นิทานก่อนนอนเรื่อง “ลูกกระต่ายยอดนักประดิษฐ์” พาเด็ก ๆ ไปพบกับสามพี่น้องกระต่ายที่ต้องสร้างหุ่นยนต์สุดล้ำ เพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดจากดาวอึมครึม! เรื่องราวสนุก ตลก และแฝงข้อคิดที่เด็ก ๆ จะจดจำได้ไม่มีวันลืม
มาเริ่มอ่านนิทานเรื่อง “ลูกกระต่ายยอดนักประดิษฐ์” ด้วยกันนะครับ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีลูกกระต่ายสามตัวเป็นพี่น้องกัน พวกมันอาศัยอยู่ด้วยกันบนดาวเล็ก ๆ ดวงหนึ่งที่มีชื่อว่า “ดาวแคร์รอต” ซึ่งเป็นดาวของเหล่านักประดิษฐ์ผู้รักในเครื่องจักรกลและการประดิษฐ์สิ่งของต่าง ๆ
วันหนึ่ง เมื่อกระต่ายทั้งสามโตพอสมควร พวกมันได้ทราบข่าวที่น่าตกใจว่า สัตว์ประหลาดจอมเกเรจากดาวอึมครึม กำลังจะบุกมาทำลายบ้านเมืองของพวกมัน
ชาวเมืองต่างแตกตื่นและพากันเตรียมหนีไปยังดาวดวงอื่น แต่ลูกกระต่ายน้อยทั้งสามตัดสินใจที่จะสู้ พวกมันจึงแยกย้ายกันไปสร้างหุ่นยนต์ของตัวเอง เพื่อปกป้องดวงดาวบ้านเกิดที่พวกมันรักแสนรัก
กระต่ายพี่ใหญ่ ชื่อว่า “ตุ้มตุ้ย” เป็นกระต่ายที่มักง่ายและค่อนข้างขี้เกียจ มันเลือกสร้างหุ่นยนต์จากเศษเหล็กเก่า ๆ ที่หาได้ใกล้ตัว แล้วสร้างหุ่นยนต์อย่างลวก ๆ เพื่อเอาเวลาที่เหลือไปนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือ กับกินขนมกรุบกรอบแบบที่มันชอบ หุ่นยนต์ของตุ้มตุ้ยจึงเสร็จเร็วที่สุด แต่ข้อต่อของหุ่นยนต์และวงจรไฟฟ้าต่าง ๆ จะไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไรนัก
กระต่ายตัวที่สอง ชื่อว่า “ฟรุ้งฟริ้ง” เป็นกระต่ายผู้หญิงที่ไม่ขี้เกียจแบบตุ้มตุ้ยผู้เป็นพี่ แต่มันติดนิสัยชอบเน้นความสวยงามน่ารักมากกว่าเรื่องประโยชน์ใช้สอย หุ่นยนต์ของฟรุ้งฟริ้งจึงดูสวยงาม ทำจากวัสดุใหม่เอี่ยมแวววับ มีไฟตกแต่งตามจุดต่าง ๆ แถมมีเส้นผมยาวสลวยสวยเก๋ หุ่นยนต์ของฟรุ้งฟริ้งจึงดูสวยงามมาก แต่ระบบกลไกภายในและเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานอาจจะค่อนข้างด้อยไปสักนิด
ส่วนกระต่ายตัวสุดท้องน้องสุดท้าย ชื่อว่า “ดึ๋งดึ๋ง” เป็นกระต่ายที่เฉลียวฉลาด ขยัน อดทน และมองการณ์ไกล แทนที่ดึ๋งดึ๋งจะเลือกสร้างหุ่นยนต์ง่าย ๆ แบบตุ้มตุ้ย หรือเน้นแต่ความสวยงามแบบฟรุ้งฟริ้ง ดึ๋งดึ๋งกลับเลือกใช้วัสดุที่เน้นเรื่องความแข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ แถมหุ้มด้วยฉนวนกันไฟไว้ทั้งหมด และเสริมระบบกันกระแทกเครื่องยนต์ภายในอย่างแน่นหนา นอกจากนี้ ดึ๋งดึ๋งยังติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ไว้ที่หุ่นยนต์ของเขาด้วย เพื่อให้มันสามารถชาร์จพลังงานได้ในระหว่างการต่อสู้
หลังจากที่ลูกกระต่ายสร้างหุ่นยนต์เสร็จได้ไม่กี่วัน สัตว์ประหลาดจากดาวอึมครึมก็บุกมาถึง “ดาวแคร์รอต” สัตว์ประหลาดจากดาวอึมครึมมีร่างกายใหญ่โต มีขนรุงรังสีเทาหม่น และมีดวงตาแดงก่ำเหมือนถ่านไฟร้อน ๆ เจ้าสัตว์ประหลาดคำรามเสียงดังลั่นว่า “แฮ่” แล้วก็เดินดุ่ม ๆ ตรงมายังที่อยู่ของพวกกระต่าย ซึ่งบ้านหลังแรกที่อยู่ใกล้ที่สุด ก็คือบ้านของตุ้มตุ้ยนั่นเอง
