นิทานก่อนนอน : นกน้อยปริศนา
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเด็กผู้ชายหัวฟู้ฟูคนหนึ่งเป็นเด็กกำพร้า นับตั้งแต่วันที่พ่อกับแม่จากเขาไป เขาก็จำต้องย้ายมาอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าที่แออัดยัดเยียด เด็กน้อยไม่ชอบที่ ๆ มีคนเยอะ ๆ แบบนี้เลย ดังนั้น เขาจึงมักจะปลีกตัวออกไปนั่งเล่นในทุ่งดอกไม้อยู่เสมอ ๆ
เวลาที่เด็กน้อยอยู่ตามลำพังในทุ่งดอกไม้ สิ่งที่เขาชอบทำก็คือ การโรยเมล็ดพืชบนหัวฟู ๆ ของเขาเพื่อเรียกให้นกบินมากินอาหารและนอนเล่นในรังเส้นผมที่แสนอ่อนนุ่ม เด็กน้อยชอบฟังเสียงนกร้องเพลง เพราะมันช่วยกล่อมให้เขาคลายความว้าเหว่ลงได้บ้าง
วันหนึ่ง ในขณะที่เด็กน้อยกำลังนั่งคิดถึงพ่อกับแม่ จู่ ๆ เด็กน้อยก็เห็นนกสีขาวที่ปีกข้างขวามีจุดสีฟ้าและปีกข้างซ้ายมีจุดสีชมพูบินลงมาเกาะที่ตักของเขาพร้อมกับร้องจิ๊บ ๆ ด้วยน้ำเสียงที่น่ารักเป็นที่สุด เด็กน้อยจำได้ว่าคุณพ่อของเขาชอบสีฟ้า ส่วนคุณแม่ก็โปรดปรานสีชมพูมากเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ เด็กน้อยจึงอดที่จะคิดไม่ได้ว่า เจ้านกสีขาวอาจจะเป็นนกที่พ่อกับแม่ส่งมาทักทายเขาจากสรวงสวรรค์เบื้องบน
เมื่อเด็กน้อยผู้ว้าเหว่คิดเข้าข้างตัวเองเช่นนั้นแล้ว เขาจึงตัดสินใจเขียนจดหมายให้นกน้อยนำกลับไปมอบให้แก่นายของมันอย่างไม่รอช้า แม้เด็กน้อยจะไม่แน่ใจนักว่านกสีขาวจะนำข้อความไปส่งให้เขาจริงหรือไม่ แต่ทุก ๆ ครั้งที่เจ้านกกระจิริดบินกลับมานอนบนผมฟู ๆ ของเขา เด็กน้อยก็ไม่เคยพบจดหมายฉบับเก่า ๆ ที่เขาฝากไปกับมันเลยแม้สักครั้ง
ทุก ๆ วัน เด็กน้อยจะนั่งเขียนจดหมายเพื่อส่งไปหาพ่อกับแม่ของเขาอย่างไม่รู้เบื่อ บางครั้ง..เขาจะเขียนเล่าถึงสิ่งดี ๆ ที่ได้พบ บางครั้ง..เขาก็เผลอบรรยายความรู้สึกที่โดดเดี่ยวอ้างว้าง และมีบ่อยครั้งที่เขานึกสนุกเขียนนิทานส่งไปให้พ่อกับแม่อ่านเล่นบนสรวงสวรรค์ เด็กน้อยมีความสุขมากที่เขาได้เขียนจดหมายหาพ่อกับแม่
จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง เด็กน้อยเกิดล้มป่วยลงจนไม่มีแรงพอที่จะออกไปยังทุ่งดอกไม้ หรือแม้แต่จะลงมือเขียนจดหมายสักฉบับ นกสีขาวได้แต่แอบบินเข้ามาเฝ้าไข้อยู่ที่หัวเตียง แต่ด้วยความแออัดของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้น อาการของเด็กน้อยจึงค่อย ๆ ทรุดลงจนน่าเป็นห่วง
ในขณะที่เด็กน้อยกำลังป่วยหนัก จู่ ๆ ทางสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ได้รับแจ้งว่า พระราชากับพระราชินีจะเสด็จมาเยี่ยมชมสถานเลี้ยงเด็กเป็นกรณีพิเศษ ไม่มีใครทราบว่าทั้งสองพระองค์มีพระประสงค์เช่นไร แต่ข่าวที่ได้รับทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวุ่นวายกับการทำความสะอาดและจัดระเบียบสถานเลี้ยงเด็กกันยกใหญ่
