Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

นิทานเรื่อง ครูจะกอดลูกไว้ด้วยใจรัก

Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

บทเรียนของลูกม้าลาย

นิทานเรื่อง บทเรียนของลูกม้าลาย

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีลูกม้าลายตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในป่ากับพ่อแม่ของมัน ลูกม้าลายตัวนี้มีนิสัยซุกซน, ซุ่มซ่าม, เซ่อซ่า แถมยังพูดจาสื่อสารกับใคร ๆ ไม่ค่อยรู้เรื่อง  แม่ม้าลายจึงต้องคอยเตือนให้ลูกชายมีสมาธิและรู้จักเรียบเรียงความคิดให้ดีก่อนที่จะพูดเสมอ ๆ

อยู่มาวันหนึ่ง พ่อกับแม่ม้าลายไปเยี่ยมญาติในป่าลึก ลูกม้าลายจอมซนที่อยู่เฝ้าบ้านจึงแอบออกไปว่ายน้ำเล่นที่ลำธารซึ่งแม่ม้าลายเคยห้ามเอาไว้  ลูกม้าลายถอดชุดหนังลายขาวดำที่ใส่อยู่…เหลือแต่ตัวเปล่า ๆ  แล้วลงไปเล่นน้ำจนลืมเวลา  ครั้นเมื่อลูกม้าลายหันมามองชุดที่กองทิ้งไว้ มันก็พบว่าชุดหนังของมันได้หายไปเสียแล้ว

ถ้าพ่อกับแม่กลับมาพบว่าลูกม้าลายทำชุดหนังประจำตัวหาย พ่อกับแม่ม้าลายก็คงจับได้ว่า ลูกชายหนีไปเล่นน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต  หนำซ้ำยังซุ่มซ่ามเซ่อซ่าทำของสำคัญหายไปเสียอีก ลูกม้าลายไม่อยากถูกตีจนก้นลาย  มันจึงไปหาเทพารักษ์ซึ่งเป็นเทวดาประจำป่าเพื่อขอให้ช่วยเสกชุดหนังตัวใหม่ให้

เมื่อเทพารักษ์ได้ฟังคำขอร้อง  เทพารักษ์ผู้ใจดีซึ่งมีพลังวิเศษเสกอะไรก็ได้วันละ 3 ครั้ง จึงเอ่ยปากว่าจะช่วยอย่างเต็มที่ ลูกม้าลายดีใจมากจนลืมเรียบเรียงความคิดให้ถี่ถ้วน มันรีบเอ่ยปากขอพรครั้งแรกไปว่า “ผมขอชุดหนังชุดใหม่ด่วนเลยนะครับ”

ทันทีที่เทพารักษ์ได้ฟังคำร้องขอ  เทพารักษ์จึงเสกชุดหนังตัวใหม่สวมให้เจ้าลูกสัตว์จอมซนอย่างไม่รอช้า  อนิจจา! เทพารักษ์เข้าใจผิดคิดว่าลูกม้าลายที่เปลือยกายมา…เป็นลูกม้าธรรมดา ๆ  เทพารักษ์จึงเสกชุดหนังสีขาวให้มัน…แทนที่จะเป็นชุดลายทางสีขาวดำอย่างที่ควรจะเป็น

เมื่อลูกม้าลายเห็นชุดที่เทพารักษ์เสกให้  มันก็ได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัด แล้วพูดกับเทพารักษ์อย่างอารมณ์เสียว่า “ผมไม่ใช่ม้านะครับท่าน ตัวของผมจะต้องมีทั้งสีขาวและสีดำ  ไม่ใช่ขาวโพลนดูจืดสนิทแบบนี้ ช่วยเสกชุดใหม่ให้ผมเดี๋ยวนี้เลยนะครับ”

เมื่อลูกสัตว์ที่มาขอความช่วยเหลือบอกว่าตนเองไม่ใช่ม้า แถมเนื้อตัวยังมีทั้งสีขาวและสีดำ  เทพารักษ์จึงเพ่งมองลูกสัตว์จอมซนอีกครั้ง พลางคิดว่า “ถ้าไม่ใช่ม้าและเนื้อตัวมีทั้งสีขาวและสีดำ บางที…มันอาจจะเป็นลูกวัวก็ได้นะ” ด้วยเหตุนี้ เทพารักษ์จึงร่ายคาถาครั้งที่สอง แล้วเสกชุดหนังลายวัวให้ตามที่เข้าใจ

