การที่เด็ก ๆ ไม่ค่อยชอบกินผัก เป็นปัญหาที่ทำให้หลาย ๆ ครอบครัวเป็นกังวล ในฐานะของนักเขียนนิทาน การแต่งนิทานเพื่อเชิญชวนให้เด็ก ๆ กินผักเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย แต่โชคดีที่ผมได้รู้ความลับเกี่ยวกับการกินผักให้อร่อยจากกระต่าย ผมจึงนำความลับนั้นมาแต่งเป็นนิทานเรื่องนี้ เพื่อแบ่งปันความลับนั้นให้ทุก ๆ คนได้รู้ครับ
นิทานเรื่อง คุณครูกับลูกสัตว์ทั้ง 6
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีคุณครูหนุ่มคนหนึ่งสอนหนังสืออยู่ในโรงเรียนประถมเล็ก ๆ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับชายป่า คุณครูเป็นคนใจดีมีเมตตา เขาชอบใช้เวลาว่างเข้าไปในป่า พร้อมกับนำอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปฝากลูกสัตว์ที่ยังหาอาหารกินเองไม่ได้
วันหนึ่ง ในช่วงเวลาที่คุณครูอยู่ที่โรงเรียน คุณครูสังเกตเห็นว่า เด็ก ๆ ที่กินอาหารกลางวันของโรงเรียนมักเลือกกินแต่อาหารที่ชอบ และเขี่ยอาหารที่ไม่ชอบทิ้งไว้ข้างจาน โดยเฉพาะอาหารจำพวกผักและผลไม้ คุณครูคิดว่าสิ่งที่พบเป็นปัญหาที่ต้องรีบแก้ไข เพราะการที่เด็ก ๆ ไม่ยอมกินผักและผลไม้ อาจทำให้เด็ก ๆ มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายและทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงอย่างที่ควรจะเป็น
หลังเลิกเรียนวันนั้น คุณครูจึงเข้าไปนั่งคิดวิธีแก้ปัญหาที่ลานกว้างกลางป่า โดยไม่ลืมนำอาหารติดมือไปด้วย
เมื่อสัตว์ต่าง ๆ เห็นคุณครูเดินมา พวกมันก็ดีใจ แต่เมื่อพวกมันได้ยินคุณครูหนุ่มรำพึงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ลูกกระต่าย 3 ตัวที่อยู่บริเวณนั้นกับลูกลิง 3 ตัวที่อยู่ไม่ไกลกันก็รีบล้อมวงปรึกษาหารือ แล้วอาสาขอไปช่วยคุณครูจัดการกับปัญหาโดยที่คุณครูไม่ทันร้องขอ
คุณครูเห็นความตั้งใจจริงของลูกสัตว์ทั้ง 6 ตัว คุณครูจึงยินยอมให้ลูกสัตว์ทั้ง 6 ช่วย
วันรุ่งขึ้น คุณครูจัดโต๊ะ 3 ตัวไว้เป็นที่ตักอาหารให้เด็ก ๆ ตามแผนที่ลูกสัตว์ทั้ง 6 ได้วางเอาไว้ โต๊ะตัวแรกเป็นโต๊ะที่คุณครูใช้ตักข้าวและกับข้าวเหมือนเช่นทุกวัน ส่วนโต๊ะตัวที่สอง คุณครูยกให้ลูกกระต่ายใช้เป็นที่ตักอาหารจำพวกผักโดยแยกใส่จานอีกจานหนึ่ง และโต๊ะตัวที่สามเป็นโต๊ะสำหรับลูกลิงที่เอาไว้ใช้แจกผลไม้เป็นของหวานปิดท้ายให้เด็ก ๆ
