นิทานก่อนนอนเรื่อง แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ถือเป็นหนึ่งในนิทานฝรั่งสุดคลาสสิกที่ครองใจเด็กทั่วโลกมายาวนาน โดยมีต้นกำเนิดจากนิทานพื้นบ้านของอังกฤษซึ่งเล่าขานกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 นักวิชาการหลายคนมองว่า นิทานแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ หรือที่บางครั้งเรียกว่า นิทานแจ็คปีนต้นถั่ว นั้น เป็นหนึ่งใน นิทานเด็ก ที่ช่วยปลูกฝังความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น และความกตัญญูได้อย่างแยบยล ถือเป็น นิทานสอนใจ ที่เหมาะแก่การเล่าก่อนนอนอย่างยิ่ง สำหรับคุณพ่อคุณแม่ การอ่าน นิทานกล่อมเด็ก เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย แต่ยังเป็นการสอดแทรก นิทานมีข้อคิด ผ่านเรื่องราวที่สนุกสนาน สื่อความหมายเชิงบวก โดยเนื้อหาฉบับนี้เป็น นิทานภาษาไทย แปลและเรียบเรียงให้อ่านง่าย เหมาะสำหรับเด็กเล็กทุกวัย และยังจัดอยู่ในกลุ่ม นิทานสั้นสำหรับเด็ก ที่คุณสามารถอ่านจบได้ภายในเวลาไม่นานก่อนเข้านอน
มาอ่านนิทานเรื่อง “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” กันเถอะ…
เรื่องของเรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อกาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขาชื่อว่าแจ็ค แจ็คอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ กับแม่ของเขา ครอบครัวของแจ็คมีฐานะยากจนมาก คุณแม่จึงต้องทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว แจ็ครักและเป็นห่วงคุณแม่มาก ดังนั้น เขาจึงพยายามทำตัวเป็นเด็กดี และพยายามทำงานบ้านทุก ๆ อย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อแบ่งเบาภาระของคุณแม่ให้ได้มากที่สุด
อยู่มาวันหนึ่ง คุณแม่ขอให้แจ็ค ช่วยนำวัวตัวสุดท้ายของครอบครัวไปขายที่ตลาด เพราะในตอนนี้ ที่บ้านของแจ็คแทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย แต่เมื่อแจ็คนำวัวตัวสุดท้ายซึ่งเป็นวัวที่ตัวผอมมาก ๆ ไปขายที่ตลาด ชาวบ้านก็ไม่มีใครเลยที่จะสนใจวัวตัวนี้เพราะมันผอมมากเกินไป
ในขณะที่แจ็คกำลังจะหมดหวัง จู่ ๆ ก็มีชายชราคนหนึ่งเดินตรงเข้ามาหาแจ็ค ชายชราคนนี้มีเมล็ดถั่วหลากสีอยู่ในมือ ชายชราถามแจ็คว่า “เจ้าจะขายวัวผอม ๆ ตัวนี้ไปทำไม” แจ็คจึงบอกกับชายชราว่า “ผมเป็นเด็กกำพร้าพ่อ แม่ของผมทำงานหนักทุกวัน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงผมครับ แต่ตอนนี้ บ้านของผมแทบจะไม่มีเงินเหลืออยู่เลย คุณแม่ก็เลยให้ผมเอาวัวมาขาย แต่นี่ผมขายวัวไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่ากลับไปแล้วคุณแม่จะเสียใจมากแค่ไหน” เมื่อชายชราได้ฟังแจ็คเล่า ชายชราก็นึกสงสาร เขาจึงบอกกับแจ็คว่า “เอ้อ เมล็ดถั่วที่เจ้าเห็นอยู่ในมือเนี่ยนะ มันไม่ใช่เมล็ดถั่วธรรมดา แต่มันเป็นเมล็ดถั่ววิเศษ ที่อาจทำให้ครอบครัวของเจ้า มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็ได้นะ ถ้าเจ้าเชื่อใจคนแก่อย่างชั้น ชั้นยอมขาดทุน แลกถั่ววิเศษกับวัวผอม ๆ ของเจ้า เจ้าจะตกลงมั๊ย”
