นิทานก่อนนอนเรื่อง คุณยายเจ็ดสิบเอ็ด เป็นนิทานที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) แต่งขึ้นโดยนำประสบการณ์วัยเด็ก (จนถึงโต) ที่ได้รับความรักความเอาใจใส่จากอาม่า (คุณยาย) มาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการเขียน นิทานเรื่องนี้พูดถึงร้านสะดวกซื้อในยุคหนึ่งซึ่งสินค้าในร้านไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อเด็กสักเท่าไหร่ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็มักพาเด็ก ๆ เข้าไปซื้อของกินของเล่นในนั้นจนกลายเป็นความเคยชินที่น่าเป็นห่วง ในมุมมองของนักแต่งนิทานและคนที่ทำงานด้านเด็ก ทำได้เพียงการแบ่งปันมุมมองผ่านสื่อนิทานที่ตัวเองทำเท่านั้น หวังว่านิทานก่อนนอนเรื่องนี้จะให้ความสุขและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านบ้างนะครับ
นิทานเรื่อง คุณยายเจ็ดสิบเอ็ด
กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อว่า “บุญ”
บุญเรียนหนังสืออยู่ในโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงเรียนที่แวดล้อมไปด้วยร้านสะดวกซื้อเต็มไปหมด ทุกเย็น เพื่อน ๆ ของบุญมักพากันเข้าไปซื้อขนมในร้านเหล่านั้นจนกระเป๋าแฟบ มีเพียงบุญเท่านั้นที่มักรอเพื่อน ๆ อยู่นอกร้านและไม่เคยเสียเงินให้ร้านเหล่านั้นเลยแม้แต่บาทเดียว
เมื่อเพื่อน ๆ สังเกตว่าบุญแทบไม่เคยเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ เพื่อนบางคนจึงคาดเดาว่า บางที ฐานะทางบ้านของบุญอาจไม่สู้ดีนัก บุญจึงไม่มีเงินซื้อขนม ส่วนเพื่อนบางคนก็คาดเดาว่า บุญอาจมีเงินมากก็ได้ แต่เป็นคนขี้เหนียว จึงไม่ยอมใช้เงินซื้ออะไรเลยแม้กระทั่งของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ
ในขณะที่เพื่อน ๆ พากันสงสัย เพื่อนสนิทของบุญก็บอกกับเพื่อนคนอื่น ๆ ว่า “บุญไม่ใช่คนขี้เหนียวแน่ ๆ เพราะเขามักเอาขนมจากที่บ้านมาแบ่งให้ฉันกินบ่อย ๆ แถมบุญยังได้ค่าขนมมาโรงเรียนไม่น้อย แต่ที่เขาไม่เข้าร้านสะดวกซื้อ อาจเป็นเพราะที่บ้านของบุญมีอะไรเจ็ดสิบเอ็ด ๆ ที่เด็ดกว่าร้านสะดวกซื้อแถวโรงเรียนก็ได้นะ เห็นเขาเคยเปรย ๆ ให้ฟังน่ะ”
“อะไรเจ็ดสิบเอ็ด ๆ ที่เด็ดกว่าร้านสะดวกซื้อแถวโรงเรียนน่ะเหรอ” เด็กทุกคนรำพึงแล้วมองหน้ากันด้วยความสงสัย และเพื่อให้ความสงสัยคลี่คลายลง เด็กทุกคนจึงวางแผนกันว่า พวกเขาจะขอตามไปที่บ้านของบุญเพื่อพิสูจน์สิ่งที่ค้างคาใจอยู่
เมื่อบุญได้ฟังคำขอร้องของเพื่อน ๆ เขาก็ยิ้มพร้อมกับอนุญาตให้เพื่อน ๆ ตามเขากลับบ้านได้ ครั้นเมื่อถึงเวลาเลิกเรียน เด็กทุกคนก็พากันเดินตามบุญกลับบ้าน โดยเด็กทุกคนต่างคาดเดาว่า แถวบ้านของบุญอาจมีร้านสะดวกซื้อชื่อเจ็ดสิบเอ็ด ที่มีของกินอร่อยเด็ดกว่าร้านแถวโรงเรียนแน่ ๆ
