เด็กแต่ละคนมีธรรมชาติที่แตกต่างกัน แต่ความแตกต่างนี้เอง ทำให้เด็กบางคนอาจถูกเพื่อนปฏิเสธ รวมถึงทำให้เกิดการ Bully กันในโรงเรียน นิทานเรื่องนี้ จึงเป็นนิทานเรื่องหนึ่ง ที่คุณพ่อ คุณแม่ คุณครูอาจใช้เป็นเครื่องมือในการชี้ให้เด็กเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างกัน รวมทั้งใช้ปลูกฝังแนวทางที่เด็ก ๆ ควรปฏิบัติต่อกันและกัน โดยเฉพาะกับเพื่อนที่แตกต่างไปจากคนอื่น เพื่อที่ทุกคนจะได้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
นิทานเรื่อง พลูโต
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ ดาวเคราะห์ที่อยู่สุดขอบของจักรวาล ยังมีเด็กน้อยคนหนึ่ง อาศัยอยู่ที่ดาวดวงนั้นตามลำพัง…แต่มีความสุข
เด็กน้อยผู้นี้มีชื่อว่า “พลูโต” เขาเป็นเด็ก ที่ยิ้มให้กับเรื่องเล็กน้อยรอบตัวได้เสมอ พลูโตชอบมองท้องฟ้าสังเกตรูปทรงของก้อนหิน และสูดดมกลิ่นบางเบา ที่ล่องลองมาตามอากาศ แม้ดาวของพลูโตจะเต็มไปด้วยน้ำแข็ง แต่พลูโตใช้ความอบอุ่นในหัวใจ ปลูกต้นไม้ทั่วดวงดาวได้ถึง 365 ต้น ซึ่งพวกมันออกดอกสีจาง และส่งกลิ่นหอมท้าทายความหนาว ได้อย่างน่าอัศจรรย์
วันหนึ่ง พลูโตได้ข่าวว่า “รัฐบาลจักรวาล” อาจตัดดาวบางดวง ออกจากสังคมจักรวาล ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้ว ดวงดาวของพลูโตค่อนข้างเสี่ยงที่จะถูกตัดออกจากกลุ่ม ทั้งนี้เพราะมันเป็นดาวที่อยู่ห่างไกล แถมมีประชากอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น พลูโตจึงกังวลและหวั่นไหว ต่ออนาคตที่ยังมาไม่ถึง
ด้วยเหตุนี้เอง พลูโตจึงตัดสินใจทำสิ่งที่ไม่เคยทำ นั่นคือการออกเดินทางไปสร้างสัมพันธ์ กับเพื่อนใหม่ที่ดาวดวงอื่น ๆ เผื่อว่าเมื่อมีปัญหา เพื่อนใหม่อาจช่วยปกป้องดาวน้ำแข็งของเขา ให้ยังคงเป็นส่วนหนึ่งในสังคมจักรวาลแห่งนี้ได้
เมื่อพลูโตตัดสินใจเช่นนั้น เด็กน้อยจึงเหาะทะยานขึ้นจากพื้นน้ำแข็ง โดยมีต้นไม้ 365 ต้นส่ายกิ่งเสียดสีกันเป็นเสียง “ซู…ซู” เหมือนจะบอกให้พลูโต “สู้…สู้” ครั้นเมื่อพลูโตเดินทางไปถึงดาวดวงหนึ่งซึ่งมีพื้นเป็นสีชมพู และมีแต่เด็กผู้หญิงเต็มไปหมด พลูโตก็รีบเหาะเข้าไปใกล้ ๆ แล้วแนะนำตัวเพื่อขอสมัครเป็นเพื่อนใหม่ “ฉันชื่อพลูโต มาจากดวงดาวน้ำแข็ง ฉันขอเป็นเพื่อนด้วยคนจะได้ไหม” เมื่อกลุ่มเด็กผู้หญิงได้ฟัง พวกเธอก็รีบปฏิเสธ เพราะเด็กผู้ชาย คือสิ่งผิดปกติสำหรับพวกเธอ เมื่อทุกคนไม่ต้อนรับ พลูโตจึงจำใจต้องออกเดินทางต่อ
พลูโตเหาะไปยังดาวอีกดวง ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่อยู่กลางดวงดาว ที่นั่นมีทั้งเด็กชายหญิงอาศัยอยู่ พลูโตคิดว่า ดาวดวงนี้คงยินดีต้อนรับเขาแน่ ๆ พลูโตจึงเหาะลงไปแนะนำตัว “ฉันชื่อพลูโต เป็นเด็กที่ปลูกต้นไม้ 365 ต้น ในดาวน้ำแข็ง ฉันขอเป็นเพื่อนด้วยคนนะ”
เมื่อเด็ก ๆ เหล่านั้นได้ฟัง พวกเขาก็รีบถอยห่างจากพลูโต เพราะเด็กที่ปลูกต้นไม้บนดาวน้ำแข็งได้ เป็นเด็กที่เก่งผิดปกติ ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกด้อยกว่า หากต้องอยู่ใกล้ ๆ พลูโตเสียใจมาก แต่เขาจำต้องอดทน จากนั้น พลูโตก็เหาะไปยังดาวดวงอื่น ๆ ต่อ