เมื่อแจ๊คได้ยินถ้อยคำของชายชรา เขาก็ตัดสินใจแลกวัวกับถั่ววิเศษเหล่านั้น โดยหวังว่าถั่ววิเศษจะทำให้ครอบครัวของเขา มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้จริง ๆ
แต่อนิจจา เมื่อแจ็คนำถั่วกลับมาให้แม่ดู พร้อมกับเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง แทนที่แม่จะดีใจ แม่ของแจ็คกลับโกรธจัด ที่ลูกชายหลงเชื่อคำพูดของชายชราที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แม่ของแจ็ค ขว้างถั่วทั้งหมดออกไปนอกหน้าต่าง จากนั้น แม่ก็ร้องไห้ แล้วไล่แจ๊คให้เข้านอนทันที
คืนนั้น แจ็คนอนไม่หลับเลย เพราะเขาเสียใจที่ทำให้แม่ผิดหวัง วันรุ่งขึ้น แจ็คจึงรีบตื่นนอนแต่เช้า โดยเขาตั้งใจ ที่จะทำงานบ้านต่าง ๆ เพื่อลบล้างความผิด
แต่เมื่อแจ็คเดินลงจากห้องนอนมาที่ห้องครัว แล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาก็ต้องตกตะลึง เพราะที่นอกหน้าต่าง มีต้นถั่วขนาดใหญ่ยักษ์งอกจากพื้น แล้วแทงยอดทะลุขึ้นไปถึงดินแดนบนก้อนเมฆที่อยู่บนฟากฟ้า เมื่อแจ็คเห็นต้นถั่ว เขาก็นึกถึงถั่ววิเศษที่แม่ขว้างออกไปนอกหน้าต่างเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมกับนึกถึงคำพูดของชายชราที่บอกว่า “เมล็ดถั่วที่เจ้าเห็นอยู่ในมือเนี่ย มันไม่ใช่เมล็ดถั่วธรรมดา แต่มันเป็นเมล็ดถั่ววิเศษ ที่อาจทำให้ครอบครัวของเจ้า มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็ได้นะ”
ต้นถั่วขนาดใหญ่มหึมาที่อยู่นอกหน้าต่าง ซึ่งงอกขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ในชั่วเวลาเพียงแค่ข้ามคืนเดียว ทำให้แจ็คมั่นใจว่า ชายชราไม่ได้หลอกลวงเขา แจ็คจึงตัดสินที่จะปีนต้นถั่วขึ้นไปยังดินแดนบนก้อนเมฆ เผื่อว่า ณ ดินแดนแห่งนั้นอาจมีบางสิ่งบางอย่าง ที่ช่วยให้เขากับแม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้จริง ๆ
แจ็ครีบปีนต้นถั่วขึ้นไปก่อนที่แม่ของเขาจะตื่นนอน เขาปีน ปีน แล้วก็ปีน ปีน ปีน แล้วก็ปีน เขาปีนไม่ยอมหยุด แม้ต้นถั่วจะสูงมาก แต่ความพยายามของแจ็คมีสูงกว่า ในที่สุด แจ็คก็ปีนต้นถั่วไปถึงดินแดนบนก้อนเมฆได้สำเร็จ
ณ ดินแดนบนก้อนเมฆ แจ็คมองเห็นปราสาทของยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า แจ็คลังเลใจนิดหน่อย ก่อนที่จะตัดสินใจเดินตรงไปสำรวจในตัวปราสาท