ลูกม้าลายโมโหจนตัวสั่นเมื่อเห็นชุดลายวัวนมสีขาวสลับดำที่เทพารักษ์เสกให้  มันพยายามระงับความโกรธพลางกัดฟันกรอดแล้วขอพรครั้งที่สามว่า “ผมไม่ใช่ม้า แล้วก็ไม่ใช่วัวนะครับ ตัวของผมมีลายสีดำ ๆ คาดอยู่ทั้งตัว อย่าเสกชุดมั่วซั่วแบบนี้สิครับ ยังไงช่วยเสกชุดหนังที่มีลายสีดำคาดอยู่ตามตัวให้ผมเดี๋ยวนี้ พ่อกับแม่ของผมคงใกล้จะมาถึงแล้วนะครับ”    

เทพารักษ์แปลกใจมากที่ลูกสัตว์จอมซนตรงหน้าบอกว่ามันไม่ใช่ทั้งม้าและวัว  เทพารักษ์พยายามมองลูกสัตว์จอมซนอีกครั้ง พลางคิดถึงสัตว์ที่มีลายดำ ๆ คาดอยู่ทั้งตัว  “ถ้าไม่ใช่ม้าหรือวัว แต่มีลายสีดำคาดอยู่ทั้งตัว บางที..เจ้านี่อาจจะเป็นลูกเสือโคร่งที่หน้าตาไม่เหมือนเสือโคร่งก็ได้นะ” เมื่อคิดดังนั้น เทพารักษ์จึงเสกชุดใหม่เป็นชุดหนังลายเสือโคร่งให้ตามที่เข้าใจ

ลูกม้าลายตกใจมากที่เห็นเนื้อตัวของตนมีลายสีดำคาดบนขนสีเหลืองเหมือนเสือโคร่ง มันโกรธจนปากสั่น  พลันพูดกับเทพารักษ์ว่า “นี่ท่านไม่รู้จักม้าลายหรือยังไงครับ  ผมเป็นม้าลาย ไม่ใช่ม้า, วัวนมหรือเสือโคร่ง  แค่เสกชุดหนังสีขาวลายดำให้ผม…มันยากตรงไหนนะ  ช่วยเสกชุดหนังให้ผมเดี๋ยวนี้เลยนะ”

เมื่อเทพารักษ์เห็นลูกม้าลายโมโหโทโส  เทพารักษ์ก็ได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาใจ  จากนั้น เทพารักษ์ก็พูดกับลูกม้าลายว่า “ถ้าเจ้าบอกให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นว่าเจ้าเป็นลูกม้าลายและอยากได้ชุดลายขาวดำแบบม้าลาย ข้าก็คงเสกชุดม้าลายให้เจ้าใส่ไปตั้งนานแล้ว แต่นี่เจ้าไม่บอกให้ชัดเจน แล้วใครจะไปเข้าใจสิ่งที่เจ้าต้องการได้ล่ะ วันนี้…ข้าใช้พลังไปครบ 3 ครั้งแล้ว ถ้าเจ้ายังอยากให้ข้าช่วย เจ้าก็จงกลับมาหาข้าอีกครั้งในวันพรุ่งนี้และรักษามารยาทให้ดีกว่านี้ด้วยนะ” 

ลูกม้าลายจอมซนเพิ่งได้สติว่า ตัวมันเองต่างหากที่เป็นคนผิด  เพราะมันวิ่งตัวล่อนจ้อนมาขอความช่วยเหลือจากเทพารักษ์ ซึ่งเทพารักษ์ไม่มีทางรู้เลยว่ามันคือม้า, ลาหรือม้าลายกันแน่  หนำซ้ำ  มันยังไม่รู้จักเรียบเรียงความคิดให้ดีก่อนที่จะพูด  ไป ๆ มา ๆ  การขอพรทั้ง 3 ครั้งของมันจึงกลายเป็นเรื่องไร้ค่าไร้ประโยชน์

