นิทานก่อนนอนเรื่องยาว ๆ เรื่อง “สาวน้อยนักทอผ้า” เป็นนิทานที่ผม (นำบุญ นามเป็นบุญ) แต่งขึ้นใหม่ในสไตล์ “นิทานคลาสสิก” ถ้าไม่บอกว่าเป็นนิทานที่แต่งใหม่ หลายคนอาจนึกว่าเป็นนิทานอมตะจากต่างประเทศ นิทานเรื่องนี้มีคติสอนใจหลายอย่าง หวังว่าผู้อ่านจะชอบ ส่วนผู้เขียนชอบนิทานเรื่องนี้มาก เพราะการแต่งนิทานแนวนี้ให้แตกต่างจากนิทานคลาสสิกที่มีอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ลองอ่านกันดูนะครับ
นิทานเรื่อง สาวน้อยนักทอผ้า
จัสมินเป็นลูกสาวของช่างทอผ้าฝีมือเยี่ยม หลังจากที่แม่ของจัสมินด่วนจากไป พ่อของเธอก็แต่งงานใหม่ ซึ่งทำให้จัสมินได้แม่เลี้ยงและน้องสาวเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย จัสมินรักแม่เลี้ยงและลูกของนางเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แต่แม่เลี้ยงไม่คิดเช่นนั้น เธอกลับจงเกลียดจงชังและหาทางกลั่นแกล้งจัสมินอยู่เสมอ ๆ
ต่อมาไม่นาน พ่อของจัสมินก็เกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตไปอีกคน แม่เลี้ยงใจร้ายจึงบังคับให้จัสมินทำงานบ้านราวกับเธอเป็นทาสรับใช้ รวมทั้งไล่จัสมินให้ไปนอนในกระท่อมโกโรโกโสที่อยู่ปลายสวนตามลำพังอีก แม้จัสมินจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ แต่เธอก็ยินยอมทำตามคำสั่งของแม่เลี้ยงโดยไม่เคยคิดจะขัดขืน
อยู่มาวันหนึ่ง พระราชาทรงอยากหาผ้าผืนงามเป็นของขวัญวันเกิดให้แก่พระราชินีผู้เป็นที่รัก พระองค์จึงป่าวประกาศให้ชาวเมืองแข่งกันทอผ้ารูปแบบต่าง ๆ เพื่อส่งผลงานเข้าประกวด ซึ่งผู้ชนะจะได้รับของรางวัลที่มีมูลค่าเกินความคาดหมาย
ชาวเมืองทั้งหลายรวมทั้งแม่เลี้ยงของจัสมินต่างก็ต้องการรางวัลของพระราชาด้วยกันทั้งนั้น เพราะเหตุนี้ ทุกครอบครัวจึงลงมือทอผ้ากันอย่างสุดชีวิต
แม่เลี้ยงใจร้ายรู้ดีว่าจัสมินมีฝีมือในการทอผ้าไม่แพ้พ่อ แม่เลี้ยงใจร้ายจึงสั่งให้จัสมิน ทอผ้าที่งดงามที่สุดสองผืน เพื่อให้นางกับลูกสาวนำไปประกวดชิงรางวัล
แม้จัสมินจะต้องเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานบ้านต่าง ๆ นานา แต่เธอก็ตั้งใจทอผ้าตามคำสั่งของแม่เลี้ยงโดยไม่ปริปากบ่น มิหนำซ้ำ เมื่อจัสมินกลับไปยังกระท่อมโกโรโกโสของเธอในตอนกลางคืน เด็กสาวผู้หมั่นเพียรก็ยังแอบทอผ้าของตนเองอีกผืนหนึ่งด้วย
เมื่อถึงกำหนดส่งผลงาน จัสมินนำผ้าทั้งสามผืนมาให้แม่เลี้ยงเลือก แม่เลี้ยงใจร้ายเลือกผ้าผืนใหญ่ที่สุดที่มีลายงามวิจิตรให้แก่ตนเอง จากนั้น นางก็เลือกผ้าคลุมไหล่ที่มีลวดลายอ่อนช้อยให้แก่ลูกสาว ส่วนผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่จัสมินใช้เวลาอันน้อยนิดในตอนกลางคืนทำขึ้นนั้น ทั้งแม่เลี้ยงและลูกสาวต่างก็ไม่ได้ชายตามองเลยแม้สักนิด