ระหว่างที่แจ็คกำลังสำรวจในตัวปราสาท เขาได้พบกับหญิงชราคนหนึ่ง ที่มีหน้าที่ดูแลปราสาทให้เจ้ายักษ์ เมื่อหญิงชราเห็นแจ็ค หญิงชราก็แปลกใจ ที่มีเด็กหลงเข้ามาในปราสาทเช่นนี้ แต่เมื่อแจ็คเล่าเรื่องราวชีวิตของเขากับแม่ให้หญิงชราฟัง รวมทั้งเล่าเหตุผลว่า เขาปีนต้นถั่วขึ้นมา เพื่อค้นหาบางสิ่งบางอย่างที่อาจทำให้เขากับแม่ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หญิงชราก็สงสาร แต่ในขณะเดียวกัน หญิงชราก็เป็นห่วงแจ็ค เธอจึงเตือนให้แจ็ครีบกลับบ้าน ก่อนที่เจ้ายักษ์ซึ่งเป็นเจ้าของปราสาทจะมาเห็นตัวเข้า
ในขณะที่แจ็คตั้งท่าจะกลับบ้าน จู่ ๆ พื้นปราสาทก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ซึ่งนั่นหมายความว่า เจ้ายักษ์กำลังเดินมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งเป็นบริเวณที่แจ็คกับหญิงชรากำลังคุยกันอยู่ หญิงชราเห็นท่าไม่ดี นางจึงให้แจ็คไปซ่อนตัวในตู้เก็บถ้วยชาม ครั้นเมื่อเจ้ายักษ์มานั่งที่โต๊ะอาหาร มันก็ทำจมูกฟุดฟิด ๆ เพราะได้กลิ่นที่แตกต่างไปจากทุกวัน เมื่อยักษ์เอ่ยปากว่า มันได้กลิ่นเนื้อหอม ๆ ของมนุษย์ หญิงชราก็แก้ต่างว่า นั่นคือกลิ่นของเนื้อวัวที่เตรียมไว้ทำเนื้อย่างให้ยักษ์กินต่างหาก เพราะมนุษย์ที่ไหนจะขึ้นมายังดินแดนบนก้อนเมฆได้ คำพูดของหญิงชรามีเหตุผล เจ้ายักษ์จึงหลงเชื่อ มันจึงสั่งให้หญิงชรานำเนื้อย่างกับเหล้าองุ่นมาให้กิน
ครั้นเมื่อเจ้ายักษ์กินเนื้อย่างจนอิ่ม มันก็สั่งให้พิณวิเศษบรรเลงเพลงให้มันฟัง จากนั้น มันก็นำกรงของแม่ไก่ตัวหนึ่งมาวางไว้บนโต๊ะ แจ็คมองดูแม่ไก่ในกรงด้วยความประหลาดใจ แจ็คไม่รู้ว่าทำไมเจ้ายักษ์จึงนำกรงไก่มาวางไว้บนโต๊ะ แต่ทันทีที่เจ้ายักษ์สั่งให้แม่ไก่ออกไข่ แล้วแม่ไก่ก็เบ่งไข่ทองคำออกมา แจ็คก็รู้ในทันทีว่า นี่คือแม่ไก่ในตำนาน ที่สามารถออกไข่เป็นทองคำได้วันละ 1 ฟองนั่นเอง
เมื่อเจ้ายักษ์เห็นไข่ทองคำฟองใหม่ มันก็หยิบไข่ทองคำฟองนั้น ใส่เข้าไปในถุงสมบัติที่มันมีอยู่ เจ้ายักษ์มีความสุขที่ได้เก็บสะสมไข่ทองคำเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ มันดื่มเหล้าองุ่นเคล้ากับเสียงพิณ พร้อมกับนั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างสบายอารมณ์อยู่นาน ครั้นเมื่อหนังท้องของมันเริ่มตึง หนังตาของมันก็เริ่มหย่อน ในที่สุด เจ้ายักษ์ก็เผลอหลับไป
เมื่อหญิงชราเห็นว่าเจ้ายักษ์หลับสนิทดีแล้ว หญิงชราก็แอบไปกระซิบให้แจ็ครีบหนีกลับบ้าน แต่ก่อนที่แจ็คจะย่องออกจากตัวปราสาท หญิงชราได้นำไก่ที่ออกไข่เป็นทองคำมาให้แจ็ค โดยหญิงชราบอกว่า บางทีไก่ตัวนี้ อาจทำให้แจ็คกับแม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็เป็นได้
ในตอนแรก แจ็คมีทีท่าว่าจะไม่รับไก่เอาไว้ แต่เมื่อหญิงชราบอกว่า แต่เดิมไก่ตัวนี้เป็นไก่ของนางเอง นางจึงมีสิทธิ์จะยกไก่ให้ใครก็ได้ ด้วยเหตุนี้ แจ็คจึงไม่ปฏิเสธน้ำใจของหญิงชรา และหลังจากที่แจ็คกล่าวขอบคุณหญิงชราแล้ว เขาก็รีบย่องออกจากปราสาท ก่อนที่เจ้ายักษ์จะตื่นมาเห็นเข้า
