ในสมัยที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ทำหนังสือรวมนิทานเล่มแรกเพื่อจำหน่ายในชื่อหนังสือ “นิทานเจ้าชาย นิยายเจ้าหญิง” นิทานก่อนนอนเรื่อง เจ้าชายใฝ่ทำดี เป็นนิทานก่อนนอนเรื่องสั้น ๆ เรื่องแรก ที่ผมเลือกนำมาพิมพ์ โดยจัดเรียงให้อยู่เป็นนิทานเรื่องที่หนึ่งของหนังสือเล่มนั้น ทำไมนิทานเรื่องนี้จึงได้รับเลือกให้เป็นนิทานในเล่มและเป็นนิทานเรื่องแรก คำตอบก็คือ นิทานเรื่องนี้เป็นนิทานที่มีข้อคิดสอนใจที่ดีสำหรับเด็กทุกคน ทั้งที่เรียนเก่งและเรียนไม่เก่ง ส่วนเนื้อเรื่องถือว่ามีความสนุกพอที่จะใช้เป็นนิทานเรื่องแรกของเล่ม และเข้าใจเรื่องราวได้ง่ายคล้ายเป็นนิทานอุ่นเครื่องก่อนที่จะอ่านนิทานเรื่องอื่น ๆ ต่อไป ผมหวังว่านิทานเรื่องนี้จะเป็นนิทานอีกเรื่องที่ถูกใจทุก ๆ คนนะครับ
นิทานเรื่อง เจ้าชายใฝ่ทำดี
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งชื่อว่า “อาณาจักรเชฟ” พระราชาผู้ครองนครแห่งนี้ทรงเป็นพระราชาผู้เก่งกาจ ส่วนพระราชินีก็เป็นพระราชินีที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ด้วยเหตุนี้ ผู้คนชาวเชฟจึงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่พรั่งพร้อมไปด้วยความสุข
เมื่อพระราชินีทรงให้กำเนิดพระโอรส ไพร่ฟ้าประชาชนจึงพากันคาดหวังว่า เจ้าชายองค์น้อยจะเติบโตขึ้นเป็นเจ้าชายผู้ชาญฉลาดและมีความสามารถไม่แพ้พระบิดา แต่หลังจากที่เจ้าชายเข้าโรงเรียนได้ไม่นาน ความหวังของประชาชนก็ค่อย ๆ ริบหรี่ลง เพราะเจ้าชายทรงไม่แตกฉานในด้านการศึกษา โดยพระองค์มักจะสอบได้เป็นที่สุดท้ายของห้องอยู่เสมอ ๆ
ข่าวคราวความไม่เอาถ่านของเจ้าชายทำให้พระราชาแห่งเมืองต่าง ๆ ที่เคยพ่ายแพ้ต่อพระราชาแห่งอาณาจักรเชฟเริ่มมีความหวัง พระราชาแห่งเมืองต่าง ๆ พากันสะสมกำลังพลและเฝ้ารอวันที่เจ้าชายจะขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระบิดา โดยพระราชาที่คิดร้ายเหล่านั้นต่างมีความเห็นคล้าย ๆ กันว่า การเอาชนะเจ้าชายผู้โง่เขลาคงทำได้ง่ายกว่าการเอาชนะพระบิดาซึ่งเป็นพระราชาที่ทรงปรีชาสามารถ
ชาวเมืองเชฟพากันหวาดหวั่นเมื่อทราบข่าวการสะสมกำลังพลของฝ่ายศัตรู ส่วนตัวเจ้าชายเองก็ทรงตระหนักดีถึงภาระที่พระองค์ต้องแบกรับเอาไว้ การเป็นเจ้าชายที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และมันก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ยากขึ้นไปอีก เมื่อทุก ๆ คนต่างคาดหวังให้เจ้าชายดีเลิศเช่นเดียวกับพระบิดาของพระองค์ เจ้าชายทรงกลุ้มพระทัยมาก ดังนั้น พระองค์จึงนำเรื่องไปปรึกษาพระมารดาที่พระองค์รักแสนรัก
พระราชินีทรงเห็นใจพระโอรสมาก พระองค์ไม่อยากให้เจ้าชายต้องทุกข์ใจอยู่เช่นนี้ พระราชินีจึงปลอบเจ้าชายว่า “แม้ความรู้จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ความดีเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า แม่รู้ว่าลูกของแม่เรียนหนังสือไม่เก่ง แต่ลูกของแม่ก็มีสิ่งวิเศษติดตัวอยู่ นั่นก็คือ…ลูกเป็นเด็กที่มีจิตใจงดงาม ซึ่งแม่เชื่อว่า หากลูกยึดมั่นในการทำดีต่อทุก ๆ คนเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ผลแห่งความดีก็จะทำให้ลูกสามารถดูแลชาวเมืองเชฟให้อยู่เย็นเป็นสุขได้อย่างแน่นอน”
เจ้าชายไม่เข้าใจในคำพูดของพระมารดามากนัก แต่พระองค์ก็ทรงเชื่อและพร้อมที่จะทำตามคำแนะนำของพระมารดาโดยไม่มีข้อโต้แย้ง นับจากวันนั้น เจ้าชายจึงตั้งใจที่จะทำดีต่อคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น พระองค์ทรงเป็นเพื่อนที่ดีของมิตรสหาย ทรงมีน้ำใจต่อข้าราชบริพาร รวมทั้งยังคอยเอาใจใส่และช่วยเหลือประชาชนของพระองค์อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย เจ้าชายทรงทำดีต่อทุก ๆ คนอย่างสม่ำเสมอ (เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงเรียนหนังสือไม่เก่งอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง) และเมื่อถึงวันที่พระองค์ต้องขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดา สิ่งที่ทุก ๆ คนคาดการณ์เอาไว้ก็เกิดขึ้น
กองทัพข้าศึกจากเมืองต่าง ๆ บุกตรงมายังอาณาจักรเชฟทันทีที่ทราบข่าวการขึ้นครองราชย์ของเจ้าชาย กองทัพฝ่ายข้าศึกต่างมั่นใจว่า พวกเขาจะสามารถเอาชนะเจ้าชายที่เรียนหนังสือไม่เก่งพระองค์นี้ได้อย่างไม่มีปัญหา แต่แล้ว…สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็เกิดขึ้น เพราะความดีที่เจ้าชายทรงกระทำต่อทุก ๆ คน กลับผูกใจให้เพื่อน ๆ ที่เก่งกาจในวิชาต่าง ๆ อาสามาช่วยพระองค์ดูแลประเทศให้เข้มแข็ง ในขณะเดียวกัน ข้าราชการ ทหารและประชาชนต่างก็ร่วมแรงร่วมใจกันสนับสนุนพระราชาองค์ใหม่ผู้เป็นที่รักของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ เมื่อกองทัพของเหล่าข้าศึกบุกเข้าประชิดเมือง กองทัพแห่งอาณาจักเชพจึงสามารถต้านทานและปกป้องอาณาจักเชฟเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ในที่สุด คำพูดของพระราชินีก็ได้รับการพิสูจน์ แม้ความรู้จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ความดีกลับเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า เจ้าชายทรงประจักษ์ในคำพูดของพระมารดาอย่างชัดแจ้ง และพระองค์ก็ทรงยึดมั่นในการทำดีต่อทุก ๆ คนสืบมา…ตลอดชั่วรัชกาลอันเปี่ยมสุขของพระองค์
#นิทานนำบุญ
………………………………..
