานที่ผมแต่ง กำลังใจก็มักจะคืนกลับมาได้ง่าย ๆ ขอบคุณที่ติดตามนิทานนำบุญนะครับ และขอให้มีความสุขกับนิทานสอนใจสั้น ๆ เรื่องนี้นะครับ

นิทานเรื่อง กิ่งไม้กายสิทธิ์

น้องเอ๋ยเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีนิสัยซุกซนจนทำให้คุณแม่ต้องปวดหัวอยู่บ่อย ๆ   

วันหนึ่ง  ตอนที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน  น้องเอ๋ยแอบฝืนคำสั่งของคุณแม่ด้วยการมุดรั้วออกไปเที่ยวในทุ่งหญ้าที่คุณแม่เตือนนักเตือนหนาว่าอย่าเข้าไปเล่น  น้องเอ๋ยชอบทำอะไรแบบนี้เสมอ  ขอให้ได้ดื้อสักหน่อย  ถ้าคุณแม่จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน  มันก็เป็นเรื่องที่สนุกและน่าตื่นเต้นดีมิใช่หรือ ?

ในขณะที่น้องเอ๋ยกำลังเดินเล่นอยู่นั้น   จู่ ๆ เธอก็เหลือบไปเห็นกิ่งไม้รูปร่างแปลก ๆ วางอยู่บนหินก้อนใหญ่โดยมีเศษหนังผืนเล็ก ๆ วางอยู่ติด ๆ กัน   เมื่อน้องเอ๋ยเดินเข้าไปดูและอ่านข้อความบนแผ่นหนัง  เธอก็พบความลับที่วิเศษสุด  เพราะกิ่งไม้ที่เธอเห็น  มันเป็นคทากายสิทธิ์ที่สามารถเนรมิตให้เกิดอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา

น้องเอ๋ยดีใจและรีบนำคทากลับบ้าน   เธอคิดเรื่องสนุก ๆ เอาไว้มากมาย  และทันทีที่เธอเข้าไปในห้องครัวของคุณแม่     น้องเอ๋ยก็เริ่มต้นใช้คทาเสกให้ฝูงปลาทองลอยขึ้นมาจากอ่างน้ำแล้วเนรมิตให้พวกมันสามารถว่ายเวียนไปในอากาศได้ด้วยอำนาจที่แสนอัศจรรย์   จากนั้น  เธอก็ร่ายมนตร์ให้หม้อ กระทะ ตะหลิว พร้อมกับเหล่าเครื่องครัวทั้งหลายลุกขึ้นมาเต้นระบำกันจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปหมด   เด็กน้อยเจ้าของกิ่งไม้กายสิทธิ์มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมีความสุข   เธอว่าคาถาต่อไปโดยบังคับให้กระป๋องแป้งลอยขึ้นไปบนฟ้า แล้วให้มันหมุนคว้างพร้อม ๆ กับโรยผงแป้งลงมาราวกับเป็นช่วงเวลาที่หิมะตก    น้องหมากับเจ้าเหมียวลื่นไถลบนพื้นห้องจนมอมแมมไปตาม ๆ กัน   น้องเอ๋ยสนุกกับการใช้คทาวิเศษในการทำเรื่องซุกซนจนบ้านยุ่งเหยิงชนิดที่คุณแม่ต้องโกรธจนควันออกหูแน่ ๆ   แต่น้องเอ๋ยไม่กลัวหรอก  เพราะเธอรู้ว่า เธอสามารถใช้คทาวิเศษเสกให้ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนที่คุณแม่จะกลับมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

น้องเอ๋ยสนุกกับการใช้เวทมนตร์จนเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน   เมื่อน้องเอ๋ยนอนหลับไปได้สักพัก ใครบางคนที่แอบมองน้องเอ๋ยจากนอกหน้าต่างก็เปิดประตูบ้านและย่องตรงเข้ามาหาเจ้าเด็กน้อยจอมซนที่กำลังหลับปุ๋ยอยู่   บุคคลลึกลับที่ลอบเข้ามาในบ้านเป็นหญิงชราที่มีจมูกงุ้มและคางยื่นแลดูน่าเกลียดน่ากลัวมาก  เธอมองเด็กน้อยพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างสมใจ  จากนั้น เธอก็เอื้อมมือที่เหี่ยวย่นออกมาเพื่อหยิบกิ่งไม้กายสิทธิ์ แล้วค่อย ๆ เดินจากไปอย่างเงียบเชียบ

ตกเย็น  น้องเอ๋ยสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงของคุณแม่ร้องเรียกจากหน้าบ้าน  เด็กน้อยรีบมองหาคทาวิเศษเพื่อเสกทุกอย่างให้กลับคืนสู่สภาพเดิม  แต่อนิจจา! กิ่งไม้กายสิทธิ์กลับหายไปจากห้อง ๆ นั้นเสียแล้ว

เมื่อคุณแม่เปิดประตูเข้ามาเห็นสภาพภายในห้องครัว   คุณแม่ตกใจจนร้องเจี๊ยก แถมยังอ้าปากค้างและทำตาโตเกือบ ๆ จะเท่ากับขนาดของไข่นกกระจอกเทศเลยทีเดียว  น้องเอ๋ยมองเห็นควันพวยพุ่งออกมาหูของคุณแม่ราวกับเป็นควันจากกาต้มน้ำที่เดือดปุด ๆ    คุณแม่คงโกรธเธอมาก   น้องเอ๋ยทำหน้าเหยเก  และแล้ว…เด็กน้อยจอมซนก็เริ่มร้องไห้แง ๆ ก่อนที่คุณแม่จะลงมือตีก้นเธอเสียด้วยซ้ำ  

ที่นอกบ้าน  แม่มดเจ้าเล่ห์แอบมองลอดหน้าต่างเข้าไปพร้อมกับฉีกยิ้มด้วยความสะใจ ในที่สุด  แผนการณ์ต่าง ๆ ที่เธอวางไว้ก็สำเร็จตามความคาดหมาย 

“เด็กซน ๆ ต้องถูกตีก้นเสียให้เข็ด”  

แม่มดหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ   จากนั้น  เธอก็ขี่ไม้กวาดของเธอ แล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อหาโอกาสแกล้งเด็กซน ๆ ทั้งหลายให้ได้รับบทเรียนที่สาสมต่อไป

#นิทานนำบุญ

………………

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.