เมื่อพระราชากับพระราชินีเดินทางมาถึงสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แทนที่ทั้งสองพระองค์จะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล ล้นเกล้าทั้งสองกลับมองไปรอบ ๆ ห้องคล้ายกับต้องการหาอะไรบางอย่าง ซึ่งเมื่อหาพบ ทั้งคู่ก็รีบเดินตรงไปยังเตียงนอนของเด็กน้อยซึ่งมีนกสีขาวเกาะอยู่ทันที
พระราชากับพระราชินีทรงมองเด็กน้อยด้วยความเวทนา จากนั้น ทั้งสองพระองค์ก็ทรงโน้มตัวลงแล้วพูดกับเด็กน้อยด้วยน้ำเสียงที่แสนอ่อนโยนว่า “ที่แท้…เจ้าของจดหมายทั้งหมดก็คือเธอนี่เอง เจ้านกแปลกหน้าตัวนี้นำจดหมายของเธอมาให้เราอ่านทุก ๆ วัน ยิ่งอ่าน…เราก็ยิ่งอยากพบหน้า จนเมื่อเธอหยุดส่งจดหมายไปเสียเฉย ๆ เราจึงรู้ว่าเธอสำคัญกับเรามากเพียงใดพวกเราไม่มีลูก หากเธอไม่รังเกียจ เธอพอจะมาเป็นลูกของเราได้ไหมจ๊ะ”
เด็กน้อยทั้งแปลกใจและตื้นตันใจที่ได้ฟังถ้อยคำอันแสนอบอุ่นของพระราชากับพระราชินีผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความกรุณา เด็กน้อยนิ่งอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุด เขาก็หลั่งน้ำตาแล้วโผเข้ากอดพ่อกับแม่คนใหม่ของเขาด้วยความปลื้มปีติ
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา พระราชากับพระราชินีผู้อิ่มเอมไปด้วยความสุขก็ทรงปรับปรุงสถานเลี้ยงเด็กให้ดีขึ้น ทั้งยังชวนเด็กกำพร้าคนอื่น ๆ พร้อมกับผู้คนที่อยากมีลูกให้มาทำความรู้จักกันท่ามกลางแสงแดดอุ่น ๆ และสายลมอ่อน ๆ ในสวนของพระองค์อยู่เสมอ ๆ
เจ้านกสีขาวที่ปีกข้างขวามีจุดสีฟ้าและปีกข้างซ้ายมีจุดสีชมพูดีใจที่เห็นทุก ๆ คนมีความสุขเช่นนั้น และแล้ว…นกน้อยก็บินจากทุก ๆ คนไปสู่ฟากฟ้าเบื้องบนโดยปล่อยให้ที่มาของมันยังคงเป็นปริศนาตราบชั่วนิจนิรันดร์
#นิทานนำบุญ
…………………………………..

ขอบคุณครับที่แต่งเรื่องราวดีๆ
ทำให้ผมมีนิทานไปเล่าให้ลูกสาวฟัง
LikeLike
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
LikeLike
ขอบคุณนิทานดีๆ ผมเล่าให้เมียผมฟังทุกคืนเลย
LikeLike
ขอบคุณเช่นกันนะครับ
LikeLike
นิทานน่ารักมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ
LikeLike
ดีใจที่ชอบนะครับ
LikeLike
อ่านสนุกน่าติดตามครับ
LikeLike
ขอบคุณครับ
LikeLike
สนุกมากค่ะ
LikeLike
ขอบคุณนะครับ
LikeLike
ลูกสาวชอบฟังนิทานนำบุญทุกวันเลยค่ะ ชอบมากๆให้อ่านวันละ1-2เรื่องทุกวัน คุณแม่ขออนุญาติเลี้ยงกาแฟคุณผู้แต่งนะคะ จะได้มีแรงผลิตผลงานดีๆตลอดไปค่ะ😊 เป็นกำลังใจให้ค่ะ
LikeLike
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ ช่วงนี้รักษาสุขภาพด้วยนะครับ และฝากความรักจากนักแต่งนิทานไปให้ลูกสาวด้วยนะครับ ฝากบอกว่า “เป็นเด็กดีนะจ๊ะ เวลาฟังนิทานจบแล้ว อย่าลืมหอมให้กำลังใจคุณแม่ด้วยนะ” ขอบคุณอีกครั้งนะครับ
LikeLike
อ่านดีสนุกมีประโยชน์กับเด็กๆๆมากค่ะ
LikeLike
ขอบคุณนะครับ