เมื่อตุ้มตุ้ยเห็นสัตว์ประหลาดเดินเข้ามาหา ตุ้มตุ้ยจึงบังคับหุ่นยนต์ตัวแรกให้เดินออกจากโรงเก็บหุ่นเพื่อไปต่อสู้
หุ่นยนต์ของตุ้มตุ้ยเดินออกไปพร้อมกับเสียงเอี๊ยดอ๊าดดูไม่ค่อยแข็งแรงนัก ข้อต่อของหุ่นยนต์สั่นไหวตามสายลมที่พัดเข้ามาปะทะ เมื่อสัตว์ประหลาดฟาดแขนเข้าใส่เพียงครั้งเดียว หุ่นยนต์ของตุ้มตุ้ยก็ล้มลงจนชิ้นส่วนต่าง ๆ กระเด็นกระดอนไปทั่ว และวงจรไฟฟ้าภายในก็พังจนไม่สามารถจะใช้งานได้อีก
ตุ้มตุ้ยตกใจมาก มันรีบวิ่งหนีแต่วิ่งไม่ค่อยไหว จึงกลิ้งหนีไปหาฟรุ้งฟริ้งที่มีหุ่นยนต์ที่ดูแข็งแรงกว่า ตุ้มตุ้ยหวังว่าหุ่นยนต์ของฟรุ้งฟริ้งจะช่วยจัดการกับเจ้าสัตว์ประหลาดได้
เมื่อสัตว์ประหลาดเห็นตุ้มตุ้ยกลิ้งหนี มันจึงก้าวเดินตามไปเรื่อย ๆ จนพบว่าตุ้มตุ้ยกลิ้งไปยังบ้านของกระต่ายฟรุ้งฟริ้งที่แสนน่ารัก
สัตว์ประหลาดมองฟรุ้งฟริ้งที่ยืนรออยู่ และมองหุ่นยนต์ของฟรุ้งฟริ้งที่สวยงามเหมือนรถสปอร์ต มันเป็นหุ่นยนต์ที่สวยมาก แถมออกแบบเหมือนมีเส้นผมพริ้วไหว ดูแล้วน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด สัตว์ประหลาดจึงเปิดศึกด้วยการอ้าปากกว้าง แล้วพ่นไฟเข้าใส่เสียงดัง “ฟู่วววว”
แม้เปลวไฟจะร้อนแรงเพียงใด แต่มันกลับทำอะไรร่างกายของหุ่นยนต์ที่สร้างจากวัสดุชั้นดีไม่ได้เลย ยกเว้นก็แต่เส้นผมของหุ่นยนต์ที่ทำให้หุ่นยนต์ดูสวย แต่กลับเป็นวัสดุที่ติดไฟได้ ด้วยเหตุนี้ ไฟจึงลามตามเส้นผมเข้าไปยังกล่องวงจรไฟฟ้าภายใน ทำให้เกิดประกายไฟ แล้วหุ่นยนต์แสนสวยของฟรุ้งฟริ้งก็ระเบิดตูม จนเกิดควันดำลอยคลุ้งไปทั่ว
ฟรุ้งฟริ้งตกใจมาก แต่เมื่อตั้งสติได้ มันก็รีบพาตุ้มตุ้ยขึ้นนั่งบนจักรยานยนต์ลอยฟ้า (ที่แน่นอนว่าตกแต่งอย่างน่ารัก) แล้วขับยานหนีจากสัตว์ประหลาด เพื่อไปหาดึ๋งดึ๋งที่บ้านทันที
เมื่อกระต่ายทั้งสองไปถึงบ้านของดึ๋งดึ๋ง พวกมันพบว่าดึ๋งดึ๋งบังคับหุ่นยนต์ออกมาจากห้องปฏิบัติการ และยืนรอรับมือกับสัตว์ประหลาดอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อสัตว์ประหลาดตามมาถึงบ้านของดึ๋งดึ๋ง มันก็จ้องมองหุ่นยนต์ตัวสุดท้ายที่ยืนอยู่เบื้องหน้า พลางคิดในใจว่า “ถ้าจัดการหุ่นยนต์ตัวนี้เสร็จ ข้าจะจับพวกเจ้าทั้งสามตัวกินให้พุงกางไปเลย”
สัตว์ประหลาดกระหยิ่มยิ้มย่องเพราะมั่นใจว่ามันต้องเอาชนะหุ่นยนต์ของกระต่ายดึ๋งดึ๋งได้แน่ แต่อนิจจา! สัตว์ประหลาดไม่รู้เลยว่า หุ่นยนต์ของดึ๋งดึ๋งทำจากโลหะชนิดพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุด แถมมีเกราะหนาหลายชั้นหุ้มอยู่ด้านนอก และมีฉนวนกันไฟห่อหุ้มวงจรภายใน นอกจากนี้ ยังมีแผงโซลาร์เซลล์เพื่อชาร์จพลังงานจากแสงอาทิตย์