เมื่อไม่มีทางเลือก  ลูกม้าลายจึงจำใจต้องเดินคอตกกลับไปรอให้คุณแม่ตีก้นจนลายพร้อยตามระเบียบ  ครั้นพอถึงวันรุ่งขึ้น  ลูกม้าลายก็ไปขอโทษเทพารักษ์และขอความช่วยเหลือจากเทพารักษ์อีกครั้ง โดยในครั้งนี้…มันไม่ลืมที่จะเรียบเรียงความคิดและเอ่ยปากขอสิ่งที่ต้องการอย่างมีสติและรอบคอบมากขึ้น

ในที่สุด  ลูกม้าลายก็ได้ชุดลายขาวดำมาปกคลุมร่างกายสมดังใจหวัง นอกจากนี้ มันยังได้บทเรียนเกี่ยวกับการสื่อสารความคิดที่จะติดตรึงเตือนใจมันไปอีกนานแสนนานด้วย

#นิทานนำบุญ


Posted in บทเรียนชีวิต, เรื่องเล่า, Uncategorized

คลิปสัมภาษณ์ : นำบุญ

วันที่ 14 มกราคม 2019   พี่นำบุญได้รับเชิญให้ไปพูดคุยในรายการโทรทัศน์ชื่อ “พระอาทิตย์ LIVE”  ซึ่งเป็นการพูดคุยที่สนุก (ผู้ดำเนินรายการเก่งมาก ๆ ) พี่นำบุญได้เล่าประสบการณ์ รวมทั้งแนวคิดต่าง ๆ ไว้มากพอสมควร  เช่น เรื่องการคิดนิทานเรื่อง “พระราชาผู้เป็นที่รัก”   (พี่นำบุญเริ่มพูดคุยราวนาทีที่ 3 )  หนังสือเรื่อง “คนต่อเทียน”   นิทานเกี่ยวกับแม่ หนังสือเรื่องค่อย ๆ  ประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต

พี่นำบุญจึงขอนำคลิปวิดีโอมาลงไว้ในเว็บไซต์นิทานนำบุญ สำหรับท่านที่พลาดชมการถ่ายทอดสดในวันดังกล่าวนะครับ ขอบคุณทางรายการมาก ๆ เลยครับ

Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

กระต่ายแสงจันทร์

นิทานเรื่อง กระต่ายแสงจันทร์

ในตำนานเก่าแก่ของชาวกระต่าย มีเรื่องเล่าถึง ‘กระต่ายแสงจันทร์’ ผู้คอยปกป้องและช่วยเหลือกระต่ายน้อยทั้งหลายให้พ้นจากอันตรายต่าง ๆ เด็ก ๆ ชาวกระต่ายต่างมีกระต่ายแสงจันทร์เป็นพระเอกในดวงใจด้วยกันทั้งนั้น กระต่ายตัวน้อย ๆ ทั้งหลายมักจะฟุ้งฝันอยากเป็นกระต่ายแสงจันทร์ในวันที่พวกเขาโตขึ้น

‘เจ้าเมฆขาว’ เป็นกระต่ายน้อยอีกตัวหนึ่งที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นกระต่ายแสงจันทร์ ปู่ของเมฆขาวเคยเล่าให้เมฆขาวฟังว่า ดวงจันทร์จะมอบพลังให้แก่กระต่ายผู้กล้าหาญ เพื่อให้กระต่ายตัวนั้นใช้พลังแห่งแสงจันทร์ต่อสู้กับเหล่าร้ายในยามที่เกิดเหตุคับขัน เมฆขาวตั้งใจที่จะเป็นกระต่ายแสงจันทร์ให้จงได้ ด้วยเหตุนี้ เมฆขาวจึงปฏิญาณกับตัวเองว่า เขาจะต้องเป็นกระต่ายที่กล้าหาญ เพื่อให้ดวงจันทร์มอบพลังวิเศษให้แก่เขา

