นิทานก่อนนอนเรื่อง แม่มดใจดี เป็นนิทานเรื่องแรกในชีวิตที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) ได้ตีพิมพ์ในนิตยสารขวัญเรือน แม้นิทานเรื่องนี้จะไม่ใช่นิทานเรื่องแรกที่ผมแต่ง (เพราะผมเคยแต่งนิทานออกโทรทัศน์มาก่อน) แต่นิทานเรื่องนี้ถือเป็นนิทานเรื่องแรกในฐานะนักแต่งนิทานอาชีพ ผมจึงถือว่านิทานเรื่องนี้เป็นนิทานเรื่องพิเศษอีกเรื่องหนึ่ง
สำหรับเรื่องราวในนิทานก่อนนอนสั้น ๆ เรื่องแม่มดใจดี ตัวละครถือว่ามีความแตกต่างจากแนวทางดั้งเดิมของนิทานทั่วไป เพราะตามปกติ เมื่อพูดถึงแม่มดในนิทาน แม่มดก็มักจะถูกมอบบทบาทให้เป็นตัวร้ายเสมอ เราจึงมักพบนิทานแม่มดใจร้ายอยู่เต็มไปหมด ผมจึงอยากลองแต่งนิทานแม่มดใจดีออกมา เพื่อทำให้เด็ก ๆ เห็นแง่มุมที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งหวังว่าผู้อ่านจะชอบนิทานเรื่องนี้กันนะครับ
นิทานเรื่อง แม่มดใจดี
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีแม่มดตนหนึ่งเป็นแม่มดที่แตกต่างจากแม่มดทั่วไปที่พวกเราเคยรู้จัก เพราะนอกจากเธอจะมีหน้าตาสะสวยและชอบใส่ชุดสีขาวแล้ว เธอยังเป็นแม่มดผู้มีจิตใจดีงาม แถมยังใจดีกับเด็ก ๆ อีกด้วย
ในขณะที่แม่มดทั้งหลายหมั่นศึกษาเวทมนตร์อันร้ายกาจเพื่อใช้ทำร้ายมนุษย์ แต่แม่มดใจดีกลับเลือกเรียนวิชาทำขนมจากสูตรลับตำรับโบราณซึ่งไม่มีแม่มดตนไหนเคยให้ความสนใจมาก่อน
คนที่ทำอะไรไม่เหมือนคนอื่นมักถูกมองว่าเป็นคนผิดปกติ แม่มดใจดีก็เช่นกัน! เมื่อแม่มดใจดีสนใจเรียนรู้เฉพาะวิธีทำขนม แม่มดทั้งหลายจึงพากันซุบซิบว่าแม่มดใจดีเป็นแม่มดที่มีความคิดเพี้ยน ๆ ซึ่งการคิดเช่นนี้คงทำให้เธอไม่มีโอกาสก้าวหน้าได้เลยตลอดชั่วชีวิต
แม้แม่มดทั้งหลายจะพากันว่าร้ายแม่มดใจดีต่าง ๆ นานา แต่แม่มดใจดีกลับไม่เคยใส่ใจต่อคำพูดของแม่มดเหล่านั้น ในทางกลับกัน…เธอยังคงตั้งใจฝึกฝนทำขนมสูตรต่าง ๆ อย่างไม่คิดย่อท้อต่อความยากลำบาก
หลายปีผ่านไป ในที่สุด แม่มดใจดีก็เรียนรู้วิธีทำขนมสูตรต่าง ๆ ได้ครบทุกชนิด ซึ่งเมื่อแม่มดใจดีมีความเชี่ยวชาญในการทำขนมมากพอ เธอจึงตัดสินใจเปิดร้านขายขนมในดินแดนแห่งเวทมนตร์ด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