เมื่อสัตว์ประหลาดอ้าปากกว้าง แล้วพ่นไฟออกมาเสียงดัง “ฟู่วววววววววว” เปลวไฟของสัตว์ประหลาดที่พุ่งเข้าใส่หุ่นยนต์ของดึ๋งดึ๋งกลับไม่สามารถเผาไหม้เกราะที่หุ้มอยู่ด้านนอกได้เลย หุ่นยนต์ของดึ๋งดึ๋งยังคงยืนตระหง่าน ไม่สะทกสะท้าน ซึ่งมันทำให้สัตว์ประหลาดโมโหมาก สัตว์ประหลาดจึงพุ่งเข้าชนหุ่นยนต์ที่อยู่ตรงหน้า แต่หุ่นยนต์ของดึ๋งดึ๋งมีการเสริมระบบกันกระแทกอย่างแน่นหนา แรงกระแทกจึงสะท้อนกลับ ทำให้สัตว์ประหลาดเซจนเกือบล้ม
สัตว์ประหลาดไม่เคยเจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่มันก็ไม่ยอมแพ้ สัตว์ประหลาดยังคงเข้าปะทะ พ่นไฟ บุกเข้าใส่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งสัตว์ประหลาดเริ่มหมดแรงเอง
ในขณะที่สัตว์ประหลาดอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ แต่หุ่นยนต์ยังคงมีพลังงานอย่างเต็มที่ เพราะมีแผงโซลาร์เซลล์ที่คอยชาร์จพลังงานจากแสงแดดอยู่ตลอดเวลา
ในที่สุด เมื่อการต่อสู้ยืดเยื้ออยู่หลายชั่วโมง และสัตว์ประหลาดเหลือแรงเพียงเฮือกสุดท้ายเท่านั้น มันจึงตัดสินใจใช้ท่าไม้ตาย คือการสูดลมหายใจเพื่อพ่นไฟที่แรงที่สุดใส่หุ่นยนต์ของดึ๋งดึ๋งอีกครั้ง
แต่อนิจจา…ทันทีที่สัตว์ประหลาดหายใจเข้า มันกลับรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ท้องเหมือนอะไรบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น!
ในวินาทีนั้น สัตว์ประหลาดเพิ่งรู้ตัวว่า มันอั้นอึไว้นานเกินไปแล้ว เพราะมันไม่ได้ปลดทุกข์ในห้องน้ำมาตั้งแต่เมื่อคืน ซึ่งตอนนี้ “ข้าศึก” ภายในตัวกำลังจะบุกออกมาอย่างยากที่จะควบคุมได้
สัตว์ประหลาดจึงตะโกนออกมาว่า “ข้าไม่ไหวแล้ว ข้ายอมพวกเจ้าแล้ว” เมื่อพูดจบ สัตว์ประหลาดก็รีบเผ่นออกจากดาวแคร์รอต และไม่เคยคิดกลับมาที่นี่อีกเลย
ในที่สุด ดาวแคร์รอตก็กลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง ชาวเมืองต่างพากันดีใจที่สัตว์ประหลาดหนีกลับไป และชาวเมืองต่างก็ยกย่องดึ๋งดึ๋งว่าเป็นฮีโร่ตัวจริง ที่ช่วยปกป้องบ้านเกิดของทุกคนเอาไว้ได้
ตุ้มตุ้ยและฟรุ้งฟริ้งขอบใจดึ๋งดึ๋งที่ช่วยให้พวกมันให้รอดพ้นจากอันตรายครั้งใหญ่ ทั้งสองเข้าใจแล้วว่า ความมักง่ายและการใส่ใจแต่ความสวยงาม อาจทำให้เกิดอันตรายที่ไม่คาดคิด
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งตุ้มตุ้ยและฟรุ้งฟริ้งก็เริ่มทำงานอย่างเอาใจใส่ และรอบคอบมากขึ้น
และแล้ว เรื่องราววุ่นวายทั้งหมดก็จบลงอย่างมีความสุข
ข้อคิดจากนิทานเรื่องนี้ :
- การมักง่ายอาจทำให้ล้มเหลวในเวลาสำคัญ
- ความขยัน อดทน และการคิดเผื่ออนาคตจะนำไปสู่ความสำเร็จ
#นิทานนำบุญ


ขอบคุณมากค่ะ เพลิดเพลินมากเลย เอ็นดูตุ้มตุ้ย วิ่งไม่ค่อยไหว กลิ้งหนีดีกว่า
LikeLike
ขอบคุณครับ เรามากลิ้งไปพร้อม ๆ กันครับ อิอิ
LikeLike
ผมอ่านให้แฟนฟังทุกวันเลยครับ นิทานดีมากเลย ทำต่อไปเรื่อยๆนะครับ
LikeLike