LikeLike
ผมชื่นชอบนิทานปบบนี้มากๆ เลย และขอชื่นชม อุดมการ ในการทำเพื่อคนอื่น อาจไม่มากเท่าไหร่ แต่อยากสนับสนุนครับ
LikeLike
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ
LikeLike
เป็นนิทานที่สนุกมากเลยค่ะ เราเล่าให้แฟนฟังทุกคืนเลย นิทานของคุณนำบุญสนุกทุกเรื่องจริงๆ ถึงเราจะอายุน้อยแต่ก็ขอสนับสนุนนะคะ
LikeLike
ขอบคุณนะครับสำหรับกำลังใจที่มอบให้ ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและผ่านช่วงเวลายาก ๆ ในยุคโควิดระบาดไปได้อย่างปลอดภัยนะครับ
LikeLike
ขอบคุณสำหรับนิทานสนุกๆ นะคะ แม่อ่านให้ลูกชายวัย 9 เดือนฟังค่ะ 👶 ขอเป็นกำลังใจให้นิทานนำบุญ และเขียนนิทานดีๆ แบบนี้มาให้พวกเราอ่านอีกเยอะๆ นะคะ 😃😃
LikeLike
ขอบคุณสำหรับนิทานสนุกๆ นะคะ แม่อ่านให้ลูกชายวัย 9 เดือนฟังค่ะ 👶 ขอเป็นกำลังใจให้นิทานนำบุญ และเขียนนิทานดีๆ แบบนี้มาให้พวกเราอ่านอีกเยอะๆ นะคะ 😃😃
LikeLike
สวัสดีครับ ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่คุณแม่อ่านนิทานนำบุญให้ลูกน้อยฟัง เด็กวัย 9 เดือนกำลังน่ารักเลยนะครับ อีกไม่นาน คนดีก็คงยืนและเดินได้ตามลำดับ เสียงอ่านนิทานของคุณแม่และสัมผัสที่เกิดขึ้นจะทำให้ลูกน้อยอบอุ่นใจ ที่สำคัญ ยิ่งได้ฟังถ้อยคำต่าง ๆ จากนิทานมากเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้ก็จะสะสมทำให้เด็กเกิดพัฒนาการทางภาษาที่ดีขึ้นมากเท่านั้น ผมชื่นชมคุณแม่ที่ยอมเหนื่อยอ่านนิทานให้ลูกฟังนะครับ (คงเพราะความรักนี่เอง ที่ทำให้คุณแม่ทำเพื่อลูกได้ทุกอย่าง) ขอให้คุณแม่และลูกน้อย (รวมทั้งทุกคนในครอบครัว) มีสุขภาพที่แข็งแรงนะครับ เป็นกำลังใจให้กันครับ 🙂
LikeLike
ขอบคุณนะที่เขียนนิทานสนุกๆให้ได้อ่านให้คุณแฟนฟังทุกวันชอบนิทานของพี่มากเลยครับเป็นกำลังใจให้ทำต่อไปครับ🙏❤️
LikeLike
ขอบคุณมาก ๆ นะครับ
LikeLike
ขอบคุณมากเลยนะคะที่ทำนิทานออกมา หนูเล่าให้คนคุยหนูฟังทุกคืนเลยค่ะ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้คบ 😂 ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ทำนิทานดีๆต่อไปนะคะ สนับสนุนค่ะ 💗
LikeLike
ขอบคุณที่เล่าเรื่องและส่งกำลังใจมานะครับ พี่ขอเป็นกำลังใจให้ในเรื่องของคนที่คุยอยู่ พี่อยากแนะนำให้ลองอ่านนิทานเรื่องคูโมจู้กับนีจิ (พี่จำชื่อไม่ค่อยได้ 555 เป็นนิทานความรัก) นิทานเรื่องนั้นมีแก่นเรื่องที่บอกว่า ถ้า ณ เวลานึง ที่่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีพอสมควรกับคนที่เราชอบ บางที แค่เรารักษาความสัมพันธ์ที่ดีนั้นไว้ให้คงที่ ไม่ทำอะไรที่มากไปหรือน้อยไป หากทั้งสองเป็นเนื้อคู่กัน วันนึงความสัมพันธ์ก็คงขยับใกล้ชิดกันเอง แต่ถ้าไม่ใช่เนื้อคู่ อยากน้อยก็ยังมีความรู้สึกดี ๆ เท่านี้ให้กันไปเรื่อย ๆ (ซึ่งคงดีกว่าการเสียใจหากเร่งรัดมากเกินไป) 🙂
LikeLike