เด็กซนเป็นเด็กฉลาด! แต่เด็กมีมารยาทเป็นเด็กที่ฉลาดกว่า เพราะการมีมารยาทสะท้อนให้เห็นถึงการอบรมเลี้ยงดูของครอบครัว และการมีสติของเด็ก ๆ ในการควบคุมตนเอง ให้ใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม  นิทานก่อนนอนเรื่อง เจ้าหญิงจอมซน เป็นนิทานสั้นพร้อมข้อคิด ผู้แต่งคือนำบุญ นามเป็นบุญ นักแต่งนิทานที่เคยลงผลงานในนิตยสารขวัญเรือน  หวังว่านิทานเรื่องเจ้าหญิงจอมซนจะเป็นนิทานก่อนนอนที่ถูกใจทุกคนนะครับ

นิทานตลก ๆ ก่อนนอน : เจ้าหญิงแสนซน

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีเจ้าหญิงแสนซนองค์หนึ่งทรงพระนามว่า เจ้าหญิงไลลา

เจ้าหญิงไลลาเป็นเจ้าหญิงองค์น้อยที่หาเรื่องเล่นสนุกได้ทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการ แกล้งแม่นม, หลอกต้มพี่เลี้ยง,    เขวี้ยงหัวหมา, ปาของเล่น, เต้นติ๊ดชึ่ง, ดึงหางแมว, แซวทหาร ฯลฯ ซึ่งความซนของเจ้าหญิงนี้ทำให้ใครต่อใครพากันกุมขมับด้วยความระอาใจ รวมทั้งพระราชินีที่ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ทุกครั้งที่มีคนนำเรื่องมากราบบังคมทูล

อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่เจ้าหญิงไลลากำลังเล่นสนุกกับเครื่องสำอางที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งของพระราชินี  จู่ ๆ เจ้าหญิงไลลาก็เหลือบไปเห็นแหวนเพชรวงน้อยที่สวยที่สุดเท่าที่พระองค์เคยเห็นมา  เจ้าหญิงจอมซนคิดในใจว่า หากเจ้าหญิงผู้เลอโฉมอย่างพระองค์ได้สวมแหวนเพชรวงนี้ พระองค์คงจะกลายเป็นเจ้าหญิงผู้งามเลิศเฉิดไฉไลกว่าใคร ๆ ในปฐพีนี้เป็นแน่ ว่าแล้วเจ้าหญิงก็รีบคว้าแหวนขึ้นมาสวมทันที

เมื่อเจ้าหญิงสวมแหวน แหวนก็ลื่นไหลเข้าไปถึงโคนนิ้วได้โดยไม่ติดขัด เจ้าหญิงกระหยิ่มยิ้มด้วยความภาคภูมิใจพลางคิดฟุ้งฝันไปว่า  นี่แหละคือ แหวนเพชรที่มีไว้สำหรับเจ้าหญิงที่งามที่สุดในโลกโดยเฉพาะ

แต่เมื่อเจ้าหญิงอยากจะถอดแหวน   แหวนที่เคยสวมง่ายใส่คล่อง กลับติดแน่นอยู่ที่นิ้ว จนเจ้าหญิงไม่สามารถที่จะขยับมันได้แม้แต่นิดเดียว

เจ้าหญิงจอมซนเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่กำลังจะตามมา หากพระราชินีมาเห็นหลักฐานแห่งความซนที่ติดอยู่ที่นิ้วของเจ้าหญิง เจ้าหญิงก็คงไม่อาจที่จะบ่ายเบี่ยงเลี่ยงการลงโทษไปได้แน่ ๆ  เจ้าหญิงจอมซนจึงคิดที่จะขอให้คนช่วย

เจ้าหญิงไปขอร้องให้แม่นมช่วย แต่แม่นมจะยอมช่วยก็ต่อเมื่อเจ้าหญิงเลิกแกล้งแม่นม, หลอกต้มพี่เลี้ยง, เขวี้ยงหัวหมา, ปาของเล่น, เต้นติ๊ดชึ่ง, ดึงหางแมว, แซวทหาร ฯลฯ  เจ้าหญิงไม่ยอม จึงต้องไปขอให้คนอื่นช่วย

เจ้าหญิงไปขอร้องให้พี่เลี้ยงช่วย แต่พี่เลี้ยงจะยอมช่วยก็ต่อเมื่อเจ้าหญิงเลิกแกล้งแม่นม, หลอกต้มพี่เลี้ยง, เขวี้ยงหัวหมา, ปาของเล่น, เต้นติ๊ดชึ่ง, ดึงหางแมว, แซวทหาร ฯลฯ  เจ้าหญิงไม่ยอม จึงต้องไปขอให้คนอื่นช่วย

เจ้าหญิงไปขอร้องให้หมา, ของเล่น, ครูสอนเต้นรำ, แมวและทหารช่วย   แต่หมา, ของเล่น, ครูสอนเต้นรำ, แมวและทหารจะยอมช่วยก็ต่อเมื่อเจ้าหญิงเลิกแกล้งแม่นม, หลอกต้มพี่เลี้ยง, เขวี้ยงหัวหมา, ปาของเล่น, เต้นติ๊ดชึ่ง, ดึงหางแมว, แซวทหาร ฯลฯ  เจ้าหญิงไม่ยอม จึงต้องไปขอให้คนอื่นช่วย

แต่ไม่ว่าเจ้าหญิงจะไปขอร้องให้ใครช่วย ก็ไม่มีใครยอมช่วยเจ้าหญิงเฉยๆ เลยแม้แต่คนเดียว  ในที่สุด เจ้าหญิงจึงต้องยอมเลิกแกล้งแม่นม, หลอกต้มพี่เลี้ยง, เขวี้ยงหัวหมา, ปาของเล่น, เต้นติ๊ดชึ่ง, ดึงหางแมว, แซวทหาร ฯลฯ 

เมื่อเจ้าหญิงให้สัญญา ทุก ๆ คนจึงกอดเอวต่อกันเป็นแถวยาวเฟี้อย แล้วออกแรงดึงพร้อม ๆ กันจนแหวนหลุดออกจากนิ้วของเจ้าหญิงอย่างง่ายดาย

เรื่องราวของแหวนและความซนของเจ้าหญิงถูกเก็บเป็นความลับโดยที่พระราชินีไม่เคยล่วงรู้แม้แต่นิดเดียวแต่สิ่งหนึ่งที่พระราชินีสังเกตเห็นก็คือ เจ้าหญิงค่อยๆ เติบโตขึ้นเป็นเจ้าหญิงที่มีกิริยามารยาทเรียบร้อยงดงามสมกับความเป็นเจ้าหญิง

และหลายปีต่อมา เจ้าหญิงไลลาก็ได้สวมแหวนเพชรที่มีไว้สำหรับเจ้าหญิงที่งามที่สุดในโลกโดยเฉพาะอย่างเต็มภาคภูมิ

#นิทานนำบุญ

………………