เพื่อน ๆ ของเมฆขาวมักจะพากันหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินเมฆขาวพูดถึงความใฝ่ฝันที่เขาอยากจะเป็นกระต่ายแสงจันทร์ จริงอยู่ที่เด็ก ๆ ชาวกระต่ายต่างใฝ่ฝันอยากจะเป็นกระต่ายแสงจันทร์ด้วยกันทั้งนั้น แต่เพราะเมฆขาวเป็นกระต่ายตัวเล็ก ๆ ที่ไม่น่าจะมีเรี่ยวแรงพอจะไปปกป้องใครได้ ความใฝ่ฝันของเมฆขาวที่อยากจะเป็นวีรบุรุษผู้พิทักษ์จึงกลายเป็นเรื่องตลกขบขันในสายตาของกระต่ายน้อยตัวอื่น ๆ

แม้เมฆขาวจะถูกเพื่อน ๆ หัวเราะเยาะอยู่เป็นประจำ แต่เมฆขาวก็ไม่เคยเสียกำลังใจหรือเลิกล้มความตั้งใจของเขาเลยแม้สักครั้ง

เย็นวันหนึ่ง ในขณะที่เมฆขาวออกไปหากิ่งไม้ในป่าเพื่อนำมาก่อไฟไล่ความหนาว มีหมาป่าที่หิวโหยฝูงหนึ่งบุกเข้าโจมตีหมู่บ้านกระต่าย แล้วจัดการจับกระต่ายทุก ๆ ตัวมารวมกันไว้ในกระโจมขนาดใหญ่กลางหมู่บ้าน พวกหมาป่าตั้งใจจะบังคับให้กระต่ายทั้งหมดเดินทางไปกับพวกมันในตอนเช้า โดยพวกมันวางแผนที่จะขังกระต่ายทั้งฝูงเอาไว้ในถ้ำ เพื่อสำรองเป็นอาหารสำหรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง

เมื่อชาวกระต่ายถูกหมาป่าจับมาขังเอาไว้ในกระโจม กระต่ายหลายตัวกลัวจนน้ำตาไหล เพราะรู้ซึ้งถึงชะตากรรมที่พวกมันกำลังเผชิญอยู่ คุณปู่ของเมฆขาวเห็นเด็ก ๆ ชาวกระต่ายตื่นกลัวจนเนื้อตัวสั่น ดังนั้น คุณปู่จึงตัดสินใจเล่าตำนานกระต่ายแสงจันทร์ เพื่อปลอบให้กระต่ายน้อยทั้งหลายค่อยคลายความกังวลลงไปบ้าง

พวกหมาป่าทั้งฝูงที่นั่งเฝ้าอยู่ในกระโจมไม่พอใจที่คุณปู่เล่าเรื่องกระต่ายแสงจันทร์ให้เด็ก ๆ ชาวกระต่ายฟัง พวกมันพากันเดินตรงมาหาคุณปู่และสั่งให้คุณปู่สงบปากสงบคำก่อนที่พวกมันจะอดใจเอาไว้ไม่ไหว คุณปู่จำใจต้องหยุดเล่าเรื่องตามคำขู่ของฝูงหมาป่า แต่ในขณะเดียวกัน คุณปู่ก็สังเกตเห็นสีหน้าของเหล่าหมาป่าที่ดูซีดเผือดอย่างประหลาด ซึ่งในตอนนั้น คุณปู่กระต่ายไม่รู้เลยว่า ตำนานเรื่องกระต่ายแสงจันทร์ที่ชาวกระต่ายชื่นชมกันนักหนา กลับเป็นตำนานสยองขวัญที่ชาวหมาป่าต่างหวาดผวาและไม่อยากจะพูดถึงเป็นที่สุด

ตกดึก เมฆขาวแบกกิ่งไม้หอบใหญ่ตรงกลับมาที่หมู่บ้านของเขา คืนนั้น พระจันทร์สีน้ำเงินฉายแสงสว่างจ้า เมฆขาวรู้สึกแปลกใจที่บ้านเรือนของชาวกระต่ายดับไฟมืดกันไปหมด เขามองกระโจมสีขาวขนาดใหญ่กลางหมู่บ้านที่มีแสงเทียนวอมแวมอยู่เรือง ๆ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” เมฆขาวเงี่ยหูฟังเสียงที่ล่องลอยมาจากกระโจม เขาได้ยินเสียงกระต่ายวัยไล่เลี่ยกับเขากำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความกลัว เมฆขาวพยายามตั้งสติ และในขณะนั้นเอง กลิ่นของสัตว์ร้ายที่ไม่น่าพิสมัยก็ลอยตามสายลมมากระทบกับจมูกของเขา เมฆขาวขนลุกซู่ เขารู้ในทันทีว่า เหตุร้ายครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นกับชาวกระต่ายเข้าให้เสียแล้ว

