ในช่วงชีวิตของคนเรา มักต้องเผชิญกับเรื่องราวหลากหลาย ทั้งสุข ทุกข์ และความผิดหวัง บางครั้งสิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้เรารู้สึกหมดกำลังใจ ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ หรือแม้กระทั่งจมอยู่กับความเศร้าจนไม่อยากก้าวเดินต่อไป สำหรับบางคน ความทุกข์นั้นหนักหนาถึงขั้นกลายเป็นโรคซึมเศร้า แต่แม้ในวันที่แย่ที่สุด สิ่งเล็ก ๆ อย่าง กำลังใจ ความห่วงใย และความรักจากใครบางคน ก็สามารถเป็นพลังสำคัญที่ช่วยประคับประคองหัวใจของเราได้
นิทานก่อนนอนเรื่องนี้ เป็น นิทานอบอุ่นหัวใจ ที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ตั้งใจเขียนขึ้น เพื่อมอบเป็น นิทานให้กำลังใจสำหรับคนท้อแท้หรือรู้สึกไร้ค่า ให้รู้ว่า “เรายังเป็นที่รักของใครบางคน” อยู่เสมอ แม้ในวันที่เราไม่มั่นใจในตัวเอง
หากวันใดรู้สึกเหนื่อยล้า ลองยิ้มให้กับตัวเองเบา ๆ ใช้มือขวาลูบแขนซ้าย และใช้มือซ้ายลูบแขนขวาเหมือนจะบอกกับตัวเองว่า “ฉันก็รักเธอเหมือนกัน” หรือหาตุ๊กตานุ่ม ๆ มากอด แล้วส่งความรักให้เขา คุณจะพบว่า ความรักและความอบอุ่นจะค่อย ๆ ไหลย้อนกลับมาหาคุณเอง ยิ่งเรารู้จักรักและเมตตาตัวเองมากเท่าไร เราก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความรักจากรอบตัวมากขึ้นเท่านั้น
ขอให้ทุกคนที่ได้อ่านนิทานเรื่องนี้ ผ่านช่วงเวลาที่แย่ ๆ ไปให้ได้ และอย่าลืมโดยเด็ดขาดว่า…
“เรายังเป็นที่รักของใครบางคน” อยู่จริง ๆ
เรามาอ่านนิทานเรื่อง “เรายังเป็นที่รักของใครบางคน” ด้วยกันนะครับ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีแผงขายตุ๊กตามือสองแบกะดินแผงหนึ่ง เต็มไปด้วยตุ๊กตาเก่า ๆ ที่ถูกเจ้าของเดิมทอดทิ้ง ตุ๊กตาแต่ละตัวดูมอมแมม, ปุปะ แต่ก็ยังเหลือเค้าความน่ารักอยู่

วันหนึ่ง มีตุ๊กตาตัวหนึ่งมีหูเพียงข้างเดียว มันถูกเจ้าของร้านนำมารวมกับตุ๊กตาตัวอื่น ๆ ในแผง เจ้าหูเดียวเพิ่งถูกทิ้งมาหมาด ๆ มันจึงเสียใจมากและร้องไห้ตลอดเวลาอย่างน่าสงสาร