ในวันเปิดร้าน แม่มดใจดีรีบเข้าครัวตั้งแต่เช้าแล้วลงมือทำคุกกี้เป็นลำดับแรก กลิ่นหอมของคุกกี้จากสูตรลับตำรับแม่มดลอยอบอวนชวนให้แม่มดทั้งหลายน้ำลายไหล ความหอมกรุ่นของคุกกี้ดึงดูดให้แม่มดทุกตนเผลอตัวลุกขึ้นจากที่นอน แล้วขี่ไม้กวาตรงมาที่ร้านขายขนมของแม่มดใจดีจนแออัดยัดเยียดไปหมด
เมื่อเหล่าแม่มดมาถึงหน้าร้านของแม่มดใจดี แม่มดทั้งหลายก็ยิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้นไปอีก เพราะขนมแต่ละชนิดที่แม่มดใจดีนำออกมาจากครัวล้วนแล้วแต่น่ากินด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น คุกกี้ผีกองกอย เยลลี่ผีกุ๊กกิ๊ก แดร็กคิวล่าปาท่องโก๋ ขนมปังหัวกระโหลก ฝอยทองคะนองฤทธิ์ แซนด์วิชพิศวง ขนมชั้นน้ำมันพราย ทับทิมกรอบปอบผีฟ้า รวมทั้ง ส้มตำมัมมี่ ซึ่งเป็นอาหารอีสานของไทยที่แม่มดใจดีดัดแปลงเป็นอาหารว่างแสนอร่อยได้สำเร็จเป็นคนแรก
แม้ว่าแม่มดแต่ละตนจะต้องการลองลิ้มชิมรสขนมต่าง ๆ ของแม่มดใจดีจนแทบอดใจเอาไว้ไหว แต่น่าเสียดายที่ขนมของแม่มดใจดีไม่ได้มีไว้ขาย เพราะหากใครอยากชิม คนผู้นั้นก็จะต้องลงมือทำความดี แล้วนำความดีมาแลกกับขนม
พวกแม่มดต่างผิดหวังไปตาม ๆ กัน เพราะนับตั้งแต่เกิดมาจนมีอายุถึงปูนนี้ แม่มดแต่ละตนก็ยังไม่เคยลองทำความดีกันเลยแม้สักครั้งเดียว แต่ด้วยกลิ่นหอมของขนมที่เย้ายวนชวนให้หลงใหล เหล่าแม่มดทั้งหมดจึงตัดสินใจทำสิ่งที่พวกเธอไม่เคยทำมาก่อน นั่นก็คือ…การเดินทางไปยังโลกมนุษย์เพื่อทดลองทำความดีเป็นครั้งแรกในชีวิต
แม่มดบางตนเลือกทำความดีด้วยการขี่ไม้กวาดไปเก็บว่าวที่ติดอยู่ตามต้นไม้ให้แก่เด็ก ๆ แม่มดบางตนใช้เวทมนตร์ปรุงยาเพื่อช่วยเหลือผู้คนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ส่วนแม่มดบางตนใช้ไม้กวาดกวาดถนนจนทุกซอกทุกมุมดูสะอาดเอี่ยมเรี่ยมเร้
เมื่อแม่มดทั้งหมดขี่ไม้กวาดกลับมายังดินแดนแห่งเวทมนตร์ แม่มดใจดีจึงรีบจัดแจงยกขนมอร่อย ๆ ออกมาต้อนรับ แล้วปล่อยให้แม่มดทั้งหลายกินขนมแสนอร่อยจนพุงกางไปตาม ๆ กัน
ในที่สุด เหล่าแม่มดก็ได้ค้นพบว่า การทำความดีไม่ใช่เรื่องยาก ยิ่งทำก็ยิ่งมีความสุข
นับจากนั้นเป็นต้นมา แม่มดทุกตนก็พร้อมใจกันทำความดีจนเป็นกิจวัตร ทั้งนี้…ไม่ใช่เพราะพวกเธออยากกินขนมอร่อย ๆ เท่านั้น แต่เป็นเพราะเหล่าแม่มดต่างติดใจในการทำความดีและมีความสุขที่จะได้ทำความดีช่วยเหลือผู้อื่นนั่นเอง
#นิทานนำบุญ
…………………..

อยากเป้นแม่มดดด
LikeLike
เป็นแม่มดใจดีหรือเปล่าครับ 🙂
LikeLike