อนิจจา…ไม่ว่าพลูโตจะเหาะไปที่ดาวดวงใด ใครต่อใครก็หาว่าเขาผิดปกติ ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ผู้คนทั้งหลายในดาวต่าง ๆ จึงไม่มีใครยอมรับให้พลูโต เป็นเพื่อนด้วยเลย พลูโตรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่า ตนเองคือตัวปัญหา และเขาคิดว่าบางทีมันอาจสมควรแล้ว ที่เขาควรถูกตัดออกจากสังคมจักรวาลนี้จริง ๆ
แม้พลูโตจะเสียใจ แต่เขาก็ยังคงอดทนเดินทางต่อไป ยังดาวดวงสุดท้าย ซึ่งอยู่สุดขอบอีกด้านหนึ่งของจักรวาล
ในตอนแรก พลูโตมองเห็นดาวดวงนั้นไม่ชัดนัด เพราะตาของเขาเต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความทุกข์ แต่เมื่อพลูโตปาดน้ำตาทิ้ง เขาก็เห็นว่าดาวที่อยู่เบื้องหน้า คือดาวสีส้มที่ดูร้อนระอุ แต่กลับมีต้นไม้ขึ้นมากถึง 365 ต้น โดยมีเด็กอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น
พลูโตแปลกใจต่อสิ่งที่ได้เห็น เขาตัดสินใจเหาะไปยังดาวดวงนั้น ครั้นเมื่อไปถึง เขาก็รีบเอ่ยปากขอเป็นเพื่อน พร้อมกับขอร้องไม่ให้เด็กคนนั้น กล่าวหาว่าเขาเป็นคนผิดปกติ
เด็กน้อยในดาวสีส้ม แปลกใจนิด ๆ ต่อคำพูดของพลูโต เด็กน้อยยิ้มแล้วบอกกับพลูโตว่า “ความปกติของแต่ละคนนั้น ไม่เหมือนกันหรอก ตัวเราเป็นอย่างไร ก็รักษาสิ่งนั้นไว้ให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่างฉันชอบความสงบ ฉันจึงเลือกมาอยู่ที่ดาวดวงนี้ และใช้ความสงบเย็นในใจ ปลูกต้นไม้เป็นเพื่อน”
คำพูดของเด็กคนนั้นทำให้พลูโตได้สติ จริง ๆ แล้ว พลูโตก็ชอบอยู่เงียบ ๆ เรียบง่าย และใช้ชีวิตตามลำพังในดาวน้ำแข็ง ซึ่งทุก ๆ วินาทีที่อยู่ที่นั่น… เขาก็มีความสุข และเป็นปกติดีทุกอย่าง แต่ความไม่ปกติเกิดขึ้น เมื่อใจของเขาคลอนแคลน จากข่าวที่ได้ยิน, จากการเชื่อคำของคนที่ไม่รู้จักเขาจริง ๆ และการที่เขาลืมย้อนกลับ ไปมองความปกติของตัวเองที่เคยมีอยู่
เมื่อพลูโตได้คิด เขาจึงขอบคุณเด็กน้อยแห่งดาวสีส้ม ที่ทำให้เขากลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง พลูโตยิ้มให้เพื่อนใหม่อย่างมีไมตรี แม้ทั้งคู่อาจชอบอยู่คนเดียว มากกว่าอยู่ด้วยกัน แต่อย่างน้อย พลูโตก็ดีใจที่การได้พบเพื่อนใหม่คนนี้ ทำให้เขาพบสิ่งที่หลงลืมไปเสียสนิท
ในที่สุด พลูโตก็กลับไปยังดาวน้ำแข็งตามลำพัง โดยมีหัวใจที่เป็นปกติ และมั่นคงดังเช่นที่เคยเป็น ซึ่งในอนาคต… ไม่ว่ารัฐบาลจักรวาล จะตัดดาวของเขา ออกจากสังคมจักรวาลหรือไม่ พลูโตก็ไม่รู้สึกเดือดร้อนแต่อย่างใด ตราบเท่าที่เขายังคงรักษา ความปกติในหัวใจเอาไว้ได้… เหมือนดังเดิม
#นิทานนำบุญ
…………………………..
เรื่องโดย นำบุญ นามเป็นบุญ
ภาพโดย เมธาวี จิราพงษ์

ดีจังเลยค่ะ เป็นนิทานที่ทำให้เด็กๆรู้สึกมั่นใจในตัวเองรู้จักเห็นคุณค่าของตัวเอง
LikeLike
ดีใจที่ชอบ ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ
LikeLike