นิทานก่อนนอนเรื่อง “กระต่ายน้อยวาดรูป” เป็นนิทานที่ผมแต่งในช่วงที่ผมเข้าวัดปฏิบัติธรรมได้ระยะหนึ่ง ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงปีท้าย ๆ ของการเขียนนิทานให้นิตยสารขวัญเรือน และเป็นช่วงที่ผมมีเวลาค่อนข้างจำกัดในการแต่งนิทานแต่ละเรื่อง (เนื่องจากมีภาระหลายอย่างที่ต้องจัดการในเวลานั้น) หลายปีต่อมา เมื่อผมนำนิทานเรื่องนี้มาลงในเพจนิทานนำบุญ ผมพบว่า มีผู้อ่านที่ชื่นชอบนิทานเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ดังนั้น ผมจึงอยากเชิญชวนให้ผู้อ่านในเว็บไซต์นิทานนำบุญ ลองอ่านนิทานที่น่ารัก อ่านง่ายและมีข้อคิดสอนใจเรื่องนี้ ผมหวังว่านิทานเรื่องนี้จะเป็นนิทานอีกเรื่องที่คุณ ๆ ชื่นชอบ
นิทานเรื่อง กระต่ายน้อยวาดรูป
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกระต่ายน้อยตัวหนึ่งเป็นกระต่ายที่ชอบวาดรูปมาก มันวาดรูปได้ทุกวันไม่เคยเบื่อ
วันหนึ่ง กระต่ายน้อยได้ข่าวจากวิทยุว่ามีการจัดประกวดวาดรูปครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งผู้ชนะจะได้บัตรเที่ยวสวนสนุก 4 ใบเป็นรางวัล
กระต่ายน้อยอยากได้รางวัลมาก เพราะมันต้องการไปเที่ยวสวนสนุกกับเพื่อน ๆ มันจึงตัดสินใจวาดรูปส่งเข้าประกวด
กระต่ายน้อยเริ่มต้นวาดรูปโดยคิดถึงรางวัลและชัยชนะเป็นที่ตั้ง มันนำกระดาษวางบนโต๊ะ แล้วลงมือวาด…วาด…แล้วก็วาด กระต่ายน้อยวาดรูปอย่างสุดฝีมือ แต่เมื่อมันวาดรูปเสร็จ รูปที่ออกมากลับดูไม่สวยเอาเสียเลย
แม้การวาดรูปครั้งแรกจะไม่ได้ผลสมดังใจ เจ้ากระต่ายน้อยก็ยังไม่สิ้นหวัง มันตั้งใจวาดรูปอีกครั้ง โดยนำกระดาษไปติดบนแท่นวาดรูปแบบมืออาชีพ
เจ้ากระต่ายน้อยสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พลางคิดถึงรางวัลที่รออยู่ จากนั้น มันก็ลงมือวาด…วาด…แล้วก็วาด เจ้ากระต่ายน้อยตั้งใจวาดรูปสุดชีวิต ครั้นเมื่อมันวาดรูปเสร็จ รูปที่มันวาดก็ยังไม่สวยอย่างที่มันคิด
เจ้ากระต่ายน้อยโมโหตัวเองมาก มันจัดแจงนำกระดาษไปวางที่พื้น แล้วลงไปนอนวาดรูปโดยคิดว่าถึงอย่างไรมันก็ต้องคว้ารางวัลและชัยชนะมาให้ได้
เจ้ากระต่ายน้อยตั้งใจวาดรูปจนมือไม้เกร็งไปหมด มันวาด…วาด…แล้วก็วาด แต่เมื่อมันวาดรูปเสร็จ รูปที่ออกมาก็กลับดูแย่ยิ่งขึ้นไปอีก
เจ้ากระต่ายน้อยร้องไห้แง ๆ ด้วยความสับสน มันไม่รู้ว่าฝีมือในการวาดรูปของมันหายไปไหน มันจึงได้แต่ร้องไห้…ร้องไห้….และร้องไห้
ในขณะที่เจ้ากระต่ายร้องไห้อยู่นั้น แมวเหมียว, หมูอู๊ดและหมาโฮ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนของเจ้ากระต่ายก็โผล่หน้ามาดูด้วยความเป็นห่วง
จริง ๆ แล้ว แมวเหมียว, หมูอู๊ดและหมาโฮ่งแอบดูเจ้ากระต่ายน้อยวาดรูปมาโดยตลอด แต่เนื่องจากพวกมันเห็นกระต่ายน้อยทำหน้านิ่วคิ้วขมวดขณะวาดรูป พวกมันจึงไม่กล้าทักทายหรือชวนคุยให้เสียสมาธิ
เมื่อแมวเหมียว, หมูอู๊ดและหมาโฮ่งเห็นกระต่ายน้อยร้องไห้ไม่ยอมหยุด แถมรูปวาดของเจ้ากระต่ายก็มีเส้นสายดูยุ่งเหยิงผิดปกติ พวกมันจึงพอจะเดาเรื่องราวทั้งหมดได้ แมวเหมียว, หมูอู๊ดและหมาโฮ่งจึงช่วยกันปลอบเจ้ากระต่ายน้อย “หินไม่แบกก็ไม่หนักนะ” แมวเหมียวพูด “ถ้าเธอมัวแต่แบกความกังวลเรื่องรางวัลหรือชัยชนะ เธอจะวาดรูปสวย ๆ ออกมาได้ยังไงล่ะจ๊ะ” หมูอู๊ดบอก “วาดรูปอย่างมีความสุข…แล้วความสุขจะปรากฎให้เห็นในรูปนะ” หมาโฮ่งแนะนำ
คำพูดของเพื่อน ๆ ทำให้กระต่ายน้อยตาสว่าง
กระต่ายน้อยปาดน้ำตาและขอบใจเพื่อน ๆ ที่ให้สติ จากนั้น มันก็เริ่มต้นวาดรูปใหม่อีกครั้ง ทั้งยังชวนเพื่อน ๆ ให้นั่งวาดรูปไปด้วยกัน
เมื่อกระต่ายน้อยวาดรูปด้วยความสบายใจ รูปที่ออกมาก็ดูสบายตาสบายใจตามไปด้วย
วันรุ่งขึ้น กระต่ายน้อยนำรูปที่วาดเสร็จแล้วส่งเข้าประกวด ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร เจ้ากระต่ายน้อยก็ไม่สนใจ เพราะมันได้รางวัลจากการวาดรูปไปแล้ว ซึ่งก็คือการมีความสุขในการวาดรูปนั่นเอง
#นิทานนำบุญ
……………………………….
