นิทานก่อนนอนเรื่องสั้น ๆ เรื่อง “เด็กผู้หญิงแห่งความสุข” เป็นนิทานในยุคแรก ๆ ที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) เพิ่งเริ่มแต่งนิทานให้นิตยสารขวัญเรือนได้ไม่นานนัก นิทานเรื่องนี้ มีจุดเริ่มต้นจากชื่อตัวละคร ที่ผมตั้งใจนำชื่อของลูกพี่ลูกน้อง (ลูกครึ่งเกาหลี) ซึ่งเป็นลูกของน้าสาว มาใช้เป็นชื่อตัวละครหลักในเรื่อง คือ มิมิ และ ปิงปิง (แม้เราจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ผมอายุมากกว่าน้อง ๆ เยอะ) เมื่อได้ชื่อตัวละครแล้ว ผมจึงค่อยแต่งเรื่องราวเป็นนิทาน โดยนิทานในยุคแรก ๆ ที่แต่ง ส่วนใหญ่เนื้อเรื่องที่สดใสมาก และมักเป็นนิทานก่อนนอนสั้น ๆ ที่อ่านจบได้ในเวลาไม่นานนัก ผมหวังว่านิทานเรื่องนี้จะทำให้ผู้อ่านยิ้มและนอนหลับฝันดีนะครับ
นิทานเรื่อง เด็กผู้หญิงแห่งความสุข
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กผู้หญิงแสนดีคนหนึ่งชื่อว่ามิมิ มิมิเป็นเด็กที่น่ารักน่าเอ็นดู เธอพูดแต่ถ้อยคำที่อ่อนหวาน คิดแต่เรื่องที่ดีงาม และทำทุก ๆ อย่างเพื่อให้คนรอบข้างมีความสุข ความสุขของมิมิคือการทำให้ทุก ๆ คนมีความสุข ดังนั้น ทุก ๆ คนจึงมีความสุขเมื่อได้อยู่ใกล้กับมิมิ
เมื่อถึงวันคล้ายวันเกิดของมิมิ นางฟ้าใจดีนึกอยากจะทำให้เด็กน้อยแสนดีมีความสุขบ้าง ด้วยเหตุนี้ นางฟ้าจึงมอบดินสอวิเศษให้แก่มิมิหนึ่งแท่ง
ดินสอวิเศษของนางฟ้าเป็นดินสอมหัศจรรย์ ถ้ามิมิอยากได้อะไรเป็นของขวัญ เพียงแค่มิมิวาดภาพสิ่งนั้นลงในกระดาษ ฉับพลัน! สิ่งที่มิมิวาดก็จะกลายเป็นจริงขึ้นมาราวกับมีปาฏิหาริย์ นางฟ้าดีใจที่ได้มอบของขวัญให้แก่มิมิ แต่มิมิกลับกลุ้มใจ เพราะเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะวาดอะไรให้ตัวเองดี
มิมิถามปิงปิงน้องชายว่า เธอควรวาดภาพอะไรมากที่สุด ปิงปิงนิ่งคิด แล้วบอกกับพี่สาวว่า ถ้าเป็นเขา…เขาคงวาดภาพกระต่ายขาวขนปุยสักคู่หนึ่ง มิมิรู้ดีว่าปิงปิงชอบกระต่ายขาวมากที่สุด เธอเองก็ชอบกระต่ายขาวไม่แพ้น้องชาย แต่ความสุขของมิมิคือการทำให้คนรอบข้างมีความสุข ดังนั้น มิมิจึงวาดภาพกระต่ายน้อยบ่าวสาวด้วยดินสอวิเศษ แล้วมอบกระต่ายขาวขนปุยทั้งสองตัวให้แก่ปิงปิงด้วยความรัก
มิมิไปถามโมเมเพื่อนสนิทว่าเธอควรวาดภาพอะไรมากที่สุด โมเมนิ่งคิด แล้วบอกกับมิมิว่า ถ้าเป็นเธอ…เธอคงวาดภาพหมีแพนด้าที่แสนน่ารักสักตัวสองตัว มิมิรู้ดีว่าโมเมชอบหมีแพนด้ามากที่สุด ดังนั้น มิมิจึงวาดภาพหมีแพนด้าคู่รักด้วยดินสอวิเศษ จากนั้น เธอก็มอบหมีแพนด้าที่แสนน่ารักให้แก่โมเมเป็นของขวัญ
มิมิไปถามคุณลุงกับคุณป้าว่าเธอควรวาดภาพอะไรมากที่สุด คุณลุงกับคุณป้าซึ่งเป็นเจ้าของสวนผลไม้จึงช่วยกันคิด จากนั้น ทั้งคู่ก็บอกกับมิมิว่า ถ้าเป็นพวกเขา…พวกเขาคงวาดภาพยีราฟคอยาวเพื่อเอาไว้ขี่เก็บผลไม้ในสวน มิมิรู้ดีว่าคุณลุงกับคุณป้าอยากได้ยีราฟมากที่สุด เธอเองก็ชอบยีราฟไม่น้อยไปกว่าท่านทั้งสอง แต่ความสุขของมิมิคือการทำให้คนรอบข้างมีความสุข ดังนั้น มิมิจึงวาดยีราฟให้คุณลุงกับคุณป้าคนละหนึ่งตัว
มิมิเที่ยวถามใครต่อใครว่าเธอควรวาดอะไรมากที่สุด แต่เพราะความสุขของมิมิคือการทำให้คนรอบข้างมีความสุข ดังนั้น มิมิจึงต้องวาดภาพสัตว์ต่าง ๆ ให้คนนู้นคนนี้จนดินสอวิเศษกุดจุ๊ดจู๋ ไม่เหลือไส้ดินสอพอให้เธอวาดอะไรให้แก่ตัวเองเลยแม้แต่อย่างเดียว
แม้มิมิจะไม่มีอะไรมอบให้แก่ตัวเองเป็นของขวัญ แต่เด็กน้อยกลับชื่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ทำให้คนรอบข้างมีความสุขในวันเกิดของเธอ มิมินึกขอบคุณนางฟ้าที่มอบดินสออันแสนวิเศษให้แก่เธอในวันแห่งความสุขเช่นนี้ และหนึ่งปีหลังจากนั้น ผู้คนที่ได้รับของขวัญจากมิมิก็ทำให้มิมิต้องแปลกใจ เมื่อพวกเขาพร้อมใจกันนำลูกของสัตว์ต่าง ๆ มามอบให้แก่มิมิเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนจิตใจอันดีงามของเด็กน้อยผู้เป็นที่รักของทุก ๆ คน มิมิมีความสุขมากที่ได้ลูกกระต่าย ลูกแพนด้า ลูกยีราฟ ฯลฯ มาเป็นเพื่อนเล่นกับเธอ และแน่นอนว่า…ลูกสัตว์ที่แสนน่ารักเหล่านั้นก็มีความสุขที่ได้มาอยู่ใกล้ ๆ กับเด็กที่มีจิตใจดีงามอย่างมิมิ และแล้ว…นิทานแห่งความสุขก็จบลงท่ามกลางความสุขของทุก ๆ คน
#นิทานนำบุญ
…………………………..

สนุกมากแถมนอนหลับผ่อนคลายอีกด้วยค่ะ
LikeLike
ดีใจที่ชอบนะครับ
LikeLike