เมื่อเด็ก ๆ มาถึงโรงอาหาร เด็ก ๆ ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นกระต่าย 3 ตัวช่วยกันจัดอาหารจานผักไว้รอพวกเขาอย่างขมีขมัน ในขณะเดียวกัน พวกลูกลิงก็ทำท่าตลก ๆ พร้อมกับร้องเชิญชวนให้เด็ก ๆ ไปรับผลไม้ทั้งกล้วยและส้มที่พวกมันจัดเตรียมไว้ให้
เด็ก ๆ ทุกคนชอบอาหารกลางวันฝีมือของคุณครูเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ส่วนผลไม้ก็เป็นอาหารที่เด็กส่วนใหญ่กินได้ และยิ่งมีลูกลิงคอยส่งเสียงเชิญชวนให้เด็ก ๆ กินผลไม้ให้หมด ท่าทางตลก ๆ ของลูกลิงก็ทำให้เด็ก ๆ สนุกและกินผลไม้จนหมดไม่มีเหลือเลยแม้สักผลเดียว
แต่อนิจจา แม้เด็ก ๆ จะตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกกระต่าย แต่การกินผักเป็นเรื่องยากสำหรับเด็ก ๆ เด็กหลายคนจึงตั้งท่าจะลุกไปเล่นโดยไม่แตะต้องอาหารจานผักเลยสักนิด
ทันใดนั้นเอง เด็กที่ทำท่าจะลุกไปเล่นก็เงยหน้าไปเห็นลูกกระต่ายทั้ง 3 ตัวทำหน้าหงอย ๆ จ๋อย ๆ เด็ก ๆ สงสารลูกกระต่ายมากพอ ๆ กับรู้สึกผิดหากไม่ลองชิมอาหารจานผักที่ลูกกระต่ายตั้งใจทำไว้ให้ ด้วยเหตุนี้ เด็กที่คิดจะไปเล่นจึงตัดสินใจนั่งลงและลองชิมอาหารจานผักให้ลูกกระต่ายดู
ทันทีที่เด็ก ๆ ชิมอาหารจานผัก พวกเขาก็รู้สึกว่ามันเป็นกับข้าวที่อร่อยอย่างบอกไม่ถูก ทั้งนี้เพราะลูกกระต่ายพากันไปเลือกผักที่อ่อนที่สุด, สดที่สุด, กรอบที่สุดและอร่อยที่สุดมาใช้ในการปรุงอาหาร นอกจากนี้ พวกมันยังทำอาหารจากใจ ดังนั้น อาหารจานผักที่เด็ก ๆ ได้ชิมจึงอร่อยมากกว่าปกติถึง 100 เท่า และทำให้เด็ก ๆ กินผักจนหมดจานอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อลูกกระต่ายทั้ง 3 เห็นเด็ก ๆ กินอาหารจนหมดจาน พวกมันก็ร้องไชโยด้วยความยินดี เสียงดีใจของลูกกระต่ายทำให้เด็ก ๆ พลอยยิ้มตามไปด้วย เมื่อคุณครูหนุ่มเห็นเช่นนั้น คุณครูจึงรู้ในทันทีว่า นี่คือวิธีที่ถูกต้องที่สุดที่จะทำให้เด็ก ๆ กินผักและผลไม้ ด้วยเหตุนี้ คุณครูจึงถามเด็ก ๆ ว่า “ถ้าครูให้ลูกกระต่ายกับลูกลิงทำอาหารจานผักและเก็บผลไม้อร่อย ๆ มาฝากพวกเราทุกวัน พวกเราคิดว่าดีไหม”
เด็ก ๆ ต่างส่งเสียงตอบรับและปรบมือดังกึกก้อง
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา คุณครูจึงให้ลูกกระต่ายและลูกลิงเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการตักอาหารทุก ๆ วัน ซึ่งมันทำให้เด็ก ๆ ยอมกินอาหารประเภทผักและผลไม้จนหมดไม่มีเหลือ
คุณครูดีใจที่ปัญหาเรื่องการกินอาหารของเด็ก ๆ หมดไป ส่วนลูกสัตว์ทั้ง 6 ตัวก็ดีใจที่พวกมันช่วยเหลือคุณครูผู้ใจดีได้สำเร็จ
#นิทานนำบุญ
…………………..
