นิทานก่อนนอนเรื่อง “ไข่ประหลาดเจ็ดสีกับเศรษฐีโลภมาก” เป็นนิทานที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) แต่งในช่วงที่ “โปเกมอน” เริ่มได้รับความนิยม ในยุคนั้น คำว่าร่าง 1 ร่าง 2 เพิ่งเป็นที่รู้จัก ผมทึ่งในความน่ารักของโปเกมอนที่มีคาแรคเตอร์มากมายเต็มไปหมด (ถ้าผมเป็นเด็ก ผมก็คงนั่งออกแบบและวาดโปเกมอนเองแน่ ๆ) ความประทับใจในโปเกมอน เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมอยากแต่งนิทานที่มีตัวละครออกมาจากไข่ แต่เรื่องราวของนิทานไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับโปเกมอนเลย แถมยังเป็นนิทานก่อนนอนที่มีข้อคิดสอนใจด้วย หวังว่าเด็ก ๆ และผู้อ่านจะชอบนิทานเรื่องนี้นะครับ
นิทานเรื่อง ไข่ประหลาดเจ็ดสีกับเศรษฐีโลภมาก
นานมาแล้ว มีเศรษฐีผู้หนึ่งเป็นคนที่ชอบเอาเปรียบผู้อื่นจนเป็นนิสัย แม้เศรษฐีจะมีเงินทองมากมาย แต่เขาก็ไม่เคยรู้จักพอ มิหนำซ้ำ เขายังชอบหากินกับคนจนด้วยการปล่อยเงินกู้แล้วคิดดอกเบี้ยอย่างขูดรีดขูดเนื้อ ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านทั้งหลายจึงเกลียดชังเศรษฐีกันโดยถ้วนหน้า
อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่หนุ่มชาวบ้านต้อนฝูงสัตว์ของเขาไปหากินบริเวณแม่น้ำ จู่ ๆ ชายหนุ่มก็พบไข่แปลกประหลาดเจ็ดฟองลอยน้ำมาติดที่ริมฝั่ง ไข่ทั้งเจ็ดฟองมีขนาดใหญ่กว่าลูกบอลราวสองถึงสามเท่า นอกจากนี้ ไข่แต่ละฟองยังมีสีสันที่แตกต่างกันอีกด้วย ชายหนุ่มรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับไข่ประหลาดที่เขาได้พบ เขาจึงตัดสินใจขนไข่ทั้งหมดกลับไปเก็บเอาไว้ที่บ้าน
เมื่อชายหนุ่มนำไข่กลับไปถึงบ้าน หมอดูประจำหมู่บ้านได้ทำนายว่า ไข่แปลก ๆ เหล่านี้จะทำให้ความทุกข์ยากของผู้คนในหมู่บ้านหายไปจนหมดสิ้น เมื่อชาวบ้านได้ฟังคำของหมอดู พวกเขาก็พากันโจษจันว่า ไข่ทั้งเจ็ดฟองน่าจะเป็นไข่วิเศษจากสรวงสวรรค์
ครั้นเมื่อเศรษฐีผู้โลภมากได้ทราบข่าวเรื่องไข่วิเศษ เศรษฐีผู้ละโมบจึงตรงดิ่งไปยังบ้านของชายหนุ่ม แล้วบังคับให้ชายหนุ่มมอบไข่วิเศษทั้งเจ็ดฟองให้แก่ตน โดยเศรษฐีขู่ว่า หากชายหนุ่มขัดขืน เขาก็จะเรียกเงินกู้ยืมต่าง ๆ คืนจากชาวบ้านในทันที
แม้ชายหนุ่มจะไม่ต้องการมอบไข่ให้เศรษฐี แต่เขาก็ไม่อยากทำให้ชาวบ้านที่เป็นลูกหนี้ของเศรษฐีต้องลำบาก ท้ายที่สุด ชายหนุ่มจึงจำใจยกไข่ทั้งหมดให้แก่เศรษฐีแต่โดยดี
เศรษฐีดีใจที่เขาช่วงชิงไข่วิเศษทั้งเจ็ดฟองมาได้เป็นผลสำเร็จ เศรษฐีคิดว่าไข่ทั้งเจ็ดฟองน่าจะเป็นไข่ของตัวอะไรสักอย่างที่สามารถออกไข่เป็นทองคำหรือไม่ก็อาจจะเป็นไข่ของสิ่งมีชีวิตแห่งแดนสวรรค์ ซึ่งน่าจะนำไปขายต่อให้พระราชาและทำให้เขาร่ำรวยขึ้นได้อีกมาก ด้วยเหตุนี้เอง เศรษฐีจึงสั่งให้บ่าวไพร่ประคบประหงมดูแลไข่ทั้งเจ็ดฟองเป็นอย่างดี
