ค่าลิขสิทธิ์และค่าจ้าง

สวัสดีครับ… ตลอด 8-9 ปีที่ผมทำเว็บไซต์นิทานนำบุญ ผมไม่เคยแจ้งเรื่อง “อัตราค่าลิขสิทธิ์” หรือ “ค่าจ้าง” เกี่ยวกับงานนิทานของผม ให้ผู้อ่านได้ทราบเลย เพราะความตั้งใจแรกของการทำเว็บไซต์นิทานนำบุญ คือผมอยากให้ครอบครัวที่มีเด็ก มีแหล่งรวมนิทานดี ๆ ไว้อ่าน (ไม่ได้คิดจะทำในเชิงธุรกิจ)

แต่หลังจากประสบปัญหาถูกละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวนมาก ผมเห็นว่าการแจกแจงค่าลิขสิทธิ์ หรือ ค่าจ้างของตัวเอง คงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะข้อมูลเหล่านี้จะทำให้ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ได้รู้ว่า ผลงานของผมและค่าจ้างของผมมีราคาค่อนข้างสูง การนำไปใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาตจึงเสี่ยงมากที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายในอัตราที่สูง (และมีโทษอาญา) การซื้อลิขสิทธิ์หรือจ้างทำงานจะเป็นวิธีที่ประหยัดและปลอดภัยกว่า

……………………………………………………………………………………………………………………..

ค่าลิขสิทธิ์

การซื้อลิขสิทธิ์นิทานนำบุญ 1 เรื่อง เพื่อนำไปใช้พิมพ์เป็นหนังสือภาพ มีอัตราค่าลิขสิทธิ์อยู่ที่ เรื่องละ 33,000 บาท (อ้างอิงจากค่าลิขสิทธิ์ของหนังสือนิทานชุดสุดท้ายที่เคยทำ เมื่อราว 10 ปีก่อน) ซึ่งค่าลิขสิทธิ์เฉลี่ยจะอยู่ที่ 5 บาท 50 สตางค์ ต่อ 1 การใช้งาน (การพิมพ์หนังสือ 1 เล่ม ผู้พิมพ์จะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ผมเล่มละ 5 บาท 50 สตางค์)

ปัจจุบัน ผมไม่มีโครงการที่จะขายลิขสิทธิ์นิทานเพื่อให้นำไปใช้พิมพ์เป็นหนังสือ เพราะผมตั้งใจจะขายลิขสิทธิ์นิทานแบบเหมารวมทุกเรื่อง เป็นสัญญาระยะยาว (ราว 10 ปี) เพื่อให้ผู้ซื้อลิขสิทธิ์ได้นำนิทานไปสร้างสื่อต่าง ๆ ตามที่เห็นสมควร โดยมีระยะเวลามากพอที่จะสร้างผลกำไร

การซื้อลิขสิทธิ์นิทานนำบุญแบบเหมา 400 เรื่อง (ย้ำว่าเป็นแบบเหมา) มีอัตราค่าลิขสิทธิ์อยู่ที่ เรื่องละ ……… บาทต่อปี โดยเป็นสัญญาระยะยาว 10 ปี (รายละเอียดต้องตกลงกันอีกครั้ง)

การซื้อลิขสิทธิ์งานเพลง ค่าลิขสิทธิ์ขึ้นกับรูปแบบการนำไปใช้งาน (รายละเอียดต้องตกลงกันอีกครั้ง)

…………………………

ค่าจ้าง

การจ้างแต่งนิทานเรื่องใหม่ โดยลิขสิทธิ์เป็นของผู้จ้าง (เรียกว่า การขายสิทธิ์ขาด) อัตราค่าจ้างอยู่ที่ เรื่องละ 50,000 บาท (อ้างอิงจากอัตราที่ได้รับการเสนอให้ จากการแต่งนิทานเรื่อง “โตขึ้นฉันจะเป็นเด็ก”)

………..

การจ้างงานในบทบาทวิทยากรหรืออาจารย์พิเศษ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับ “การแต่งนิทานและการคิดสร้างสรรค์หนังสือภาพสำหรับเด็ก” ค่าจ้างเริ่มต้นอยู่ที่ 8,000 บาท (พิจารณารับงานตามความเหมาะสม เนื่องจากข้อจำกัดด้านสุขภาพ)

ค่าปรับเมื่อพบการละเมิดลิขสิทธิ์

เนื่องจากอาชีพนักเขียน มีรายได้จากค่าจ้างและค่าลิขสิทธิ์ เมื่อมีผู้นำผลงานไปใช้โดยไม่ได้จ้าง ผู้นำไปใช้จึงต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ไม่น้อยกว่าอัตรามาตรฐาน แต่เนื่องจากผมไม่ได้ขายลิขสิทธิ์เพื่อให้นำไปใช้ในสื่อออนไลน์ การขโมยไปใช้จึงคิดค่าปรับโดยอ้างอิงจากค่าลิขสิทธิ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ บวกค่าชดเชยเพิ่มเติม หรือหากยอดวิวมาก ก็จะคิดตามยอดวิวที่ปรากฎ

อธิบายให้ชัดเจนขึ้น คือ เมื่อมีคนนำนิทาน 1 เรื่องไปใช้งานแบบละเมิดลิขสิทธิ์ หากผมพบ บุคคลนั้นจะต้องเสียเงินเริ่มต้นที่ 33,000 บาทต่อการนำนิทานไปใช้ 1 เรื่อง (ราคาเท่ากับผู้ซื้อลิขสิทธิ์อย่างถูกต้อง เพราะหากคิดราคาต่ำกว่านี้ จะไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องอีกเลย) แต่หากการนำไปใช้ มียอดวิวหรือยอดการใช้งานสูง มูลค่าการนำไปใช้งานก็จะสูงตาม เสมือนบุคคลนั้นซื้อลิขสิทธิ์ไปพิมพ์หนังสือที่มียอดพิมพ์มาก ค่าลิขสิทธิ์ก็จะแปรผันตามยอดการนำไปใช้งานนั่นเอง

ดังนั้น อย่าละเมิดลิขสิทธิ์เลยครับ ไม่คุ้มเลย

…………

สรุป : นิทานและผลงานต่าง ๆ ที่ผมทำ สามารถอ่านหรือฟังได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายผ่านทางเว็บไซต์และช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ที่ผมได้ทำเอาไว้ (ซึ่งจะยุติการเผยแพร่ราวเดือนสิงหาคม 2568)

การซื้อลิขสิทธิ์หรือการจ้างงานในรูปแบบอื่น ๆ มีอัตราค่าลิขสิทธิ์และค่าจ้างในเบื้องต้นตามที่แจ้งไว้

การละเมิดลิขสิทธิ์จะมีการคิดค่าเสียหายสูงกว่าการซื้อลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องและมีโทษทางอาญา

#นิทานนำบุญ