นิทานเกี่ยวกับทะเล เรื่อง “บทเรียนของโมฮา” เป็นนิทานสั้น พร้อมข้อคิด ที่ผมเป็นผู้แต่งเอง เนื้อหาของนิทานเรื่องนี้ เหมาะที่จะใช้เป็นนิทานสอนใจเด็กและสอนใจวัยรุ่น โดยเฉพาะการสอนเด็กที่เก่งกว่าเพื่อน ๆ ให้เข้าใจถึงความสำคัญของการให้เกียรติกันและกัน และความสำคัญของการทำงานเป็นกลุ่ม ผมมองว่านิทานที่ให้ข้อคิดแก่เด็กเก่งมีอยู่น้อย ดังนั้น ผมจึงหวังว่านิทานสั้น พร้อมข้อคิดเรื่องนี้ จะเป็นประโยชน์กับเด็ก ๆ ทุกคน และน่าจะเป็นบทเรียนที่ทำให้เขาเติบโตไปเป็นคนที่อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขครับ
นิทานก่อนนอนเรื่อง บทเรียนของโมฮา
ณ หมู่บ้านบนเกาะกลางทะเลในอาณาจักรคาราคาซอนที่กว้างใหญ่ ยังมีชายหนุ่มผู้หนึ่งเป็นคนที่ว่ายน้ำได้คล่องแคล่วเหมือนปลาและดำน้ำได้ทนราวกับเขาสามารถหายใจใต้น้ำได้ ชาวทะเลทั่วทุกสารทิศจึงพากันเรียกเขาอย่างชื่นชมว่า “โมฮา…ราชาแห่งห้วงสมุทร”
อยู่มาวันหนึ่ง พระราชาผู้ปกครองอาณาจักรคาราคาซอนทรงประกาศให้หัวหน้าหมู่บ้านบนเกาะต่าง ๆ คัดเลือกตัวแทนหมู่บ้าน หมู่บ้านละห้าคนเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันงมลูกปัดใต้ทะเล ซึ่งหากตัวแทนของหมู่บ้านใดงมลูกปัดรวมกันได้มากที่สุด พระองค์ก็จะมอบรางวัลใหญ่ให้แก่หมู่บ้านนั้น ๆ
ในความเป็นจริง หากพระราชากำหนดกติกาให้แข่งขันกันเป็นรายบุคคล รางวัลชนะเลิศคงต้องตกเป็นของโมฮาเป็นแน่ แต่เมื่อพระราชาจะตัดสินผลแพ้ชนะด้วยจำนวนรวมของลูกปัดที่ตัวแทนหมู่บ้านทั้งห้าคนเก็บมาได้ โอกาสที่โมฮาจะชนะจึงมีน้อยลง ด้วยเหตุนี้ โมฮาจึงอารมณ์เสียแล้วพาลกล่าวหาว่าเพื่อน ๆ เป็นตัวฉุดรั้งชัยชนะของเขา!
เมื่อเพื่อน ๆ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของหมู่บ้านถูกโมฮาดูหมิ่น พวกเขาซึ่งไม่อยากเป็นตัวถ่วงจึงพยายามฝึกซ้อมว่ายน้ำและดำน้ำอย่างสุดกำลัง โมฮามองเพื่อนทั้งหลายด้วยสายตาเหยียดหยาม เพราะแม้ว่าเพื่อนร่วมเกาะจะใช้ความพยายามสักเพียงไร พวกเขาก็ยังคงว่ายน้ำและดำน้ำสู้ราชาแห่งห้วงสมุทรอย่างโมฮาไม่ได้เลยสักนิด
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันแข่งขัน หัวหน้าหมู่บ้านนำตัวแทนของเกาะทั้งห้าคนพายเรือไปยังชายหาดที่ใช้ในการชิงชัยตั้งแต่เช้าตรู่ ระหว่างที่ทุกคนเฝ้ารอพระราชาเสด็จมาเป็นประธานในการแข่งขัน ตัวแทนหมู่บ้านทุกคนต่างพยายามยืดเส้นยืดสายเพื่อให้ตนเองมีความพร้อมมากที่สุดในการดำน้ำหาลูกปัด มีแค่โมฮาเพียงคนเดียว…ที่เขาเอาแต่มองเพื่อน ๆ พร้อมกับทำหน้าอิดหนาระอาใจราวกับว่าเพื่อนของเขากำลังทำสิ่งที่ไร้สาระ
ครั้นเมื่อพระราชาเสด็จมาถึง ทหารของพระราชาจึงสั่งให้ตัวแทนของเกาะทุกเกาะไปยืนเรียงแถวกันที่ชายหาด และเมื่อทหารยิงปืนไฟให้สัญญาณ ตัวแทนของทุกหมู่บ้านก็วิ่งแข่งกันลงไปในทะเลแล้วว่ายน้ำออกไปหาลูกปัดอย่างไม่รอช้า
เพียงไม่กี่นาทีต่อมา โมฮาก็ว่ายน้ำออกไปได้ไกลจนสุดลูกหูลูกตา ซึ่งในขณะที่ตัวแทนหมู่บ้านทั้งหลายงมหาลูกปัดโบราณได้เพียงคนละเล็กละน้อย โมฮากลับเก็บลูกปัดจากใต้ทะเลได้มากถึงเกือบหนึ่งร้อยลูก!