เมฆขาวมีทางเลือกอยู่ 2 ทาง คือการหนีเอาตัวรอด หรือหาทางช่วยชาวกระต่ายให้พ้นภัย เมฆขาวตัวสั่นเทาด้วยความกลัว กระต่ายตัวเล็ก ๆ อย่างเขาจะเอาอะไรไปสู้กับฝูงหมาป่า ที่โหดเหี้ยมได้ เมฆขาวคิดหนัก ฉับพลัน…ถ้อยคำที่คุณปู่เคยบอกเล่าก็แว่วเข้ามาในห้วงคำนึงของเจ้ากระต่ายตัวน้อย
“ดวงจันทร์จะมอบพลังให้แก่กระต่ายผู้กล้าหาญ เพื่อให้กระต่ายตัวนั้นใช้พลังแห่งแสงจันทร์ต่อสู้กับเหล่าร้ายในยามที่เกิดเหตุคับขัน”

เมฆขาวแหงนหน้ามองพระจันทร์ด้วยแววตาที่มุ่งมั่น ไม่มีใครอีกแล้วที่จะช่วยชาวกระต่ายให้รอดพ้นจากเคราะห์กรรมในครั้งนี้ได้…นอกจากเขา เมฆขาวอธิษฐานขอพลังจากดวงจันทร์ และหลังจากที่เขานิ่งจ้องมองดวงจันทร์อยู่พักใหญ่ ในที่สุด เมฆขาวก็ตัดสินใจรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีอยู่ แล้วเดินตรงไปยังเนินดินเตี้ย ๆ ที่อยู่ระหว่างกระโจมกับแสงจันทร์ จากนั้น เขาก็ชูกิ่งไม้แห้งที่เก็บมาใช้ทำฟืนขึ้นเหนือศีรษะ แล้วโบกมันไปมากลางอากาศพร้อมๆ กับส่งเสียงกู่ร้องขับไล่ฝูงหมาป่าอย่างบ้าคลั่ง!

ฝูงหมาป่าและชาวกระต่ายทั้งหมดตกใจตื่นเมื่อได้ยินเสียงร้องคำรามขับไล่ที่ดังฝ่าความเงียบสงัดในค่ำคืนนั้น และทันทีที่เหล่าหมาป่ามองไปยังผนังผ้าใบสีขาวของกระโจม พวกมันก็ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อเห็นเงาของกระต่ายในตำนานที่มุ่งหมายจะขย้ำพวกมันให้สิ้นซากด้วยกรงเล็บในอุ้งมือขนาดมหึมา

แน่นอน…ฝูงหมาป่าแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางในชั่วเวลาเพียงพริบตาเดียว ส่วนชาวกระต่ายทั้งหลายที่ตั้งสติได้ก็เริ่มหลั่งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติ และพากันส่งเสียงร้องเรียกวีรบุรุษที่พวกเขาศรัทธาให้เข้ามาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา 

เจ้าเมฆขาวค่อย ๆ เดินตรงไปยังกระโจมตามเสียงเรียกร้อง และทันทีที่เมฆขาวมุดเข้าไปในกระโจม เงาของวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ก็กลับกลายเป็นเจ้ากระต่ายตัวเล็ก ๆ ที่ถือกิ่งไม้แห้งเอาไว้ในมือทั้งสองข้าง กระต่ายทุกตัวตะลึงงันต่อภาพที่ปรากฏตรงหน้า นี่คือกระต่ายแสงจันทร์ตัวจริงที่ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ในคราวคับขัน กระต่ายทั้งหลายพากันยิ้มและยอมรับในความกล้าหาญของกระต่ายน้อยที่มีชื่อว่า ‘เจ้าเมฆขาว’ โดยไม่มีข้อโต้แย้ง

