“ซินเดอเรลล่า” เป็นนิทานอมตะแนวเทพนิยายที่คนรู้จักกันทั่วโลก พ่อแม่มักเล่านำนิทานเรื่องซินเดอเรลล่ามาเล่าเป็นนิทานก่อนนอนให้ลูกฟัง เพราะเนื้อเรื่องที่มีความดราม่าน่าสงสาร ที่นางเอกถูกแม่เลี้ยงและพี่เลี้ยงใจร้ายรังแก แต่มีนางฟ้ามาร่ายเวทมนตร์เสกให้ซินเดอเรลล่ามีชุดสวยไปร่วมงานเลี้ยงกับเจ้าชาย แถมยังมีฉากเด็ด ที่นางเอกต้องรีบกลับบ้านก่อนที่เวทมนตร์จะสลาย และทำให้เธอพลาดพลั้งทำรองเท้าแก้วหลุดไว้ จนกลายเป็นเบาะแสให้เจ้าชายตามตัวเธอได้ในที่สุด
ซินเดอเรลล่า จึงเป็นนิทานก่อนนอนเกี่ยวกับความรักที่อมตะข้ามกาลเวลา ซึ่งเมื่อผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) อยากแต่งนิทานภาคสองต่อจากนิทานเรื่อง ซินเดอเรลล่า (แต่เป็นการแต่งภาคต่อโดยไม่ได้นำตัวละครเก่าของนิทานอมตะมาใช้) ผมจึงสร้างตัวละครใหม่และผูกเรื่องขึ้นใหม่ โดยใช้โครงเรื่องเชื่อมโยงกับนิทานดั้งเดิม จนเกิดเป็นนิทานก่อนนอนเรื่อง “ความรักของคนทำขนมเค้ก” ที่เชื่อว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่น่าจะชื่นชอบ ซึ่งหากใครจะนำไปใช้เป็นนิทานก่อนนอนอ่านให้แฟนฟัง ก็น่าจะใช้ได้ แต่อย่าเผลอหิวลุกมาหาขนมเค้กกินกลางดึกนะครับ เดี๋ยวจะอ้วนจนกู่ไม่กลับครับ อิอิ
นิทานก่อนนอนเรื่อง ความรักของคนทำขนมเค้ก
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่านิโคไล นิโคไลเป็นคนที่หลงใหลการทำขนมเค้กมาตั้งแต่ยังเด็ก และเมื่อนิโคไลอายุได้ 20 ปี เขาจึงรวบรวมเงินทั้งหมดที่เขาสะสมเอาไว้แล้วนำมันมาใช้จ่ายเพื่อสร้างร้านขนมเล็ก ๆ ตามความฝันของเขา
ขนมเค้กของนิโคไลเป็นขนมเค้กแสนอร่อย แม้หน้าตาของขนมเค้กอาจจะไม่ชวนรับประทานมากนัก แต่หากใครได้ลองชิมขนมเค้กของเขาเพียงสักครั้ง ความหอมกรุ่นและรสชาติที่แสนวิเศษก็คงจะทำให้คนที่ได้ลิ้มลองขนมเค้กของนิโคไลรู้สึกอิ่มเอมใจไปได้ตลอดทั้งวัน
นิโคไลมักจะเริ่มเข้าครัวตั้งแต่เช้าตรู่ และเขามักจะเผลออยู่ในห้องครัวนานเสียจนกลิ่นเนยหอม ๆ หอมติดตัวเขาไปตลอดทั้งวันทั้งคืน ทุกครั้งที่นิโคไลลงมืออบขนม กลิ่นหอมของขนมเค้กก็จะดึงดูดพวกหนูจากทั่วสารทิศให้มารวมตัวกันที่หน้าร้านของเขาราวกับต้องมนตร์สะกด
และในคืนวันหนึ่ง ในขณะที่นิโคไลกำลังอบขนมอยู่ตามปกติ จู่ ๆ นิโคไลก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของม้าและเสียงล้อของรถม้าตรงดิ่งมายังร้านขนมของเขาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน คนขับรถม้าและเหล่าม้าลากรถต่างมีหน้าตาที่ผิดแผกไปจากคนขับรถม้าและเหล่าม้าธรรมดา ๆ ที่เขาเคยเห็น นิโคไลพยายามคิดว่าใบหน้าเหล่านั้นดูคล้ายกับใบหน้าของใครกันหนอ แต่ก่อนที่นิโคไลจะคิดได้ รถม้าปริศนาก็มาจอดนิ่งอยู่ที่หน้าร้านขนมเค้กของเขาเสียแล้ว!