หลายวันผ่านไป ไข่ทั้งเจ็ดฟองที่เศรษฐีนำกลับบ้านก็เริ่มกระดุกกระดิกและเปลือกไข่ก็ค่อย ๆ กะเทาะออกทีละน้อย จนในที่สุด สิ่งที่ปรากฏกายออกมาจากไข่ก็คือสัตว์ประหลาดตัวกลม ๆ ซึ่งมีขนปุกปุยและมีสีแตกต่างกันไปตามสีของเปลือกไข่ที่มันกำเนิดออกมา
เศรษฐีตื่นเต้นมากที่ได้เห็นสัตว์ประหลาดทั้งเจ็ด แม้ว่าเหล่าสัตว์ประหลาดจะมีรูปร่างไม่คุ้นตา แต่พวกมันก็ดูน่ารักน่าชังไม่ใช่เล่น และที่เหนือสิ่งอื่นใด…พวกมันยังอาจทำเงินให้แก่เศรษฐีได้มากมายมหาศาล
เศรษฐีฝันหวานพร้อม ๆ กับดูสัตว์ประหลาดทั้งเจ็ดกระโดดโลดเต้นไปมารอบ ๆ ห้อง จวบจนกระทั่งเจ้าสัตว์ประหลาดทั้งหมดเหนื่อยและหิว สิ่งที่เศรษฐีผู้ละโมบไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น!
เมื่อสัตว์ประหลาดแต่ละตัวท้องร้องจ๊อก ๆ พวกมันก็เหลียวซ้ายแลขวา จากนั้น พวกมันก็เริ่มกินสิ่งของต่าง ๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวอย่างเอร็ดอร่อย
สัตว์ประหลาดบางตัวชอบกินไม้ บางตัวชอบแทะโลหะ บางตัวชอบหม่ำกระดาษ บางตัวชอบเขมือบแก้ว สัตว์ประหลาดแต่ละตัวต่างชอบกินสิ่งของที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน
ไม่ช้าไม่นานนัก สัตว์ประหลาดทั้งเจ็ดก็เขมือบทรัพย์สินของเศรษฐีไปจนเกือบหมด นับตั้งแต่ถังขยะ, โต๊ะอาหาร, ตู้เสื้อผ้า, ฝาผนัง, นาฬิกา, หลังคาบ้าน รวมทั้งเพชรนิลจินดาและหนังสือสัญญาเงินกู้ต่าง ๆ
สัตว์ประหลาดทั้งเจ็ดหม่ำอาหารของพวกมันด้วยความว่องไวราวสายฟ้าแลบ ซึ่งเมื่อพวกมันอิ่มเต็มที่แล้ว ปีกเล็ก ๆ ของเหล่าสัตว์ประหลาดก็ค่อย ๆ งอกออกมา จากนั้น พวกมันก็พากันบินขึ้นฟ้าและหายไปในที่สุด
เศรษฐีผู้โลภมากตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ที่เขาสะสมมาตลอดชีวิตถูกสัตว์ประหลาดจอมเขมือบทั้งเจ็ดหม่ำจนเหลือเพียงพื้นบ้านกับเสาเรือนในเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียว
ความโลภทำให้เขานำสัตว์ประหลาดเข้ามาในบ้านของตนเอง และมันก็ทำให้เขาต้องสูญเสียทุกอย่างไปจนหมดสิ้น
เศรษฐีผู้ละโมบร้องไห้แง ๆ เพราะบัดนี้เขาได้กลายเป็นคนยากจนไปเสียแล้ว ส่วนชาวบ้านทั้งหลายนั้น เมื่อสัตว์ประหลาดหม่ำสัญญาเงินกู้ไปจนหมด เศรษฐีผู้ชอบเอารัดเอาเปรียบก็หมดสิทธิ์ที่จะเรียกร้องเอาเงินคืนได้ ความทุกข์ยากของผู้คนในหมู่บ้านจึงผ่านพ้นไปดังคำที่หมอดูได้ทำนายเอาไว้ และแล้ว…เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงอย่างมีความสุข
#นิทานนำบุญ
…………………………………………….