แต่อนิจจา ในขณะที่แจ็คมุ่งหน้าเกือบจะถึงต้นถั่ววิเศษ จู่ ๆ ผืนเมฆที่แจ็คเหยียบย่างก็สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น ซึ่งนั่นหมายความว่า เจ้ายักษ์ตื่นแล้ว แล้วมันกำลังจะตามมาจับตัวแจ็ค
แจ็คตกใจ แต่เขารีบตั้งสติ เขารีบก้าวย่าง แล้วปีนตามต้นถั่วลงมาอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะหนีเจ้ายักษ์ให้ได้ เมื่อยักษ์ตามมาถึงต้นถั่ว และเห็นว่าแจ็คปีนลงไปพร้อมกับนำแม่ไก่ที่ออกไข่เป็นทองคำไปด้วย มันก็โกรธจัด จากนั้น มันก็รีบปีนตามแจ็คลงไปอย่างไม่รีรอ
แจ็คปีนลงไป เจ้ายักษ์ปีนตาม แจ็คปีนลงไป เจ้ายักษ์ปีนตาม แจ็ครีบปีนลงไปเร็วขึ้น เจ้ายักษ์ก็รีบปีนตามลงไปเร็วขึ้น เมื่อแจ็คไปถึงพื้นดิน เจ้ายักษ์ก็ยังคงปีนตามลงไปโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
แจ็คมองไปที่ยักษ์ เขากลัวว่าเดี๋ยวพอยักษ์ลงมา มันอาจทำร้ายแม่เขาได้ ดังนั้น แจ็คจึงตัดสินใจ รีบคว้าเอาขวานที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วจัดการฟัน “ฉับ ฉับ ฉับ” อย่างสุดแรง เพียงอึดใจเดียว ต้นถั่วก็ล้มลง และทำให้เจ้ายักษ์ตกลงมาหัวปักพื้น หมดลมหายใจทันที
ในที่สุด แจ็คก็รอดพ้นจากเงื้อมือของเจ้ายักษ์ เมื่อแจ็คได้พบกับแม่ เขาก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้คุณแม่ฟัง จากนั้น เขาก็มอบไก่ที่ออกไข่เป็นทองคำให้กับแม่เป็นผู้ดูแล นับจากนั้นเป็นต้นมา ทุก ๆ เช้า คุณแม่กับแจ็คก็จะบอกให้เจ้าไก่ออกเป็นทองคำให้ แล้วจากนั้นทั้งคู่ก็นำเอาไข่ไปขาย และทำให้พวกเขาได้เงินมาใช้จ่าย รวมทั้งทำให้พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้จริง ๆ
ข้อคิดจากนิทานเรื่องนี้ :
- คนตัวเล็กก็ทำเรื่องยิ่งใหญ่ได้ ถ้าไม่ยอมแพ้
- สติปัญหาและความฉลาด สำคัญกว่าพละกำลัง
- ความดีและความกล้าหาญ จะพาเราไปสู่ความสำเร็จ
………………………………………………………………………………………………………….
เมื่ออ่านนิทานเรื่องแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ที่เขียนตามนิทานอมตะในอดีตกันแล้ว ถ้าใครอยากอ่านนิทานภาคต่อของแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ก็ลองอ่านนิทานเรื่อง แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ภาค 2 กันได้ตามลิงค์ต่อไปนี้นะครับ นิทานเรื่อง แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ภาค 2 (โจรป่ากับต้นถั่ววิเศษ) ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะครับ

ขอบคุณสำหรับนิทานดีๆครับ
LikeLike
ขอบคุณที่เขียนนิทานที่ดีขนาดนี้ออกมานะคะ นิทานเนื้อเรื่องดีมากซื่อถึงตัวละครได้ดีมาก อ่านแล้วไม่งง ชอบที่ตัวละครเเจ็คเป็นเด็กดี เวลาที่เล่าให้เด็กๆฟังมันมีคำสอนแฝงให้เด็กเข้าใจ มีคำเตือน รวมๆคือโอเคมากๆ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
LikeLike
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ
LikeLike