แต่เมื่อเด็กทุกคนตามบุญไปถึงหน้าบ้าน แทนที่บุญจะแวะร้านสะดวกซื้อแถว ๆ นั้น เขากลับชวนเพื่อน ๆ ให้เข้าไปในบ้าน พร้อมกับบอกว่า “อะไรเจ็ดสิบเอ็ด ๆ ที่เด็ดกว่าร้านสะดวกซื้อแถวโรงเรียน อยู่ในบ้านของฉันนี่แหละ เชิญทุกคนเข้าไปได้เลยนะ”
เมื่อเด็กทุกคนเดินเข้าไปในบ้าน สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือ บนโต๊ะอาหารมีแซนวิชไข่ดาว ขนมกุ้ยช่าย นึ่งร้อน ๆ ขนมไทยหลากหลายชนิด น้ำเก๊กฮวยเย็นสดชื่น มะละกอ กล้วยและแตงโมฝาน ซึ่งทั้งหมดจัดเป็นชุด ๆ เท่าจำนวนเด็ก ที่สำคัญ ในตู้เย็นยังมีทุเรียนแช่แข็งที่อร่อยน่ากินไม่แพ้ไอศกรีมยี่ห้อดัง ซึ่งอาหารทั้งหมดเป็นฝีมือการจัดการของคุณยายที่มีอายุเจ็ดสิบเอ็ดปี และคุณยายของบุญก็คือ “อะไรเจ็ดสิบเอ็ด ๆ ที่เด็ดกว่าร้านสะดวกซื้อ” นั่นเอง
เมื่อเด็กทุกคนได้พบคุณยาย เด็ก ๆ ก็สวัสดีคุณยายด้วยความนอบน้อม ส่วนคุณยายก็รับไหว้อย่างใจดี จากนั้น คุณยายก็พูดว่า “เจ้าบุญโทรศัพท์มาบอกว่าหลาน ๆ จะมากัน ยายก็เลยเตรียมของอร่อย ๆ ไว้ต้อนรับ เหมือนที่ทำเตรียมไว้รอเจ้าบุญทุก ๆ เย็นนั่นแหละนะ เอ้า…ลงมือกินกันได้เลยนะจ๊ะ”
เด็กทุกคนส่งยิ้มให้คุณยายพร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ ก่อนที่จะกินอาหารต่าง ๆ อย่างเอร็ดอร่อย
ในขณะที่เด็ก ๆ กำลังเพลินกับการกินอาหาร เด็กบางคนก็พูดว่า “ของกินวันนี้อร่อยเด็ดกว่าของกินจากร้านสะดวกซื้อจริง ๆ เพราะมันไม่ใช่อาหารแช่แข็งหรืออาหารสำเร็จรูปแบบที่เรากินอยู่ทุกวัน”
เด็กบางคนหันไปบอกบุญว่า “เธอนี่โชคดีจริง ๆ เลยนะ ของทั้งหมดนี้ มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ฉันยอมรับเลยว่า อะไรเจ็ดสิบเอ็ด ๆ ของเธอ เด็ดกว่าร้านสะดวกซื้อทุกร้านที่ฉันเคยเห็นจริง ๆ”
บุญยิ้มรับ แล้วบอกกับเพื่อน ๆ ว่า “แต่มีของที่มีเงินก็ซื้อไม่ได้และเป็นสิ่งที่เด็ดที่สุดอีกอย่างนึงนะ”
ในขณะที่บุญพูดค้างอยู่นั้น คุณยายวัยเจ็ดสิบเอ็ดก็เดินเข้ามา แล้วพูดว่า “เอ! วันนี้หลานลืมอะไรรึเปล่า” บุญมองตาคุณยายพร้อมกับยิ้มให้ด้วยความรัก เขาวางมือจากขนมที่กินอยู่ จากนั้น เขาก็บอกคุณยายว่า “ไม่ลืมหรอกครับ เพราะนี่คือสิ่งที่ทำให้บุญมีความสุขที่สุด” ว่าแล้ว บุญก็ตรงเข้าหาคุณยาย เพื่อให้คุณยายกอดเขาเอาไว้ในอ้อมอก
วินาทีนั้น เด็กทุกคนจึงได้รู้ว่า สิ่งที่เด็ดที่สุดที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากร้านสะดวกซื้อไหน ๆ และร้านสะดวกซื้อก็ไม่สามารถทำเป็นของแช่แข็งหรือของสำเร็จรูปมาขายได้ ก็คือ อ้อมกอดแห่งความรักของคุณยายนี่เอง
เด็กทุกคนรู้สึกอิ่มท้องและอิ่มใจมากที่ได้เห็นภาพแห่งความรักระหว่างเพื่อนของเขากับคุณยายที่แสนใจดี บางที พวกเขาน่าจะลองชวนคุณพ่อคุณแม่ทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้กินด้วยกันหลังเลิกเรียนบ้าง และแน่นอนว่า จะต้องมีอ้อมกอดแห่งความรักให้กันและกันเป็นทีเด็ดหลังมื้ออาหารด้วย
#นิทานนำบุญ
……………………………….
