เคยไหม? แค่เราทำหน้าเฉย ๆ คนก็หาว่าเราหน้าบูด หน้าเหวี่ยงแล้วไม่อยากเข้าใกล้ คนที่มีหน้าแบบนี้เขาเรียกว่า “มีใบหน้าเป็นอาวุธ” ซึ่งสมัยก่อนพี่นำบุญก็เจอปัญหาแบบนี้เหมือนกัน คือ ทำหน้าเฉย ๆ คนก็เกลียดก็กลัว (น่าสงสารจัง) ตอนแต่งนิทานเรื่องนี้ จึงนำความรู้สึกในช่วงนั้นมาดัดแปลงเป็นเรื่องราว นิทานเรื่องนี้ออกจะบ๊อง ๆ สักหน่อย (ก็มันเป็นนิทานตลก ๆ ก่อนนอนนี่นา) ถ้ามีโอกาส จะลองวาดภาพประกอบเพิ่มเติมนะครับ น่าจะช่วยให้คนอ่านอมยิ้มได้มากขึ้นครับ
นิทานตลก ๆ ก่อนนอนเรื่อง เจ้าป่าหน้าโหด
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสิงโตตัวหนึ่งเป็นสิงโตหนุ่มที่มีหน้าตาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย ตลอดเวลา…เจ้าสิงโตมักจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แถมยังชอบทำตาขวาง ๆ เหมือนคนที่มองโลกในแง่ร้าย ด้วยเหตุนี้เอง สัตว์น้อยใหญ่ในป่าจึงพากันหวาดกลัว และพยายามอยู่ห่างจากเจ้าป่าตัวนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
แม้เจ้าสิงโตจะเป็นเจ้าป่าที่ดูแปลก ๆ แต่มันก็อยากจะมีเพื่อนเช่นเดียวกับสัตว์ตัวอื่น ๆ เมื่อเจ้าสิงโตรู้สึกว่าสัตว์ทั้งหลายต่างคอยหลบลี้หนีหน้า มันจึงพยายามหาวิธีทำให้สัตว์เหล่านั้นเปลี่ยนใจยอมเข้าใกล้
เจ้าสิงโตครุ่นคิดหาวิธีอยู่หลายวัน ในที่สุด มันก็ตัดสินใจที่จะทดลองเปลี่ยนแปลงรูปโฉมของตัวเอง โดยหวังที่จะทำให้ตัวมันเป็นที่ต้องตาต้องใจของสัตว์ทั้งหลายมากยิ่งขึ้น
สิงโตหน้าโหดเริ่มการแปลงโฉมตัวเองโดยใช้น้ำมันแต่งขนแผงคอให้พุ่งออกไปทุกทิศทุกทางคล้ายกับรังสีของดวงอาทิตย์
“เจ้าป่าอย่างเราเหมาะกับผมทรงพระอาทิตย์มากที่สุด” เจ้าสิงโตพูดอย่างภาคภูมิ
แต่อนิจจา…แม้เจ้าสิงโตจะเปลี่ยนทรงผมแล้วก็ตาม แต่หน้าตาที่ดูไม่เป็นมิตรของมันก็ยังคงทำให้สัตว์น้อยใหญ่รู้สึกหวาดกลัวอยู่เช่นเดิม
เจ้าสิงโตเสียความเชื่อมั่นลงไปบ้าง แต่มันกลับเข้าใจไปว่า ผมทรงพระอาทิตย์อาจจะดูซู่ซ่าเกินไปสักหน่อย ด้วยเหตุนี้ เจ้าสิงโตจึงลองเปลี่ยนทรงผมอีกครั้ง โดยตั้งใจเลือกทรงผมที่ดูอ่อนหวานมากขึ้น
“เจ้าป่าที่แสนใจดีอย่างเราคงเหมาะกับผมทรงดอกไม้บานมากที่สุด” เจ้าสิงโตรำพึงเบา ๆ
แต่น่าเสียดาย…แม้เจ้าสิงโตจะเปลี่ยนทรงผมให้ดูอ่อนหวานแล้วก็ตาม แต่หน้าตาที่ไม่รับแขกของมัน ก็ยังคงทำให้สัตว์ทั้งหลายหวั่นใจที่จะต้องเข้ามาใกล้ชิด