ระหว่างที่โมฮาดำผุดดำว่ายค้นหาลูกปัดอย่างคล่องแคล่วอยู่นั้น จู่ ๆ โมฮาก็รู้สึกปวดเกร็งที่ขา ชายหนุ่มพยายามตะเกียกตะกายว่ายน้ำอย่างสุดชีวิต แต่ความเจ็บปวดจากการเป็นตะคริวทำให้เขามีทีท่าว่าจะจมน้ำ โชคดีที่เพื่อน ๆ ของโมฮาสังเกตเห็น เพื่อนทั้งสี่จึงรีบว่ายน้ำตรงเข้าหาโมฮา แล้วช่วยกันพาโมฮาขึ้นไปที่ชายหาด
ในขณะที่เพื่อนร่วมเกาะช่วยกันปฐมพยาบาลให้โมฮาอยู่นั้น คู่แข่งจากหมู่บ้านอื่น ๆ ก็ยังคงดำน้ำเก็บลูกปัดต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อน ๆ ดูแลโมฮาจนเขาค่อยยังชั่วขึ้น จากนั้น ตัวแทนเกาะทั้งสี่คนก็รีบวิ่งลงน้ำเพื่อหาลูกปัดต่อไปอย่างไม่ท้อถอย
ผลจากการฝึกซ้อมอย่างหนักทำให้เพื่อน ๆ ของโมฮามีแรงดำน้ำเก็บลูกปัดใต้ทะเลได้จนจบการแข่งขัน แม้การชิงชัยครั้งนี้จะสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้ แต่อย่างน้อย…โมฮาก็ได้บทเรียนครั้งสำคัญที่เขาจะไม่มีวันลืมไปตลอดชั่วชีวิต
โมฮาสำนึกว่า ถ้าเขาไม่มัวดูถูกดูแคลนเพื่อน ๆ แต่ใช้เวลาดังกล่าวฝึกฝนร่างกายร่วมกับเพื่อนทั้งสี่อย่างสม่ำเสมอ และไม่ลืมยืดเส้นยืดสายให้มีความพร้อมก่อนการแข่งขัน เขาก็คงไม่ต้องเป็นตะคริวและกลายเป็นตัวถ่วงที่ทำให้เพื่อน ๆ ต้องพ่ายแพ้ดังเช่นที่เป็นอยู่นี้
โมฮาเสียใจต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เขาขอโทษเพื่อน ๆ ที่ตัวเขาเป็นสาเหตุทำให้ทุกคนต้องผิดหวัง แม้เพื่อนทั้งสี่จะไม่ถือสา แต่โมฮาก็ยังคงรู้สึกผิด เขาจึงสัญญาว่า เขาจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นโดยเร็วที่สุด
หนึ่งปีต่อมา พระราชาทรงจัดการแข่งขันงมลูกปัดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งเมื่อโมฮาปรับปรุงนิสัยของตัวเองได้สำเร็จ เขาและเพื่อน ๆ จึงรวมพลังกันนำชัยชนะกลับสู่หมู่บ้านของพวกเขาได้สมดังใจหวัง
#นิทานนำบุญ
………………..

2 thoughts on “นิทานเกี่ยวกับทะเล : บทเรียนของโมฮา”