นับจากนั้นเป็นต้นมา เรื่องราวของกระต่ายแสงจันทร์ ‘ตัวน้อย’ ก็ได้รับการเล่าขานสืบต่อกันจนถึงชั่วลูกชั่วหลาน และในที่สุด มันก็ได้รับการบันทึกเป็นนิทานที่เด็ก ๆ กำลังอ่านกันอยู่ในขณะนี้

#นิทานนำบุญ

………………

Posted in นิทาน, เด็ก, เรื่องสั้น, family, Kid, Uncategorized

สิงโตโมโหร้ายกับกระต่ายปู้ดป้าด

นานมาแล้ว  มีสิงโตกับกระต่ายเป็นเพื่อนรักที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนอนุบาล   สิงโตมีนิสัยกล้าหาญ   ส่วนกระต่ายมีนิสัยขี้ขลาด    แม้ทั้งคู่จะมีนิสัยที่ต่างกันมาก  แต่พวกมันก็เป็นเพื่อนที่สนิทกันที่สุด   สิงโตมักจะคอยปกป้องกระต่ายอยู่เสมอ   ส่วนกระต่ายก็หวังว่าสักวันหนึ่งมันจะได้ทำอะไรเพื่อตอบแทนความใจดีของเจ้าสิงโตบ้าง

วันหนึ่ง  สิงโตเกิดไปหลงรักแม่เสือสาวเข้า   แต่แม่เสือสาวกลับไม่ไยดีเจ้าราชสีห์หนุ่ม  เธอหาว่าสิงโตไม่ทันสมัย…ชอบใส่กางเกงทรงลุงดูเชยชะมัด   สิงโตเศร้าใจเมื่อสาวเจ้าไม่สน  กระต่ายเห็นเพื่อนตกอยู่ในห้วงทุกข์   มันจึงตัดสินใจที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

กระต่ายพิจารณาการแต่งตัวของเจ้าสิงโตก็เห็นด้วยกับแม่เสือสาว  ดังนั้น มันจึงไปขอร้องคุณเม่นให้ช่วยตัดชุดสวยให้สิงโตผู้ช้ำรัก   คุณเม่นบรรจงตัดชุดสุดเท่ห์ให้สิงโตหนึ่งชุด  แต่คุณเม่น  ลืมดึงหนามแหลมที่ใช้แทนเข็มออกจากกางเกงตัวเก่ง  พอสิงโตลองกางเกง  คมเข็มก็จิ้มก้นจนสิงโตร้องเจี๊ยก!   และทันใดนั้นเอง  สิงโตก็เผลอเตะก้นคุณเม่นด้วยความโมโหจนคุณเม่นลอยโด่งไปค้างอยู่บนยอดต้นตาล   เจ้ากระต่ายตกใจที่เห็นสิงโตโมโหโทโส  มันเผลอผายลมออกมาดังปู้ดป้าด แถมยังร้องไหแง ๆ จนสิงโตได้สติและต้องรีบเข้ามาปลอบ

เมื่อกระต่ายคลายความตระหนก  มันก็ดั้นด้นไปขอร้องให้ตัวกินมดซึ่งมีฝีมือในการตัดเย็บเสื้อผ้าได้ประณีตไม่แพ้คุณเม่นให้ช่วยตัดชุดให้สิงโตขี้โมโห   ตัวกินมดตั้งใจตัดชุดสุดฝีมือ  แต่ก่อนที่ตัวกินมดจะเอาชุดใหม่ไปให้สิงโต   มันดันเผลอวางชุดไว้ใกล้ ๆ กับโต๊ะอาหารที่มีมดอยู่เต็มไปหมด  เมื่อพวกมดเห็นทางหนี  มันจึงพร้อมใจกันเข้ามาซ่อนอยู่ในกางเกงตัวเก่ง   พอสิงโตลองกางเกง  พวกมดก็พากันกัดก้นจนสิงโตร้องเจี๊ยก!  และทันใดนั้นเอง สิงโตก็เผลอเตะก้นตัวกินมดด้วยความโมโหจนตัวกินมดลอยโด่งไปค้างอยู่บนยอดต้นตาล   เจ้ากระต่ายตกใจที่เห็นสิงโตโมโหโทโส  มันเผลอผายลมออกมาดังปู้ดป้าด แถมยังร้องไห้แง ๆ ไม่ยอมหยุดจนสิงโตได้สติและต้องรีบเข้ามาปลอบ  