เจ้าสิงโตเสียความมั่นใจลงไปมาก แต่มันกลับคิดไปว่า ผมทรงดอกไม้อาจจะดูเหมือนต้นไม้-ใบหญ้ามากเกินไปสักหน่อย (พวกสัตว์จึงไม่อยากเข้ามาสุงสิงด้วย) ดังนั้น เจ้าสิงโตจึงเปลี่ยนทรงผมอีกครั้ง โดยเลือกเปลี่ยนทรงผมให้ดูคล้ายกับสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่ทุกคนชื่นชอบ
“เจ้าป่าที่น่ารักอย่างเราคงเหมาะกับผมทรงกระต่ายมากที่สุด” เจ้าสิงโตดัดเสียงจนดูกุ๊กกิ๊ก
แต่จนแล้วจนรอด…ผมทรงกระต่ายก็ไม่สามารถทำให้สัตว์ทั้งหลายคลายความกลัวจากเจ้าป่าหน้าโหดลงไปได้
เจ้าสิงโตเสียใจจนน้ำตาไหล มันไม่เข้าใจว่า เพราะเหตุใดสัตว์ตัวอื่น ๆ จึงพากันหลบหน้ามันไปจนหมด เจ้าสิงโตผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก มันนั่งลงร้องไห้และพยายามคิดหาข้อเสียของตัวเองที่ทำให้ทุกคนพากันรังเกียจ
ในขณะนั้นเอง มีกระต่ายตัวหนึ่งนึกแปลกใจที่เห็นสิงโตทำเรื่องแปลก ๆ และมานั่งร้องไห้จนขี้มูกโป่ง เจ้ากระต่ายสงสัยจนทนไม่ไหว ในที่สุด มันจึงตัดสินใจไต่ถามเจ้าสิงโตด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อเจ้าสิงโตเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กระต่ายน้อยฟัง เจ้ากระต่ายก็ได้แต่หัวเราะขำ ๆ แล้วพูดกับเจ้าสิงโตอย่างอารมณ์ดีว่า “จริง ๆ แล้ว ท่านสิงโตไม่จำเป็นต้องลงทุนแปลงโฉมให้ดูพิสดารเช่นนี้หรอก แค่ท่านเลิกทำหน้าดุ ๆ โหด ๆ แล้วลองส่งยิ้มหวานให้พวกเราบ้าง เพียงเท่านี้…พวกเราก็คงจะกล้าเข้าใกล้ท่านสิงโตมากขึ้นแน่ ๆ “
เจ้าสิงโตไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ข้อเสียของตนเองอยู่ที่สีหน้าซึ่งทำให้ใคร ๆ ไม่อยากเข้าใกล้ ดังนั้น เมื่อมันได้ฟังคำแนะนำของกระต่ายน้อย มันจึงรีบปรับปรุงตัวด้วยการส่งยิ้มให้สัตว์ต่าง ๆ จนทั่วไปหมด
ไม่ช้าไม่นานนัก สัตว์ทั้งหลายก็ค่อย ๆ คลายความกลัวเจ้าป่าหน้าโหดของพวกมันลงทีละน้อย จนในที่สุด รอยยิ้มก็ช่วยทำให้สิงโตมีเพื่อนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
เจ้าสิงโตนึกขอบคุณกระต่ายน้อยที่ให้คำแนะนำอันมีค่า และนับจากวันนั้นเป็นต้นมา เจ้าป่าผู้มีใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มก็มีเพื่อนมากมายโดยที่มันไม่ต้องทำทรงผมแปลก ๆ ให้ตัวเองดูติงต๊องอีกเลย
#นิทานนำบุญ
…………………….

ขออนุญาตนำนิทานไปใช้ในการศึกษานะคะ
LikeLike
รบกวนส่งอีเมลแจ้งความประสงค์และรายละเอียดมาที่ namboon@hotmail.com นะครับ ผมจะได้ตอบกลับเป็นกิจลักษณะ เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้รับอนุญาตถูกต้องนะครับ 🙂 อาจดูยุ่งยากหน่อย แต่ปลอดภัยสำหรับผู้นำไปใช้งานครับ
LikeLike
ขออนุญาตินำนิทานไปแบ่งปันให้เด็กและผู้ปกครองอ่าน ผ่าน fb
LikeLike