คืนนั้น มีคนเดินผ่านแผงตุ๊กตาเต็มไปหมด แต่ไม่มีใครสนใจตุ๊กตาเก่า ๆ, ตุ๊กตามือสองหรือตุ๊กตาชำรุดเลยแม้แต่คนเดียว
ครั้นพอเจ้าของร้านเก็บร้าน บรรยากาศก็ค่อย ๆ เงียบลง ๆ เหลือเพียงแค่เสียงของเจ้าหูเดียวเท่านั้นที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด
“ทำไมต้องทิ้งฉันด้วยนะ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่ารักกัน พอฉันเก่าก็ไม่มีค่าแล้วเหรอ” เจ้าหูเดียวรำพึงรำพัน “ฉันยังอยากเป็นที่รักของใครสักคนอยู่นะ”
ในขณะที่เจ้าหูเดียวร้องไห้คร่ำครวญ จู่ ๆ ก็มีเสียงเล็ก ๆ ดังแว่วมาว่า “เธอจ๊ะเธอจ๋า หันมามองทางนี้หน่อย” เมื่อเจ้าหูเดียวหันไปมอง มันก็เห็นตุ๊กตาตัวหนึ่งส่งตาหวานและยิ้มให้มัน “สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อว่าตาหวาน ฉันเองก็ถูกทิ้งมาเหมือนกัน อย่าร้องไห้ไปเลย เธอยังเป็นที่รักของใครบางคนอยู่นะ”
ไม่ทันที่เจ้าหูเดียวจะหายแปลกใจ จู่ ๆ ก็มีเสียง ๆ หนึ่งดังมาจากที่ใกล้ ๆ “สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อปากจู๋” พูดเสร็จ ตุ๊กตาที่ชื่อปากจู๋ก็หอมจุ๊บเข้าที่แก้มของเจ้าหูเดียว “ยินดีต้อนรับนะ อย่าร้องไห้ไปเลย เธอยังเป็นที่รักของใครบางคนอยู่นะ” พอฟังจบ เจ้าหูเดียวก็ยิ้มพร้อมกับรู้สึกว่าหน้าของมันอุ่น ๆ อย่างประหลาด
แต่ก่อนที่เจ้าหูเดียวจะตั้งตัวได้ จู่ ๆ ก็มีใครบางคนพูดเสียงทุ้ม ๆ ว่า “สวัสดีจ้ะ ฉันชื่อฮักนะ” พูดจบ เจ้าฮักซึ่งเป็นตุ๊กตาตัวใหญ่ขนปุกปุย (แต่ออกจะดูมอมแมมไปสักหน่อย) ก็รวบตัวเจ้าหูเดียวเข้ามาในอ้อมอก พร้อมกับกอดเจ้าหูเดียวอย่างแนบแน่นด้วยความรัก ฮักบอกว่า “อย่าร้องไห้ไปเลย ยิ้ม ๆ เข้าไว้ เพราะเธอยังเป็นที่รักของใครบางคนอยู่นะ”
นอกจากตุ๊กตาทั้งสามตัวแล้ว ตุ๊กตาตัวอื่น ๆ ก็ต้อนรับเจ้าหูเดียวเหมือนกัน บางตัวก็ลูบเนื้อลูบตัวเจ้าหูเดียวเบา ๆ, บางตัวแอบหอมเจ้าหูเดียวดังจุ๊บ, บางตัวร้องเพลงให้เจ้าหูเดียวฟัง, บางตัวก็ชวนคุยให้หายเหงา, บางตัวเลือกที่จะเอาหัวอิงใกล้ ๆ แม้จะไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ แต่ทั้งหมดทำให้เจ้าหูเดียวรู้สึกได้ว่า มันยังคงมีเพื่อนและยังเป็นที่รักของใครบางคนอยู่
การรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นที่รักของใครบางคนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การสัมผัส, ส่งยิ้ม,โอบกอดหรือพูดคุยด้วย เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทำให้คนอื่นรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไรต่อเขาและเขายังเป็นที่รักของใครบางคนอยู่

เมื่อเจ้าหูเดียวได้สติ มันก็น้ำตาไหลด้วยความซาบซึ้งและรู้สึกขอบคุณเพื่อนตุ๊กตาที่มอบมิตรภาพอันแสนวิเศษให้มัน
ณ เวลานี้ เจ้าหูเดียวรู้แน่ชัดแล้วว่าการเป็นที่รักของใครสักคนสำคัญมากเพียงไร มันจึงตั้งใจจะเข้มแข็งและทำหน้าที่มอบความรักให้แก่คนที่ต้องการบ้าง
เพราะการได้รู้ว่า เรายังเป็นที่รักของใครบางคน…เป็นสิ่งที่มีค่า…มากเหลือเกิน

#นิทานนำบุญ
………………………………….
