คุณ ๆ เคยอ่านนิทานโบราณเรื่อง “ยายกะตา” ที่ว่า “ตากับยายให้หลานไปเฝ้าถั่วเฝ้างา แต่หลานไม่สนใจ อีกาจึงมากินถั่วงา ตามาตาก็ด่า ยายมายายก็ตี” กันบ้างไหม นิทานแบบนี้ พี่นำบุญเรียกว่านิทานวงกลม (บางคนเรียกว่านิทานลูกโซ่) คือมีเนื้อเรื่องที่วน ๆ ซ้ำ ๆ ซึ่งแต่งยาก แต่ด้วยความซน พี่นำบุญจึงลองแต่งนิทานวงกลมหรือนิทานลูกโซ่ดูบ้าง
นิทานวงกลมที่พี่นำบุญลองแต่งเป็นนิทานก่อนนอนสั้น ๆ เรื่องนี้ มีชื่อเรื่องว่า “เจ้าหนูตัวจ้อย” เป็นนิทานก่อนนอนที่มีโครงเรื่องไม่ซับซ้อน เป็นนิทานอ่านง่าย แถมยังสนุกสนานน่าติดตาม จึงเหมาะที่คุณครูปฐมวัยหรือคุณครูประถมจะนำไปใช้เป็นนิทานฝึกอ่านภาษาไทย เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาของเด็ก การให้เด็กประถมได้ฝึกอ่านนิทานสั้น ๆ แต่มีเนื้อเรื่องชวนติดตาม จะช่วยให้เด็กเพลิดเพลินและเกิดกำลังใจในการอ่าน ซึ่งการที่เด็กอ่านนิทานสนุก ๆ จบเรื่องได้สำเร็จ จะช่วยทำให้เด็กรู้สึกว่าการอ่านไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังช่วยสร้างความรู้สึกรักการอ่านได้อีกด้วย
ส่วนคุณพ่อคุณแม่ที่นำนิทานก่อนนอนเรื่องนี้ไปเล่าให้ลูกฟัง พี่นำบุญเชื่อว่า เด็กๆน่าจะชอบ เพราะนิทานมีการผูกเรื่องให้คาดเดาเนื้อเรื่องต่อไปได้ง่าย ไม่ซับซ้อน เป็นนิทานก่อนนอนสั้น ๆ ที่ฟังแล้วสบายใจ ซึ่งเด็กทั่วไปน่าจะชอบครับ
นิทานก่อนนอนสั้น ๆ เรื่อง : เจ้าหนูตัวจ้อย
นานมาแล้ว มีพ่อครัวคนหนึ่งเปิดร้านขายขนมเค้กอยู่ที่ตลาดใจกลางเมือง พ่อครัวคนนี้ทำขนมเค้กอร่อยมาก ใคร ๆ ต่างก็ชอบขนมเค้กของเขา พ่อครัวขายขนมเค้กได้วันละเป็นร้อย ๆ ก้อน เขามีความสุขที่ผู้คนชื่นชอบขนมเค้กที่เขาทำ
เช้าวันหนึ่ง พ่อครัวตกใจเมื่อเห็นห้องครัวของเขามีข้าวของกระจุยกระจายเต็มไปหมด พ่อครัวพยายามสำรวจหาร่องรอยของผู้ร้าย และแล้ว…เขาก็พบรอยเท้าสัตว์ที่ไม่พึงปรารถนา
มันคือรอยย่ำบนผงแป้งของเจ้าหนูผู้ซุกซนนั่นเอง พ่อครัวไม่ชอบให้หนูเข้ามาวุ่นวายในร้านของเขาเลย ดังนั้น เขาจึงคิดหาวิธีจัดการกับเจ้าหนูจอมยุ่ง
พ่อครัวไปขอร้องแมวเหมียวให้มาช่วยปราบหนู เจ้าแมวสนุกกับการไล่จับหนูตลอดทั้งคืน เมื่อพ่อครัวกลับมาในตอนเช้า เจ้าหนูตัวจ้อยก็ย้ายออกไปจากร้านของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พ่อครัวนึกอยากขอบใจแมวเหมียวที่ช่วยไล่หนู แต่เมื่อเขาเหลือบไปเห็นแมวนับสิบตัวที่เจ้าเหมียวชวนให้มานอนเล่นในร้าน พ่อครัวก็ถึงกับพูดไม่ออกบอกไม่ถูก และเมื่อพ่อครัวเอ่ยปากไล่พวกมันฝูงแมวก็พร้อมใจกันพองขนฟูขู่ฟ่อ และทำทีว่าจะข่วนพ่อครัวถ้าเขาบังอาจมารบเวลานอนกลางวันอันแสนสุข พ่อครัวถึงกับซึมจ๋อย! เขาอยากได้ร้านของเขาคืนจากแมว ด้วยเหตุนี้ เขาจึงคิดหาวิธีจัดการกับพวกแมวจอมโหด
พ่อครัวไปขอร้องคุณหมาให้มาช่วยปราบแมว คุณหมาสนุกกับการไล่กวดพวกแมวตลอดทั้งคืน เมื่อพ่อครัวกลับมาในตอนเช้า ฝูงแมวจอมโหดก็อพยพออกจากร้านของเขาไปเป็นที่เรียบ-ร้อยแล้ว พ่อครัวนึกขอบใจคุณหมาที่ช่วยไล่แมว แต่เมื่อเขาเหลือบไปดูรอบ ๆ ห้อง เขาก็เห็นคุณหมากำลังประกาศอาณาเขตของมันด้วยการฉี่ตามมุมร้าน และหย่อนระเบิดเอาไว้เป็นก้อน ๆ เรี่ยราดพื้นห้องไปหมด พ่อครัวโกรธเจ้าหมามาก แต่เมื่อท่านหมาแยกเขี้ยวขู่ พ่อครัวก็ได้แต่ทำหน้าเจื่อน ๆ แล้วเลี่ยงไปนั่งหลบมุมเพื่อหาวิธีจัดการกับเจ้าหมาอย่างเงียบ ๆ