เมื่อน้ำตาแห้ง   กระต่ายก็ตัดสินใจที่จะไปหาคุณป้านกฮูกและขอร้องให้คุณป้าช่วยตัดชุดให้กับสิงโต   คุณป้านกฮูกตัดเสื้อผ้ามานาน  ชุดที่คุณป้าตัดจึงเป็นชุดที่สวยที่สุด  แต่เนื่องจากเจ้ากระต่ายไม่อยากให้คุณป้านกฮูกเจอลูกหลงถูกเตะไปค้างอยู่บนยอดต้นตาลเหมือนกับคุณเม่นและตัวกินมด  ดังนั้น เจ้ากระต่ายจึงอาสาเอาชุดไปให้สิงโตลองด้วยตัวของมันเอง

กระต่ายไปหาสิงโตแต่ไม่มีใครอยู่บ้าน   เจ้ากระต่ายเห็นสบโอกาสจึงลองใส่ชุดของสิงโตเพื่อทดสอบว่าในชุดมีหนามหรือมดซุกซ่อนอยู่หรือไม่    ในขณะที่กระต่ายผู้หวังดีกำลังลองชุดอยู่นั้น   จู่ ๆ เจ้าสิงโตก็โผล่ออกมาร้องว่าจ๊ะเอ๋  ทำให้กระต่ายขวัญผวาจนเผลอผายลมปู้ดป้าดออกมาแรงเสียจนกางเกงก้นขาดเป็นรูเบ้อเร่อ    เจ้ากระต่ายร้องไห้แง ๆ เพราะเสียใจที่ ทำให้กางเกงตัวใหม่ของเพื่อนเป็นรูโบ๋   มิหนำซ้ำ เมื่อมันรู้ว่าสิงโตมีนัดที่จะได้ไปพบกับแม่เสือสาวอีกครั้งในเย็นวันนั้น  มันก็ยิ่งรู้สึกผิดและร้องไห้ไม่ยอมหยุด

สิงโตสงสารกระต่ายจึงปลอบเพื่อนรักด้วยการเอ่ยปากชมกางเกงก้นขาดว่าเท่ห์ล้ำสมัย  แถมมันยังบอกให้กระต่ายถอดกางเกงที่ลองออกเพื่อที่มันจะได้ใช้ใส่ไปหาแม่เสือสาวสุดที่รัก

สิงโตหนุ่มใส่กางเกงก้นขาดด้วยความขวยเขิน  แม้การใส่กางเกงที่ก้นขาดเป็นรูจนหางโผล่ออกมาได้เช่นนี้อาจจะไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจแม่เสือคนสวยนัก  แต่สิงโตคิดว่าอย่างน้อยมันก็เป็นวิธีที่พอจะช่วยบรรเทาความเศร้าของเพื่อนรักให้ค่อยคลายลงไปได้บ้าง   

เมื่อสิงโตหนุ่มไปพบกับแม่เสือสาวตามเวลานัดหมาย   สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่เป็นอย่างที่เจ้าสิงโตคิด  เพราะทันทีที่แม่เสือสาวเห็นสิงโตใส่กางเกงแบบมีหางโผล่แทนที่จะเป็นกางเกงทรงลุงที่มีหางตุง ๆ ซุกอยู่ข้างใน   แม่เสือสาวก็ร้องวี้ดว้ายกระตู้วู้กับการแต่งตัวแนวใหม่ของพ่อสิงโตหนุ่มสุดหล่อ  แล้วจัดการกระโดดเข้าหอมแก้มราชสีห์หนุ่มผู้มีเสน่ห์เป็นพัลวัน

ในที่สุด  เจ้ากระต่ายปู้ดป้าดก็สามารถช่วยสิงโตได้ดังใจหวัง  และหลังจากนั้นไม่นานสิงโตหนุ่มก็ได้แต่งงานกับแม่เสือสาวสมใจ โดยมีกระต่ายคอยร่วมยินดีอยู่ใกล้ ๆ ในฐานะเพื่อนรักของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว

#นิทานนำบุญ

………………

Posted in นิทาน, ประสบการณ์ชีวิต, Uncategorized

รางวัลสำคัญในชีวิต

วันนี้ ผมดีใจมาก เพราะจู่ ๆ ผมก็ได้ทราบข่าวว่า หนังสือเรื่อง “คนต่อเทียน” ซึ่งเป็นผลงานหนังสือภาพสำหรับเด็กที่ผมเขียนและพิมพ์เมื่อหลายปีก่อน  ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงวัฒนธรรมให้เป็น 1 ในวรรณกรรมดีเด่น ในโครงการ วรรณกรรมยอดเยี่ยมในสมัยรัชกาลที่ 9 ตามแนวคิดศาสตร์พระราชา  Continue reading “รางวัลสำคัญในชีวิต”

Posted in ครอบครัว, นิทาน, เด็ก

อัศวินกระดาษวิเศษ

นิทานเรื่อง “อัศวินกระดาษวิเศษ” ที่แต่งโดย “นำบุญ นามเป็นบุญ” เป็นนิทานผจญภัยที่ทั้งสนุกและมีข้อคิดที่น่าสนใจ  เมื่อเด็ก ๆ อ่านนิทานเรื่องนี้แล้ว อาจนำสิ่งที่ได้อ่าน ไปเขียน “บันทึกการอ่าน” เพื่อส่งคุณครู ส่วนคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครู  เมื่ออ่านนิทานเรื่องนี้จบแล้ว ก็อาจชวนให้เด็ก ๆ ทำกิจกรรมเล่นพับกระดาษเป็นเครื่องบิน กบ ปืนกระดาษ หรือพับเป็นรูปอื่น ๆ ได้ตามใจชอบ เพราะการพับกระดาษเป็นกิจกรรมที่ฝึกสมองได้ดีกิจกรรมหนึ่งเลยครับ ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่านนิทานเรื่องนี้นะครับ

Continue reading “อัศวินกระดาษวิเศษ”
Posted in การศึกษา, สาระน่ารู้, เรื่องเล่า, Uncategorized

เรียนภาษาอังกฤษจากยูทูบ

การเรียนภาษาอังกฤษในยุคดิจิทัล เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาก ๆ  มีวิดีโอสอนภาษาอังกฤษดี ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะในยูทูบ  วิดีโอยูทูบบางวิดีโอที่ผลิตในประเทศไทยมียอดการรับชมมากถึง 7 ล้านวิว ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จมาก  แต่สิ่งที่ทำให้วิดีโอนั้น ๆ ได้รับการยอมรับจากคนดูคืออะไร  งานวิจัยของพี่นำบุญชิ้นนี้มีคำตอบ

0001

Continue reading “เรียนภาษาอังกฤษจากยูทูบ”

Posted in ข้อคิด, นิทาน, เด็ก, เรื่องสนุก, family, Kid, Uncategorized

เวทมนตร์ปริศนา

นิทานที่ลงท้ายด้วยสระอาเรื่องนี้ เป็นนิทานตลก  แต่สนุกและมีข้อคิด   เชื่อว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่น่าจะชอบไม่แพ้กัน  ถ้าใครชอบ รบกวนแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านกันด้วยนะครับ  หรือคอมเม้นต์ไว้ในเว็บนี้ก็ได้  ขอบคุณนะครับ Continue reading “เวทมนตร์ปริศนา”

Posted in ข้อคิด, นิทาน, เด็ก, เรื่องสนุก, family, Kid, Uncategorized

แก๊งจ๊ะเอ๋

การแกล้งคนอื่นให้ตกใจ เป็นความสนุกที่อาจสร้างความทุกข์ให้ผู้อื่น  แล้วสุดท้าย ก็อาจก่อให้เกิดเรื่องร้าย ๆ กับตัวเอง จนเจ้าตัวอาจต้องออกมาพูดว่า “รู้เท่าไม่ถึงการ” หรือ “รู้เท่าไม่ถึงการณ์”  ดังนั้น หลังจากอ่านนิทานเรื่องนี้แล้ว หวังว่าเด็ก ๆ จะได้ข้อคิดและรู้เท่าทันว่าอะไรควรทำ อะไรควรหลีกเลี่ยงนะครับ

Continue reading “แก๊งจ๊ะเอ๋”