ครั้นเมื่อพระราชากับพระราชินีได้ชมผลงานผ้าทอทั้งหมดที่ส่งเข้าประกวด ทั้งสองพระองค์ก็ทรงเห็นพ้องต้องกันว่ามีผ้าเพียงสามผืนที่งดงามคู่ควรกับพระราชินีผู้สูงศักดิ์ แม้ผ้าทั้งสามผืนจะมีขนาดแตกต่างกัน แต่ทุกผืนล้วนแล้วแต่มีความงดงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
หลังจากที่พระราชากับพระราชินีทรงเลือกผ้าทอที่เข้ารอบสุดท้ายได้แล้ว พระองค์ก็ทรงเรียกตัวเจ้าของผลงานทั้งสามชิ้นให้มาเข้าเฝ้า ซึ่งผู้ที่ได้รับการเรียกตัวก็คือแม่เลี้ยงใจร้าย ลูกสาว และจัสมินนั่นเอง
เมื่อแม่เลี้ยงอยู่ต่อหน้าพระราชากับพระราชินี นางก็โกหกทั้งสองพระองค์ว่า แท้จริงแล้วนางเป็นผู้สอนให้ลูกสาวและลูกเลี้ยงได้รู้จักวิธีการทอผ้าและช่วยออกแบบลายผ้าทั้งสามผืน พระราชากับพระราชินีทรงรับฟังแต่ไม่ทรงเชื่อ ดังนั้น ก่อนการตัดสินรางวัล พระราชาจึงสั่งให้ผู้เข้ารอบทั้งสามสาธิตการทอผ้าตามแบบที่ส่งเข้ามาประกวด
แม่เลี้ยงใจร้ายกับลูกสาวได้แต่นั่งนิ่งหน้าซีดเพราะไม่เคยทอผ้าด้วยตัวเองมาก่อน ส่วนจัสมินเจ้าของผลงานตัวจริงก็ก้มหน้าก้มตาทอผ้าไปเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่อาจขัดคำสั่งของพระราชาและพระราชินีได้
ในที่สุด พระราชากับพระราชินีก็ทรงทราบว่าใครคือช่างทอผ้าผู้มีฝีมือสุดวิเศษ ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงตัดสินให้จัสมินเป็นผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อพระราชานำรางวัลสามรางวัลมามอบให้แก่จัสมิน ซึ่งประกอบไปด้วย แหวนเพชรหนึ่งวง สร้อยไข่มุกหนึ่งเส้นและภูเขาหัวโล้นหนึ่งลูก แทนที่จัสมินจะเก็บรางวัลทั้งหมดเอาไว้เอง จัสมินกลับขออนุญาตแบ่งรางวัลให้แก่แม่เลี้ยงและน้องสาวด้วย
พระราชากับพระราชินีทรงถูกชะตาในจิตใจอันดีงามของจัสมินเป็นอย่างมาก ทั้งสองพระองค์จึงทรงอนุญาตให้แบ่งรางวัลได้ แต่มีเงื่อนไขคือแม่เลี้ยงจะต้องยอมยกจัสมินให้มาทำงานรับใช้พระองค์อยู่ในวัง
แม่เลี้ยงใจร้ายซึ่งไม่เคยรักจัสมินเลยรีบตกลงรับข้อเสนอของพระราชาในทันที หลังจากนั้น นางกับลูกสาวก็เลือกเอาแหวนเพชรและสร้อยไข่มุกไปตามความคาดหมาย
พระราชากับพระราชินีทรงดีใจที่คนใจร้ายทั้งสองไม่ได้เลือกเอาภูเขาหัวโล้นเป็นรางวัล เพราะจริง ๆ แล้ว ภูเขาลูกดังกล่าวเป็นภูเขาที่มีแร่ทองคำซุกซ่อนอยู่มากมายจนไม่อาจประมาณค่าได้
เมื่อแม่เลี้ยงกับลูกสาวได้แหวนเพชรและสร้อยไข่มุกไปแล้ว ทั้งสองคนก็เที่ยวอวดของมีค่าให้ชาวบ้านชาวเมืองได้รู้กันโดยถ้วนหน้า ไม่นานนัก…เหล่ามิจฉาชีพที่ทราบข่าวก็บุกเข้าปล้นและชิงสมบัติเหล่านั้นไปจนหมด ส่วนจัสมินที่มีโอกาสได้อยู่รับใช้พระราชากับพระราชินีนั้น ด้วยความขยันหมั่นเพียรและจิตใจอันดีงามของเธอ ทั้งพระราชาและพระราชินีจึงรักและเอ็นดูจัสมินมากเป็นพิเศษ
ในที่สุด พระราชาและพระราชินีผู้ทรงไม่มีทายาทก็ตัดสินใจรับจัสมินมาเป็นลูกสาว หลังจากนั้น สาวน้อยผู้มีจิตใจดีงามก็ได้กลายเป็นเจ้าหญิงนักทอผ้าผู้เป็นที่รักของประชาชนทั้งมวล
#นิทานนำบุญ
………………

นิทานของคุณดีมากเลยคะ มีข้อคิดด้วยและสนุกมากเลยคะ
LikeLike