พ่อครัวไปขอร้องคุณเสือให้มาช่วยปราบหมา เสือตัวใหญ่สนุกกับการแกล้งวิ่งไล่เจ้าหมาตลอดทั้งคืน เมื่อพ่อครัวกลับมาในตอนเช้า เจ้าหมาผู้น่าสงสารก็เดินตุปัดตุเป๋ออกจากร้านไปอย่างสะบักสะบอมเป็นที่สุด พ่อครัวนึกขอบใจคุณเสือที่ช่วยไล่เจ้าหมา แต่เมื่อเขาเหลือบไปเห็นเจ้าของเขี้ยวขาว ๆ ที่กำลังนั่งอยู่บนโต๊ะนวดแป้ง พ่อครัวก็เริ่มกลัวจนตัวสั่น และรีบออกมาจากร้านของตัวเองทันที
พ่อครัวไปขอร้องช้างเบิ้มให้มาช่วยปราบเจ้าเสือเขี้ยวใหญ่ ช้างเบิ้มขอรางวัลในการปราบเสือเป็นขนมเค้กจากพ่อครัวจำนวนหนึ่งอิ่ม เมื่อพ่อครัวรับปาก ช้างเบิ้มก็วิ่งไล่เหยียบเจ้าเสือเล่นตลอดทั้งคืน และแล้ว ช้างเบิ้มก็สามารถขับไล่เจ้าเสือร้ายให้เผ่นหายไปจากร้านขายขนมเค้กได้ พ่อครัวดีใจมากที่เขาได้ร้านกลับคืนมาอีกครั้ง แต่สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา พ่อครัวจึงต้องลงมือผสมแป้งกะละมังใหญ่ เพื่ออบขนมเค้กให้ช้างเบิ้มกินจนกว่าจะอิ่ม
ช้างเบิ้มกินขนมเค้กของพ่อครัวทีละก้อน…ทีละก้อน ขนมเค้กของพ่อครัวอร่อยมาก อร่อยเสียจนช้างเบิ้มสามารถกินได้โดยไม่รู้สึกอิ่ม พ่อครัวผู้น่าสงสารทำขนมเค้กเลี้ยงช้างเบิ้มเสียจนมือหงิก ในที่สุด พ่อครัวก็ตัดสินใจว่าเขาจะต้องหาวิธียุติการหม่ำของคุณช้างเบิ้มจอมตะกละ
พ่อครัวไปขอร้องเจ้าหนูตัวจ้อยให้กลับมาจัดการกับช้างเบิ้ม เจ้าหนูขอรางวัลในการปราบช้างเป็นขนมเค้กวันละ 1 ก้อน โดยมันสัญญาว่าถ้าพ่อครัวให้ขนมเค้กมันกินทุกวัน มันก็จะไม่ออกมาเพ่นพ่านและไม่ทำให้ห้องครัวเลอะเทอะ เมื่อพ่อครัวรับปาก เจ้าหนูจอมซนก็แกล้งโผล่หน้าไปทักทายช้างเบิ้มที่มีขนมเค้กอยู่เต็มปาก ใคร ๆ ก็รู้ดีว่าสิ่งเดียวที่ช้างกลัวก็คือหนู เมื่อช้างเบิ้มเห็นเจ้าหนูตัวจ้อย มันก็ร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ แล้ววิ่งออกจากร้านไปอย่างไม่คิดชีวิต
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา พ่อครัวก็ทำตามสัญญาด้วยการอบขนมเค้กเผื่อเจ้าหนูวันละ 1 ก้อน พ่อครัวคิดในใจว่า การมีหนูอยู่ในครัวก็ยังดีกว่าการมีแมว หมา เสือหรือช้างมาเพ่นพ่านจนเขาทำขนมเค้กไม่ได้ และแล้ว…เจ้าหนูตัวจ้อย (ที่ต่อมากลายเป็นหนูตัวอ้วน) ก็ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในห้องครัวแสนสุขแห่งนั้นสืบมา
#นิทานนำบุญ
…………………………………..

ชอบมากๆๆค่ะอ่านสนุกเข้าใจง่ายเหมาะกะเด็กๆๆมากค่ะน่าจะในทุกโรงเรียนเด็กประถมนะจะได้ฝึกการอ่านให้เด็กรักการอ่านมากกว่าหน้อจอมือถือค่ะดีมากๆๆ
LikeLike
สักวัน จะพยายามขอทุนมาพิมพ์แจกนะครับ ปีที่แล้ว ผมไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในการคัดเลือกสื่อดีและสร้างสรรค์ เห็นเขามีทุนให้ แต่ผมไม่เคยเสนอโครงการขอทุนไป ถ้าชอบนิทานเหล่านี้ ผมจะพยายามขอทุนเขามาพิมพ์นะครับ ใจอยากให้เด็ก ๆ มีนิทานเล่มน้อยไว้อ่านครับ
LikeLike
เนื้อเรื่องหายไปบางส่วน ตั้งแต่เสือไล่สุนัขแล้ว ก็ข้ามไปช้างเบิ้มกินเค้กครับ
LikeLike
ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ เดี๋ยวรีบแก้ไขเลยครับ 🙂
LikeLike