ทันทีที่รถม้าจอดสนิท หญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถม้าก็ก้าวลงมาจากรถม้าด้วยความสง่างาม หญิงสาวมองไปรอบ ๆ ตัว แล้วจึงเอ่ยปากถามคนขับรถม้าว่า “ที่นี่เป็นที่จัดงานเลี้ยงของเจ้าชายจริง ๆ หรือ?” นิโคไลยืนจ้องมองหญิงสาวตาไม่กระพริบ ทั้งหน้าตาและน้ำเสียงของหญิงสาวทำให้นิโคไลรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว โลกทั้งโลกดูเหมือนว่าจะหยุดหมุนไปชั่วขณะ และดอกไม้ที่มีชื่อว่า “รักแรกพบ” ก็ค่อย ๆ ผลิดอกออกช่อขึ้นในหัวใจของนิโคไลอย่างช้า ๆ
นิโคไลรู้สึกประหม่าจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก หญิงสาวที่เดินทางโดยรถม้าและกำลังจะไปยังงานเลี้ยงของเจ้าชาย น่าจะเป็นลูกสาวของเศรษฐีหรือธิดาของเจ้าเมืองพระองค์ใดพระองค์หนึ่งเป็นแน่ นิโคไลรู้ซึ้งถึงความต่ำต้อยของตนเองเป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังอยากจะมอบอะไรบางอย่างให้แก่หญิงสาวที่เขาแอบหลงรัก
นิโคไลนำขนมเค้กที่เขาเพิ่งอบเสร็จใหม่ ๆ มามอบให้แก่หญิงสาวด้วยความอ่อนน้อม กลิ่นหอมของขนมเค้กทำให้หญิงสาวลืมงานเลี้ยงของเจ้าชายไปเสียสนิท และทันทีที่หญิงสาวได้ลิ้มลองรสชาติที่แสนมหัศจรรย์ของขนมเค้ก หญิงสาวก็หวนคิดถึงพ่อที่ด่วนขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายปีก่อน…
คุณพ่อของหญิงสาวเป็นคุณพ่อที่ใจดีมาก คุณพ่อมักจะซื้อขนมเค้กมาฝากลูกสาวอยู่เสมอ แต่นับตั้งแต่คุณพ่อจากเธอไป แม่เลี้ยงใจร้ายและลูกสาวของแม่เลี้ยงก็พากันรังแกเธอต่าง ๆ นานา หญิงสาวไม่เคยได้กินอาหารดี ๆ อีกเลย มิหนำซ้ำ เธอยังต้องทำงานบ้านทุกอย่างจนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน หญิงสาวรู้สึกท้อแท้และแอบนอนร้องไห้อยู่บ่อย ๆ จนกระทั่งในค่ำคืนหนึ่ง ในขณะที่แม่เลี้ยงและลูก ๆ ออกจากบ้านไปเพื่อร่วมงานเต้นรำของเจ้าชาย หญิงสาวก็ได้พบกับความอัศจรรย์ที่เธอไม่คาดคิดมาก่อน
ท่ามกลางความเยียบเย็นในห้องใต้หลังคา นางฟ้าองค์หนึ่งปรากฏกายขึ้นต่อหน้าหญิงสาวผู้แสนอาภัพ นางฟ้าองค์นี้เป็นนางฟ้าที่ชอบช่วยเหลือเด็กสาวที่ถูกแม่เลี้ยงใจร้ายรังแก ดังนั้น นางฟ้าจึงเสกเสื้อผ้าสวย ๆ พร้อมกับรถม้าและคนขับ เพื่อให้หญิงสาวมีโอกาสไปขับเคี่ยวแย่งชิงเจ้าชายจากแม่เลี้ยงใจร้ายและลูก ๆ
แม้รถม้าจะพาหญิงสาวมาที่ร้านขนมเค้กเล็ก ๆ แทนที่จะเป็นพระราชวังของเจ้าชาย แต่หญิงสาวก็รู้สึกพอใจในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น หญิงสาวเกิดความรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาดเมื่อได้มาอยู่ใกล้ ๆ ชายหนุ่มที่มีกลิ่นหอมของเนยกรุ่น ๆ ออกมาจากตัว เธอไม่อยากให้นิโคไลเข้าใจผิดว่าเธอเป็นลูกสาวเศรษฐีหรือหญิงสาวสูงศักดิ์ ดังนั้น หญิงสาวจึงตัดสินใจเล่าความจริงทั้งหมดให้นิโคไลฟัง
แม้นิโคไลจะรู้สึกว่าเรื่องราวที่หญิงสาวเล่าให้เขาฟังนั้น ดูคล้ายกับนิทานชวนฝันที่เขาเคยได้ฟังตอนที่เขายังคงเป็นเด็ก แต่ทันทีที่นาฬิกาตีครบ 12 ครั้ง ความจริงทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นอย่างแจ่มชัด
เมื่อเวลาเที่ยงคืนมาถึง เวทมนตร์ของนางฟ้าก็ค่อย ๆ สลายไปพร้อม ๆ กับวันใหม่ที่ก้าวเข้ามา รถม้ากลับกลายเป็นฟักทอง ส่วนคนขับรถและม้าทุก ๆ ตัวก็คืนร่างกลายเป็นหนู (ซึ่งแน่นอนว่าพวกมันเป็นหนูที่หลงใหลในกลิ่นหอมของขนมเค้กเอาเสียมาก ๆ) และที่สำคัญที่สุด หญิงสาวที่นิโคไลเฝ้าหลงรักก็คืนสภาพกลายเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่แสนน่ารักและเต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนหวาน นิโคไลมีความสุขมากต่อสิ่งที่ได้เห็น และก่อนที่หญิงสาวจะวิ่งหนีไป นิโคไลก็คุกเข่าลงและเอ่ยปากขอแต่งงานกับหญิงสาวที่เขารักทันที
ไม่มีเหตุผลใดที่หญิงสาวจะปฏิเสธคำรักของชายหนุ่ม ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงแต่งงานกันและช่วยกันทำขนมเค้กจนเป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งเมือง นิโคไลและหญิงสาวต่างมีความสุขที่ได้อยู่ร่วมกัน และแล้ว…เรื่องราวความรักของพวกเขาก็จบลงอย่างมีความสุข
#นิทานนำบุญ
………………
